มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 162

หลังจากที่หยางกวนกวนได้ยินประโยคนี้จากเฉียวชิงอวี่ ก็อึ้งไปพักใหญ่

"เธอหมายความว่าไง?!" หยางกวนกวนถาม

"ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละ ตำแหน่งเลขานุการของประธานฉันถูกล็อกไว้แล้ว เธอไม่มีโอกาสหรอก" เฉียวชิงอวี่มองหยางกวนกวน สีหน้าเต็มไปด้วยความได้ใจ

"นี่เป็นไปไม่ได้! การรับสมัครครั้งนี้คุณเซี่ยงเป็นคนประกาศเอง เธอไม่มีโอกาสนี้แน่นอน!" หยางกวนกวนตอบด้วยน้ำเสียงประชด

เฉียวชิงอวี่กลับยักไหล่แล้วพูดว่า "ใครให้ฉันหน้าตาดีแถมมีแฟนที่มีความสามารถด้วยล่ะ? ตอนนี้เขาเป็นผู้จัดการของเทียนไล่แคปปิตอลเลยนะ"

ระหว่างพูด เฉียวชิงอวี่ส่งสายตาใส่ชายคนหนึ่ง ชายคนนั้นก็ยิ้มตามด้วย

หยางกวนกวนสังเกตเห็นป้ายที่วางอยู่หน้าโต๊ะของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเขียนว่าผู้จัดการของเทียนไล่แคปปิตอล และชื่อของเขาคือเซี่ยงเจิ้งเฟย

ถ้าหากว่าแซ่เซี่ยง ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นญาติของเซี่ยงตงฉิงแล้ว

หยางกวนกวนเห็นฉากนี้ สีหน้าก็อดไม่ได้ที่จะซีดลง เลขาประธานเป็นชื่อเรียกย่อของเลขานุการของผู้บริหาร เซี่ยงเจิ้งเฟยในฐานะผู้จัดการมีอำนาจพอที่จะเลือกรับคนเข้าสมัคร

เทียนไล่แคปปิตอลในปัจจุบัน ยังไม่ได้จัดตั้งคณะกรรมการของบริษัท เลขาประธาน น่าจะแค่รับผิดชอบโดยประธานเท่านั้น

และประธานที่แท้จริง คงเป็นเป็นประธานลึกลับคนนั้นที่ไม่ค่อยเปิดเผยตัวตนอย่างไม่ต้องสงสัย เขาคงไม่ออกหน้าเพราะเรื่องแค่นี้แน่นอน

"แม้ว่าเทียนไล่แคปปิตอลจะเป็นของท่านประธานลึกลับคนนั้น แต่สุดท้ายแล้วก็ก่อตั้งขึ้นโดยเซี่ยงกรุ๊ป การบริหารและการตัดสินใจในบริษัท ท่านประธานลึกลับท่านนั้นคงจะไม่เข้าร่วมด้วย" เฉียวชิงอวี่หัวเราะอย่างสะใจ

อารมณ์ของหยางกวนกวนเริ่มหดหู่ ถ้ามีการล็อกตำแหน่งไว้จริงๆ แล้วตัวเธอเองที่บินไกลกลับมาจากต่างประเทศมาเพื่ออะไร?

เหตุผลที่เธอเลือกเทียนไล่แคปปิตอลก็เพราะถูกใจศักยภาพในการพัฒนาของเทียนไล่แคปปิตอลรวมถึงภูมิหลังที่แข็งแกร่งของประธานลึกลับคนนั้น

ด้วยสิ่งเหล่านี้ เธอจึงมีทุนที่จะแข่งขันกับตระกูลหยางแห่งโมตู

"สิ้นหวังเหรอ? เหอะๆ แต่ความจริงก็เป็นแบบนี้แหละนะ เธอไม่มีโอกาสหรอก" เฉียวชิงอวี่พูดด้วยความดูถูก

ในเวลานี้ คนของเทียนไล่แคปปิตอลได้เริ่มบรรยายแล้ว และให้ผู้สมัครทุกคนนั่งลงแล้วเริ่มแจกข้อสอบ

สอบข้อเขียนมีเพียงสองข้อ ให้เวลาสามสิบนาที

สิบนาทีต่อมา ได้คัดเลือกสิบคนที่เข้าสู่การสัมภาษณ์ขั้นสุดท้าย

หยางกวนกวนและเฉียวชิงอวี่ต่างก็อยู่ในสิบคนนี้

หยางกวนกวนรู้สึกว่า ไหนๆตัวเองก็มาแล้ว ต้องสู้สักตั้ง ไม่แน่อาจจะมีจุดเปลี่ยนก็ได้?

ฉีเติ่งเสียนปรากฏตัวขึ้นในการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย เขายิ้มให้กับหยางกวนกวนแล้วพูดว่า "ขอโทษนะครับ มาช้าไปนิดหน่อย เมื่อกี้โทรหาคนในออฟฟิศมาครับ"

"ไอ่คนแซ่ฉี ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่?" เฉียวชิงอวี่ถามเสียงดัง

"ผมเป็นตัวแทนของเทียนไล่แคปปิตอล และเป็นประธานด้วย ทําไมผมถึงมาไม่ได้?" ฉีเติ่งเสียนถามกลับ

หลังจากเฉียวชิงอวี่ได้ยินดังนั้น ก็หลุดหัวเราะและพูดว่า "อย่างนายน่ะเหรอ? จะเป็นประธานของเทียนไล่แคปปิตอล? อย่ามาล้อเล่นหน่อยเลย!"

"ถ้านายเป็นประธานของเทียนไล่แคปปิตอล งั้นฉันก็เป็นผู้บริหารที่แท้จริงของเทียนไล่แคปปิตอล ประธานลึกลับคนนั้นแล้วแหละ!"

"พูดอะไร ไม่ผ่านสมองจริงๆ"

ฉีเติ่งเสียนพูดนิ่งๆว่า "คุยกับพ่อแบบนี้เหรอ?"

เฉียวชิงอวี่ชะงัก จากนั้นก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ เธอเคยเรียกฉีเติ่งเสียนว่าพ่อมาก่อน เรื่องนี้เป็นรอยด่างพร้อยตลอดชีวิต

"ไอ่คนแซ่ฉี นายมันไร้ความสามารถ ถ้านายยังกล้าพูดแบบนี้กับฉันอีกละก็ หลังจากที่ฉันได้เป็นเลขาประธานแล้ว จะให้เทียนไล่แคปปิตอลยุติความร่วมมือกับเฉียวชิวเมิ่งไปเลย นายเชื่อไหม?" เฉียวชิงอวี่พูดอย่างโมโห

เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว รอเป็นเลขานุการประธานของเทียนไล่แคปปิตอลก่อน และพอตั้งหลักในบริษัทได้ ก็จะมุ่งเป้าไปที่เฉียวชิวเมิ่งทันที จากนั้นก็สนับสนุนคนของตัวเองให้ดํารงตําแหน่งในเฉียวกรุ๊ป

ฉีเติ่งเสียนเหมือนได้ฟังเรื่องตลกเรื่องหนึ่ง จึงถามว่า "อะไรนะ? คุณจะเป็นเลขาประธานเหรอ? อย่ามาล้อเล่นเลยหน่า!"

เฉียวชิงอวี่พูดอย่างมั่นใจว่า "ทําไม คิดไม่ถึงละสิ? ฉันจะกลายเป็นเลขาท่านประธานของเทียนไล่แคปปิตอลแล้วนะ นี่เป็นการล็อกตำแหน่งไว้แล้ว!"

ฉีเติ่งเสียนส่ายหัวและพูดว่า "เท่าที่ผมรู้ คนที่ล็อกไว้ ทําไมเป็นคุณหยางกวนกวนล่ะ?"

"ฮ่าๆ ไอ่โง่! นายพูดเรื่องไร้สาระอะไรที่นี่อีก?"

"นายเป็นใครกัน มีสิทธิ์ที่จะรู้คนที่ล็อกตำแหน่งไว้ของเทียนไล่แคปปิตอลด้วยเหรอ?"

"รีบไสหัวไป ฉันไม่มีอารมณ์มาจู้จี้จุกจิกกับขยะอย่างนาย"

สีหน้าของเฉียวชิงอวี่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง และรู้สึกว่าตัวเองต้องได้รับตำแหน่งเลขาประธานแน่ๆ จึงไม่อยากเสียเวลาคุยเรื่องไร้สาระกับฉีเติ่งเสียนอีกเลย

หยางกวนกวนทำสีหน้าบึ้งตึงและพูดกับฉีเติ่งเสียนว่า "เธอพูดถูก เธอมีความสัมพันธ์กับผู้จัดการเซี่ยงเจิ้งเฟยของเทียนไล่แคปปิตอล เรื่องนี้ คงจะเป็นการล็อกตำแหน่งไว้แล้วจริงๆ"

"ตอนนี้ เว้นแต่ประธานลึกลับคนนั้นจะออกหน้า ไม่งั้นละก็ เรื่องนี้คงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง"

"ไม่คาดคิดว่าฉันจะด่วนชิงตายซะก่อน"

พูดจบ ใบหน้าของหยางกวนกวนก็ยิ้มอย่างขมขื่น

ฉีเติ่งเสียนส่ายหัวแล้วพูดว่า "คุณอย่าคิดในแง่ร้ายขนาดนี้ ทําตามความคิดของตัวเองก็พอแล้ว ผมมั่นใจว่า เลขาประธานต้องเป็นคุณแน่นอน"

หยางกวนกวนไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำพูดปลอบใจของเขาแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกว่าเขาเสแสร้งเกินไปหน่อย เวลานี้ ยังจะปลอมตัวเป็นผู้บริหารของเทียนไล่แคปปิตอลอยู่อีก

ทำไมไม่ปลอมตัวเป็นประธานลึกลับคนนั้นเลยล่ะ!

"หยางกวนกวน ถ้าเธอคุกเข่าให้ฉันและเลียรองเท้าของฉันให้สะอาด ฉันอาจจะสละสิทธิ์ตำแหน่งเลขาประธานนี้ให้แกก็ได้?" เฉียวชิงอวี่พูดเยาะเย้ยในเวลานี้

"คุณหุบปากไปเถอะ คุณเป็นเลขานุการของประธานไม่ได้หรอก ผมพูดเอง" ฉีเติ่งเสียนหันไปพูดอย่างเฉยเมย

เฉียวชิงอวี่หัวเราะเยาะ "ฉันเป็นไม่ได้? แล้วหยางกวนกวนจะเป็นได้งั้นเหรอ? ถ้าหยางกวนกวนเป็นได้ ฉันจะคุกเข่าและเลียรองเท้าให้เธอเลย!"

ฉีเติ่งเสียนส่ายหัวแล้วพูดว่า "ช่างมันเถอะ คำพูดที่คุณพูดในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากตดที่เป็นเพียงค่ลม ครั้งที่แล้วในงานวันเกิดของท่านผู้เฒ่า ก็ไม่เห็นคุณคุกเข่าเรียกพ่อเลยนิ"

เฉียวชิงอวี่ถูกต่อว่าจนโกรธมาก ถ้าไม่ใช่คนเยอะไปละก็ เธอคงวิ่งเข้าไปตบหน้าของฉีเติ่งเสียนแน่ๆ

"ฉีเติ่งเสียนไอ้ลูกหมา ถ้าฉันได้เป็นเลขาประธาน สิ่งแรกที่จะทำคือให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจับนายออกไปข้างนอกก่อนเลย นอกจากนี้ ฉันยังจะอัดคลิปให้เฉียวชิวเมิ่งดู ให้เธอเสียหน้าอับอายไปด้วย" เฉียวชิงอวี่กัดฟันด่าและขู่ฉีเติ่งเสียน

ฉีเติ่งเสียนยักไหล่แล้วพูดว่า "ได้สิ ถ้าคุณให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจับผมออกไปได้ ต่อไปผมจะเรียกคุณว่าพ่อละกัน"

หยางกวนกวนตบไหล่ฉีเติ่งเสียนแล้วพูดว่า "พอเหอะ อย่าไปคุยกับเธอเลย เดี๋ยวเกิดเรื่องขึ้น สีหน้าของทุกคนก็คงไม่ดีหรอก"

ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าเห็นด้วยกับคําพูดของหยางกวนกวน

"ต่อไป เข้าสู่ขั้นตอนการสัมภาษณ์ขั้นสุดท้าย"

"ในการสัมภาษณ์ขั้นสุดท้าย ประธานของเทียนไล่แคปปิตอลของเราจะออกมาสังเกตการณ์เช่นกัน ขอให้ผู้เข้าแข่งขันสิบคนที่เข้าสู่การสัมภาษณ์ขั้นสุดท้ายทำให้เต็มที่!"

ผู้สัมภาษณ์คนหนึ่งยืนขึ้นและพูดในเวลานี้

เฉียวชิงอวี่แสยะยิ้มให้ฉีเติ่งเสียนอย่างเหยียดหยามและพูดว่า "ไอ่โง่ ได้ยินไหม? ประธานก็จะออกหน้าด้วย! เมื่อกี้นายเพิ่งปลอมตัวเป็นประธานไม่ใช่เหรอ? กล้าไหม ขึ้นไปนั่งที่ตําแหน่งนั้นสิ!"

ระหว่างพูด เธอยื่นมือชี้ไปที่ที่นั่งตรงกลางสุด

ฉีเติ่งเสียนอดหัวเราะไม่ได้ แถมยังยิ้มสดใสมาก พูดกับเฉียวชิงอวี่ว่า "โอเค ลูกสาวที่ดี เดี๋ยวพ่อสนองความต้องการของลูกเอง"

หลังจากพูดเสร็จ เขาก็เดินตรงไปที่ที่นั่งประธาน

หยางกวนกวนอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและพึมพําว่า "สมองไอ่นี้มันมีปัญหาเหรอวะ? สถานการณ์แบบนี้?อยากตายหรือไง"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง