มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1621

“หัตถ์แห่งเทพเป็นทักษะที่นักหมากรุกจำนวนนับไม่ถ้วนปรารถนา แต่คุณที่เป็นมือสมัครเล่นกลับจับพลัดจับผลูมั่วๆแล้วทำมันออกมาได้ นี่ทำให้รู้สึกสะอื้นอายจริงๆ”

จ้างหงหนีหยิกไปที่ข้อมือของตัวเองเบาๆ รู้สึกถึงความตื่นเต้นนิดหน่อย

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกไม่มีความสุขอยู่ครู่หนึ่ง นี่มันทำให้คนรู้สึกอายหรือเปล่า? แม่คุณนี่คือการดูถูกใช่มั้ย!

จ้าวหงหนีเริ่มเก็บกวาดตัวหมากรุกแล้วพูดขึ้น: “นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณไปได้ล่ะ”

ฉีเติ่งเสียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว แต่เขาในเวลานี้สัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่ดุเดือดและผันผวนของจ้าวหงหนีได้อย่างชัดเจน

ร่างกายมนุษย์มีสนามแม่เหล็ก และถ้ายอดฝืมือด้านศิลปะการต่อสู้มีความแข็งแกร่งมากเท่าใด สนามแม่เหล็กก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น ฉีเติ่งเสียนสามารถรู้สึกได้ว่าสนามแม่เหล็กของอีกฝ่ายมีความผันผวนรุนแรง

“คุณไม่ค่อยสบายใช่หรือเปล่า? ให้ฉันช่วยจับชีพจรให้มั้ย?” ฉีเติ่งเสียนถามขึ้น แล้วยื่นมือออกไปจับข้อมือของจ้าวหงซิ่วยกนิ้วดอกกล้วยไม้ของเธอขึ้นมาสะบัดมันเบาๆ แล้วแตะไปที่ปลายนิ้วของเขา พูดขึ้นด้วยเสียงนิ่งและใจเย็น : “ถ้ายังไม่ไป จ้าวหงซิ่วจะออกมาแล้วนะ !”

ฉีเติ่งเสียนรีบออกไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรต่อสักคำ

จ้าวหงหนีพูดขึ้นในตอนที่เขากำลังเปิดประตู: วันพรุ่งนี้มาเล่นหมากรุกสองเกมกับฉัน ถ้าคุณไม่มา จ้าวหงซิ่วจะไปหาและสู้กับคุณต่อ”

ฉีเติ่งเสียนหันกลับมา พร้อมสีหน้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูกแล้วถามขึ้น: “ไม่สิ นี่คุณติดการเอาชนะคู่ต่อสู้ที่อ่อนกว่าหรือไง? การพบกับคู่ต่อสู้ที่แท้ในเกมหมากรุกมันถึงจะสนุก การที่เล่นแล้วเอาชนะคู่ต่อสู้อย่างสบายๆแบบนี้มันจะสนุกหรอ?”

จ้าวหงหนีพูดอย่างสงบ : “การเอาชนะคนที่ฝืมืออ่อนกว่าแน่นอนว่ามันต้องสนุกอยู่แล้ว โดยเฉพาะการเอาชนะคนไร้ประโยชน์แบบคุณ”

ฉีเติ่งเสียนมีสีหน้าครึ้มไป เขาปิดประตูอย่างแรง โดยจ้าวหงซิ่วมาบังคับให้สู้ก็พอแล้ว ยังโดนจ้าวหงหนีมาเอาชนะง่ายๆอย่างนี้อีก คิดแล้วก็ช่างน่าน้อยใจ !

หลังจากที่จ้าวหงหนีรอให้คนออกไป ถึงจะพูดพึมพำขึ้น : หัตถ์แห่งเทพ…..”

หลังจากนั้นไม่นานน้ำเสียงของเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมา แล้วพูดกับตัวเองอีกครั้ง : “ฉันจำได้ว่าคุณเคยบอกไว้ว่าหากมีคนที่สามารถรู้ทักษะหัตถ์แห่งเทพในระหว่างที่เล่นหมากรุกกับคุณได้ แล้วคุณจะเลือกเขา?”

สำเนียงของเธอกลับมานุ่มนวลอบอุ่นอีกครั้ง แล้วพูดด้วยเสียงเรียบ: “เขาไม่นับว่าเป็นนักหมากรุก”

จ้าวหงซิ่วกล่าว : “จริงอยู่ที่ไม่ถือว่าเป็น เขาเป็นเพียงคนต่ำช้า ที่ผ่านการเล่นเกมได้โดยการโกงผ่านข้อบกพร่องในเกม!”

จ้าวหงหนีพูดพึมพำอีกครั้ง : “แต่นั้นคือหัตถ์แห่งเทพจริงๆ สิ่งที่ฉันตามหามาทั้งชีวิต…..”

จ้าวหงซิ่วยิ้มอย่างเสียดสี : “หวั่นไหวแล้ว?”

จ้าวหงหนีถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดขึ้น: “คืนร่างกายมา ฉันอยากเล่นเกมแล้ว ฉันไม่เชื่อหรอกว่าทักษะดาบของฉันจะเอาชนะอาชินะ เกนิจิโร่ไม่ได้!”

อย่างที่คาด ว่าจ้าวหงซิ่วก็ได้ไม่ไปตามความคิดที่ต้องการ เธอเตรียมที่จะกลายเป็น “คนแปลกหน้าที่น่ารังเกียจ” ที่ใช้วิธีการพิเศษในการทำให้ผ่าน

“พี่ชายก็อยากจะแยกจิตวิญญาณเช่นกัน และใช้ผ่านสองตัวตนอย่างผู้ก่อการร้ายฉี่เติ่งเสียน และพระคาร์ดินัลฉีเติ่งเสียนด้วยวิธีนี้พวกพี่ชายจะสามารถทำอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการ!” ฉีเติ่งเสียนคิดในใจ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จ้าวหงหนีพูดเกี่ยวกับหัตถ์เทพเจ้าเมื่อกี้นี้ ยังคงทำให้ฉีเติ่งเสียนรู้สึกตระหนักได้ไม่น้อย

การเคลื่อนไหวนั้นถือเป็นเรื่องผิดพลาดจริงๆ แต่อย่างไรเขาก็ไม่สามารถติดตามการเคลื่อนไหวต่อไปได้ ในตอนท้ายถึงยังคงเป็นผู้พ่ายแพ้ แต่ว่าในตอนที่ก้าวนั้นจบลงกลับทำให้เขาตระหนักอะไรขึ้นมาได้

“ช่างมันเถอะ ไม่คิดแม่งละ” เขาส่ายหัวเบาๆ แล้วกลับไปที่คฤหาสน์ คนรับใช้แจ้งว่าภรรยาของเขากำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า

แน่นอนว่าบุรุษที่ดีย่อมจะไม่แอบดูผู้หญิงเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉีเติ่งเสียนก็แค่อยากจะชื่นชมความงาม เขาผลักประตูห้องเสื้อผ้าออก ยังไรซะเขาก็เป็นบุรุษที่ดีที่ชำนาญในการพบความงามที่แท้จริง

ไม่สำคัญว่าใบหน้าจะเป็นรูปไข่เข้ารูป หน้าอกที่มีขนาดเกินมือ เอวค่อนโค้งงาม ขาที่เรียวยาว สิ่งที่สำคัญคือการพบสัจธรรมและความงามของชีวิตเท่านั้นเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง