มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 163

ฉีเติ่งเสียนเดินตรงไปที่ที่นั่งประธาน และนั่งลงอย่างสบายๆ

เฉียวชิงอวี่อึ้ง แล้วแสยะยิ้มและพูดว่า "หาเรื่องตายชะมัด!"

หยางกวนกวนก็ตบหน้าผากตัวเองเบาๆ ไอ่นี้ไม่เพียงแต่ขี้โม้เท่านั้น แถมยังกล้าหาญซะด้วย หาเรื่องใส่ตัวจริงๆ!

แต่ในวินาทีต่อมา คนรอบข้างก็ยืนขึ้นและพูดกับฉีเติ่งเสียนว่า "สวัสดีครับประธานฉี!"

"ไม่ต้องเกรงใจ นั่งลงเถอะ" ฉีเติ่งเสียนโบกมือสบายๆ พูดอย่างชิวๆ

ฉากนี้ทําให้เฉียวชิงอวี่สตั้นไปเลย

หยางกวนกวนก็เบิกตาสวยของเธอนั้นกว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉีเติ่งเสียน เป็นประธานของเทียนไล่แคปปิตอลจริงๆงั้นเหรอ?!

"เริ่มสัมภาษณ์กันเถอะ" ฉีเติ่งเสียนพูดขึ้น

การสัมภาษณ์ ก็แค่เป็นการปฏิบัติตามกระบวนการเท่านั้น หลังจากทั้งสิบคนสัมภาษณ์เสร็จแยกกันไป เซี่ยงเจิ้งเฟยกระแอมเสียงหนึ่ง กำลังจะพูด

ฉีเติ่งเสียนกลับพูดขึ้นว่า "ผมว่าสาวสวยที่ชื่อหยางกวนกวนไม่เลวนะ ทุกคนคิดว่าอย่างไร?"

ผู้สัมภาษณ์หลายคนต่างมองหน้ากันก่อน แล้วจึงค่อยๆพยักหน้า

ความสามารถของหยางกวนกวนนั้นไม่ต้องสงสัยเลย อีกทั้งยังเคยไปเรียนต่างประเทศ ด้านคุณสมบัติไม่มีปัญหาใดๆเลย

เพียงแต่ว่า ก่อนหน้านี้ เซี่ยงเจิ้งเฟยได้ทักทายพวกเขาไว้ก่อนแล้ว ให้พวกเขาช่วยพูดแทนเฉียวชิงอวี่ในขั้นตอนสุดท้าย

สีหน้าของเซี่ยงเจิ้งเฟยเปลี่ยนไปทันที และพูดเสียงต่ำว่า "ท่านประธานฉีครับ งานรับสมัครเลขานุการของท่านประธาน ผมเป็นผู้รับผิดชอบ ท่านควรเคารพความคิดเห็นของผมหน่อยไหมครับ?"

ฉีเติ่งเสียนพูดขึ้นว่า "หืม แล้วความคิดเห็นของนายคืออะไร?"

"เมื่อกี้คุณหยางกวนกวนพูดจาไม่ค่อยคล่องแคล่ว เห็นได้ชัดว่ายังไม่ค่อยมีคุณสมบัติพอ แต่คุณเฉียวชิงอวี่กลับทําได้ดีมาก ดังนั้นผมคิดว่าควรเลือกเฉียวชิงอวี่ครับ!" เซี่ยงเจิ้งเฟยตอบ

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกขำ หยางกวนกวนยังจะต้องพูดคล่องอีกแค่ไหนกัน?

ฉีเติ่งเสี่ยนตอบกลับว่า "อืม ความคิดเห็นของนายไม่เลว ดังนั้นฉันจึงเตรียมเลือกใช้คุณหยางกวนกวนเป็นเลขาประธาน"

พอฉีเติ่งเสียนพูดคํานี้ออกมา ก็ทําให้สีหน้าของเซี่ยงเจิ้งเฟยแย่ขึ้นมาทันที และพูดด้วยความโกรธว่า "ท่านประธานฉีครับ ท่านหมายความว่ายังไง? เมื่อกี้เพิ่งบอกว่าจะเคารพความคิดเห็นของผมไม่ใช่เหรอ?"

"ฉันเคารพแล้วไง ก็ให้นายพูดแล้วนิ แต่จะรับหรือไม่รับก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง" ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างชิวๆ

ฉีเติ่งเสียนพูดทีไร สามารถทําให้คนโกรธจนตายได้จริงๆ อย่างไรก็ตามหลังจากที่เซี่ยงเจิ้งเฟยได้ยินคําพูดนี้ ความโกรธก็พุ่งขึ้นมาตรงอก

เฉียวชิงอวี่ทำหน้าแค้นมาก ไม่คิดว่าเรื่องที่ถูกล็อกไว้จะถูกขัดขวาง อีกอย่าง คนที่มาขัดขวางยังเป็นฉีเติ่งเสียนที่ตัวเองดูถูกที่สุดอีก

หยางกวนกวนก็พอเข้าใจอารมณ์ของเธอเล็กน้อย ตอนแรกคิดว่าตัวเองจะไม่มีโอกาสแล้ว แต่การปรากฏตัวของฉีเติ่งเสียน ดูเหมือนจะทําให้เรื่องราวเปลี่ยนไป

"ท่านประธานฉี การรับสมัครงานครั้งนี้ผมเป็นผู้รับผิดชอบ และได้มอบหมายจากประธานเซี่ยงด้วย! ดังนั้น คนที่ตัดสินใจในขั้นสุดท้าย ควรจะเป็นผม!" เซี่ยงเจิ้งเฟยพูดด้วยเสียงเย็นชา

เขาไม่เห็นฉีเติ่งเสียนในสายตาของเขาเลย ในฐานะญาติของเซี่ยงตงฉิง และรับรู้ว่าฉีเติ่งเสียนเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ถูกสนับสนุนขึ้นมาเพื่อไว้บังหน้า เขาไม่เกรงกลัวเลยด้วยซ้ำ

ฉีเติ่งเสียนตอบว่า "นายเป็นผู้จัดการ ฉันเป็นประธาน ฉันมีอำนาจกว่าหรือนายมีอำนาจกว่าล่ะ?"

เซี่ยงเจิ้งเฟยเจอประโยคนี้เข้าไปก็โกรธจนหน้าแดงก่ำ ดูแย่สุดๆ

"ฉีเติ่งเสียน นายกำลังแก้แค้นส่วนตัว!" เฉียวชิงอวี่ก็ทนไม่ไหวแล้ว ตะโกนขึ้นมา

ฉีเติ่งเสียนอดหัวเราะออกมาไม่ได้ "ถ้าฉันจะแก้แค้นส่วนตัวแล้วยังไงล่ะ? ฉันเป็นนิติบุคคลของบริษัท ฉันเป็นประธาน ต้องฟังฉันทุกอย่าง!"

"ผมรู้สึกว่าหยางกวนกวนดีกว่าคุณ แม้ว่าเธอจะไม่เก่งเท่าคุณ แต่ที่ฉันเลือกเธอ ก็เพราะหน้าอกของเธอใหญ่กว่าคุณอีกไงล่ะครับ!"

"เป็นไง โกรธไหม?"

เฉียวชิงอวี่จะไม่โกรธได้อย่างไร แทบรอไม่ไหวที่จะขึ้นไปบีบคอฉีเติ่งเสียนให้ตายซะแล้ว

คําพูดนี้ ทําให้หน้าของหยางกวนกวนแดงไปหมด ใครเขาพูดแบบนี้กันเนี่ย? แย่มาก!

เซี่ยงเจิ้งเฟยตบโต๊ะ และตะโกนด้วยความโกรธว่า "ท่านประธานฉีครับ ท่านช่วยระวังคำพูดบ้างด้วยนะครับ!"

ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเฉยเมยว่า "ทําไม ผู้จัดการมาสั่งสอนประธานงั้นเหรอ?"

"ประธาน?!"

เซี่ยงเจิ้งเฟยหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

"ประธานอย่างนาย เป็นแค่หุ่นเชิดเท่านั้น ผู้บริหารตัวจริงของเทียนไล่แคปปิตอล คือท่านประธานที่ลึกลับคนนั้น!"

"นายคิดว่านายเป็นประธานหุ่นเชิดแล้วเก่งนักงั้นเหรอ?"

"เทียนไล่แคปปิตอล ก่อตั้งขึ้นด้วยน้ำมือของเซี่ยงกรุ๊ปของเรา"

"นายคิดว่านายเป็นใครกัน?"

"พูดไม่น่าฟังหน่อย นายก็เป็นแค่สุนัขตัวหนึ่งที่เราเลี้ยงให้กับเซี่ยงกรุ๊ปเท่านั้นเอง"

เซี่ยงเจิ้งเฟยไม่กลัวฉีเติ่งเสียนอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ปะทะกันซึ่งๆหน้าไปเลย ไม่มีอะไรต้องแคร์ ด่าว่าออกมาตรงๆ

"การดําเนินงานของบริษัท พวกเราเป็นคนทํา ประธานอย่างนายก็แค่แขวนชื่อไว้เป็นโล่กําบังเท่านั้น ยังคิดว่าตัวเองเป็นใครงั้นเหรอ?"

"ฉันบอกนายนะ ถ้านายยังขัดกับฉันอีก ฉันจะโทรหาเซี่ยงตงฉิง นายเชื่อไหมจะทำให้นายถูกไล่ออกจากบริษัทไปเลย?"

เซี่ยงเจิ้งเฟยจ้องมองฉีเติ่งเสียน คําพูดที่พูดออกมาก็บ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อยๆ

เฉียวชิงอวี่ได้ยินคําพูดของเซี่ยงเจิ้งเฟยก็อดไม่ได้ที่จะปรบมือ พูดเสียงดังว่า "พูดได้ดี!"

"ฉีเติ่งเซียนเป็นแค่สุนัขตัวหนึ่งที่เลี้ยงให้กับเซี่ยงกรุ๊ปเท่านั้น พอเอามาเป็นประธานหุ่นเชิด ก็คิดว่าตัวเองจำทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ?"

"คุณเซี่ยงเจิ้งเฟยเป็นคนในตระกูลเซี่ยงนะ ญาติของเซี่ยงตงฉิง นายมันก็แค่สุนัขตัวหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรมาเห่าใส่เจ้าของของตัวเอง?"

"ตำแหน่งเลขาประธาน ฉันต้องเป็นให้ได้ ไอ่ประธานสวะ สิ่งที่นายพูดมาถือเป็นโมฆะ!"

ในเวลานี้ หยางกวนกวนก็อดไม่ได้ที่จะกังวลเล็กน้อย เธอก็พอรู้ข้อมูลของเทียนไล่แคปปิตอล และรู้ว่าเจ้าของที่แท้จริงของบริษัทนี้คือประธานที่ลึกลักคนนั้น

บริษัทนี้อาจสร้างขึ้นจากข้อตกลงที่เป็นความลับระหว่างเซี่ยงตงฉิงและประธานลึกลับคนนั้นก็เป็นไปได้

พูดตรงๆก็คือ ในสถานการณ์ที่ประธานลึกลับคนนั้นไม่ออกหน้าล่ะก็ คนที่ควบคุมบริษัทเทียนไล่แคปปิตอลจริงๆ ก็ต้องเป็นเซี่ยงตงฉิง

ฉีเติ่งเสียนหัวเราะออกมา ตั้งแต่ที่เขาก่อตั้งเทียนไล่แคปปิตอล เขาแทบจะไม่เคยออกคําสั่งเลยสักครั้ง ล้วนให้คนด้านล่างจัดการกันเอง

ไม่คิดว่าผู้จัดการที่เซี่ยงตงฉิงจู่ๆก็หามาจากไหนไม่รู้ กลับเก่งกล้ากับเขาขนาดนี้ ไม่เห็นเขาในสายตาเลย

ดูเหมือนว่า ชื่อเสียงประธานลึกลับนี้จะสร้างกระแสมากเกินไป ทุกคนไม่ให้ความสำคัญกับเขาเลยสักนิด แค่คิดว่าเขาเป็นฮ่องเต้หุ่นเชิดเท่านั้น

"ฉันเป็นสุนัขของเซี่ยงกรุ๊ปงั้นเหรอ? นายไปเรียกเซี่ยงตงฉิงมา ดูสิว่าเธอจะกล้าพูดแบบนี้ไหม?" ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเรียบง่าย

"เหอะ ไอ่หมาอย่างนายยังกล้าดีอยู่ใช่ไหม? ก่อนหน้านี้ให้เกียรตินาย เรียกนายว่าประธานฉีก็เหลิงเลยดิ?"

"อยู่ต่อหน้าฉันเซี่ยงเจิ้งเฟย นายจะเสแสร้งไปทำไม นายไม่มีสิทธิ์เลยด้วยซ้ำ!"

"ฉันจะให้นายเลือกสองทาง"

"หนึ่งคือตอนนี้นั่งลงตามที่สั่ง ถือว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น และให้เฉียวชิงอวี่ผ่านสัมภาษณ์ไปอย่างราบรื่น"

"สองคือนายนั่งต่อไปได้เลย เดี๋ยวฉันจะโทรหาเซี่ยงตงฉิง ดูสิว่าเธอจัดการนายอย่างไร!"

เซี่ยงเจิ้งเฟยทำสีหน้าตึง ชี้ไปที่ฉีเติ่งเสียนแล้วตะโกนด่า

เฉียวชิงอวี่ก็รู้สึกว่าเซี่ยงเจิ้งเฟยด่าได้สะใจมาก ไอ่คนนี้ไม่รู้ว่าเขาไปพึ่งโชคที่ไหนมาถึงได้เป็นรองหัวหน้าฝ่ายกระทรวงความมั่นคงของเซี่ยงกรุ๊ปได้ ตอนนี้ก็เป็นแค่หุ่นเชิดของเทียนไล่แคปปิตอล กล้าดียังไงมาต่อรองงั้นเหรอ?

"นายรู้ไหมว่าการเอามือชี้มาที่ฉันแบบนี้จะมีผลอะไรตามมา?" ฉีเติ่งเสียนเงยหน้าขึ้นและถามอย่างเฉยเมย

"ชี้นายแล้วไง? กูจะจิ้มตามึงบอดยังได้เลย!" สีหน้าของเซี่ยงเจิ้งเฟยเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ยื่นนิ้วไปข้างหน้า

"ไง? อยากต่อยฉันเหรอ?"

"กูเป็นคนของตระกูลเซี่ยงนะเว้ย นายลองต่อยดูสิ!"

"กล้าดียังไงถึงคิดว่าตัวเองมีอำนาจ!"

"ท่านประธาน? ฮ่าฮ่าฮา หุ่นเชิดคนหนึ่งเท่านั้นเอง เป็นเรื่องตลกจริงๆ!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง