มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 161

"ขับรถช้าลงหน่อย ฉันจะเติมหน้า"

หยางกวนกวนนั่งอยู่ข้างหลัง หยิบกล่องเครื่องสำอางออกมาและเริ่มเติมหน้า

ฉีเติ่งเสียนส่ายหัวและพูดว่า "ไม่จําเป็นต้องทางการขนาดนี้หรอก ยังไงแล้วคุณก็ผ่านแน่นอน!"

หยางกวนกวนขมวดคิ้ว พูดด้วยน้ำเสียงประชดว่า "นายจะไปรู้อะไร? เงื่อนไขที่เทียนไล่แคปปิตอล เสนอมาครั้งนี้นั้นดีมากๆ คนเก่งทั่วประเทศต่างแห่กันมาสมัครงาน"

"แม้ว่าคุณสมบัติของฉันเองจะไม่แย่ แถมความสามารถของฉันก็ถือว่าดีระดับนึงเลย แต่ถ้าอยากจะโดดเด่นในหมู่ผู้ที่มีความสามารถมากมายขนาดนี้ ก็ต้องพึ่งโชคด้วย"

ฉีเติ่งเสียนตอบ "ผมบอกว่าคุณจะผ่าน ก็จะผ่านแน่นอน"

"นายพูดว่าไรก็เป็นอย่างนั้นงั้นเหรอ? เทียนไล่แคปปิตอลเป็นของบ้านนายหรือไง?" หยางกวนกวนวางกล่องแต่งหน้าลงด้วยท่าทีหมดคำจะพูด

"ใช่ ก็ผมเป็นประธานบริษัทของเทียนไล่แคปปิตอล ในเมื่อคุณเป็นเพื่อนสนิทของชิวเมิ่ง แค่ผมพูดคำเดียว คิดว่าจะรับคุณเข้าไม่ได้เหรอ?" ฉีเติ่งเสียนพูดแบบนิ่งๆ

หยางกวนกวนเกือบจะหัวเราะออกมา ถามขึ้นว่า "ประธานบริษัทเทียนไล่ขับรถโฟล์คสวาเกนเนี่ยนะ?!"

ตอนเจอกันครั้งแรกที่สนามบินในเมื่อวานนี้ ความประทับใจแรกที่เธอมีต่อฉีเติ่งเสียนก็ไม่ค่อยดีนัก รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ซื่อสัตย์ ขนาดแต่งงานกับเฉียวชิวเมิ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่หยุดสายตาหื่นนั้นได้

บนโต๊ะอาหาร เฉียวชิวเมิ่งได้วิจารณ์นิสัยของฉีเติ่งเสียนให้เธอฟังด้วย ซึ่งทําให้เธอยิ่งไม่ชอบฉีเติ่งเสียนเข้าไปใหญ่

"เป็นเหมือนที่เมิ่งเมิ่งพูดเลย เจ้านี้มันขี้โม้ พูดโน้มน้าวใจเก่ง ปากดี แม้แต่คําพูดที่ว่าเขาเป็นประธานบริษัทของเทียนไล่แคปปิตอลก็สามารถพูดออกมาได้!" หยางกวนกวนส่ายหัว

ถ้าฉีเติ่งเสียนเป็นประธานบริษัทของเทียนไล่แคปปิตอลละก็ แล้วตัวเธอเองที่มาสมัครเป็นเลขานุการกลับให้ประธานบริษัทมาขับรถรับ นี่มันเรื่องอะไรกัน?

สีหน้าของฉีเติ่งเสียนกลับดูนิ่ง และพูดว่า "ผู้บริหารระดับสูงของเทียนไล่แคปปิตอลค่อนข้างเชื่อใจผม ถ้าผมบอกว่าจะรับคุณ พวกเขาไม่กล้าว่าอะไรแน่นอน"

หยางกวนกวนโบกมือแล้วพูดว่า "พอเหอะๆ รู้ว่านายเก่ง หยุดพูดได้แล้ว"

"ฉันว่า ถ้านายพูดว่าตัวเองเป็นประธานที่ลึกลับของเทียนไล่แคปปิตอลเองดีกว่าเยอะ"

"เหอะๆ"

ฉีเติ่งเสียนเงียบไม่ตอบ

หลังจากที่หยางกวนกวนเติมหน้าเสร็จ ก็เก็บกล่องแต่งหน้าให้เรียบร้อย แล้วพูดว่า "นายเคยคิดถึงอนาคตของตัวเองกับเมิ่งเมิ่งบ้างไหม?"

ฉีเติ่งเสียนตอบ "คิดสิ แต่ดูเหมือนว่าระหว่างเราสองคนจะมีช่องว่างขนาดใหญ่"

"ไม่ นายพูดผิดแล้ว ไม่ใช่ช่องว่าง!" หยางกวนกวนปฏิเสธคําพูดนี้อย่างเด็ดขาด

"หืม?" ฉีเติ่งเสียนไม่เข้าใจ

"มันคือความแตกต่างราวฟ้ากับเหว คนหนึ่งเป็นฟ้า คนหนึ่งเป็นเหว"

"พูดไม่น่าฟังหน่อย ก็คือหงส์กับคางคกนั่นเอง"

"นายคิดว่า ผู้คุมเรือนจําตัวน้อยๆ คุณชายตกอับ จะคู่ควรกับประธานของเฉียวกรุ๊ปได้อย่างไร?"

หยางกวนกวนพูดจาไม่ไว้หน้าเลย รู้สึกว่าคนอย่างฉีเติ่งเสียนไม่คู่ควรกับเฉียวชิวเมิ่งเลย ดังนั้นจึงแซะเรื่องนี้สักหน่อย เพื่อให้ทั้งสองรีบๆเลิกกัน เฉียวชิวเมิ่งจะได้ไม่ต้องทรมาน

ฉีเติ่งเสียนไม่ตอบ หยางกวนกวนพูดต่ออีกว่า "พูดง่ายๆก็คือ พวกคุณไม่ใช่คนโลกเดียวกัน"

ฉีเติ่งเสียนหรี่ตาแล้วหัวเราะ พูดว่า "สิ่งที่ผมเกลียดที่สุดคือประโยคสุดท้ายที่คุณพูดมานี่แหละ"

ประโยคนี้ อวี้เสี่ยวหลงเคยพูด เฉียวชิวเมิ่งเคยพูด สวี่เอ้าเสวี่ยเคยพูด หลี่อวิ๋นหว่านเคยพูดไหมเขาจําไม่ได้แล้ว ตอนนี้ถึงตาหยางกวนกวนพูดอีก

ฉีเติ่งเสียนสงสัยมาก พวกเขาเอาความมั่นมาจากไหนกัน หรือว่าอาศัยอยู่บนดาวอังคาร? ถึงได้พูดว่าไม่ใช่คนโลกเดียวกัน

"นายไม่มีทุนที่จะเกลียด ถ้านายอยากคู่ควรกับเฉียวชิวเมิ่ง งั้นนายก็ต้องมีความสามารถและทุนเหมือนประธานลึกลับแบบนั้นถึงจะได้!" หยางกวนกวนพูดอย่างเฉยเมย

"เหอะๆ" ฉีเติ่งเสียนอดหัวเราะไม่ได้ กูเป็นประธานลึกลับนั้นเอง ยังต้องพยายามอีกเหรอ นอนเฉยๆก็พอ

หยางกวนกวนส่ายหัว คิดแค่ว่าผู้ชายคนนี้ไม่เอาไหนเลย รวยแค่นี้ก็พอ เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ทะเยอทะยานและมีความมุ่งมั่นพร้อมที่จะทํางานหนักอย่างพวกเธอแล้ว มันแตกต่างกันมากจริงๆ

หยางกวนกวนพูดอีกว่า "ถ้านายไปเมืองที่พัฒนาน้อยๆละก็ยังถือว่าโอเค แต่งงานกับภรรยาที่หน้าตาดี มีลูกสักคน อยู่แบบนั้นตลอดชีวิต"

"แต่ถ้าอยู่ในเมืองจงไห่แห่งนี้ ท่าทีที่รวยนิดหน่อยก็พอใจแล้วอย่างนาย อยู่ไม่รอดหรอก"

"บางทีนายอาจจะพอฝืนไปได้ แต่คงไม่มีวันได้เข้าสู่วงการไฮโซได้อย่างแน่นอน!"

ฉีเติ่งเสียนตอบ "ทําไมผมต้องเข้าไปในวงการไฮโซด้วย? ผมอยู่สบายๆเองก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?"

"ผมอยากจะกินอาหารตะวันตกหรือปิ้งย่าง ยังจะมีคนมายุ่งด้วยหรือไง? และมาดูถูกผมเพราะเหตุนี้เนี่ยนะ?"

หยางกวนกวนถูกผู้ชายคนนี้เถียงจนพูดไม่ออก เป็นอย่างที่เฉียวชิวเมิ่งพูด เขาปากดีพูดเก่ง แถมยังปากหมาด้วย บางทีก็ทําให้คนโมโหเหมือนกัน

ข้อนี้ หลี่อวิ๋นหว่านก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่เมื่อคืนเธอไม่ได้พูดถึงฉีเติ่งเสียนตั้งแต่ต้นจนจบเลยสักนิด

"ฉันกับนายคุยกันไม่รู้เรื่องหรอก เราไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน" หยางกวนกวนส่ายหัว

ในขณะเดียวกัน หยางกวนกวนก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า ทำไมเซี่ยงตงฉิงถึงได้ปล่อยให้คนแบบนี้อยู่ในตําแหน่งหัวหน้าสําคัญในเซี่ยงกรุ๊ปได้ล่ะ?

หน้ามืดตามัวไปหรือไง?

อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่คุ้มค่าที่จะไปตรวจสอบ ตอนนี้ในยุคที่เต็มไปด้วยโอกาส คนโง่ก็สามารถพึ่งโชคแล้วเจริญได้เลย

ในไม่ช้า ฉีเติ่งเสียนก็ขับมาถึงหน้าประตูของเทียนไล่แคปปิตอล

"ลําบากนายรอฉันที่นี่แปปนึงนะ" หยางกวนกวนพูดกับฉีเติ่งเสียน

แม้ว่าเธอจะไม่ชอบฉีเติ่งเสียน แต่มารยาทในตัวเธอก็พอมี พูดอย่างเกรงใจสุดๆ

หลังจากพูดจบ หยางกวนกวนก็หันไปเดินเข้าไปในบริษัทเลย

ฉีเติ่งเสียนชะงักเล็กน้อย แล้วลงจากรถ ส่ายหัวพูดว่า "ให้ผมรอคุณอยู่ที่นี่ แล้วใครจะมาสัมภาษณ์คุณล่ะ?"

หลังจากที่เขาเข้าไปในบริษัท เขาไม่เห็นเงาของหยางกวนกวน ก็เลยกลับไปที่สํานักงานใหญ่ของเขาก่อน

ห้องทํางานถูกจัดโดยหลี่อวิ๋นหว่านเอง เขารู้สึกสบายตามาก รู้สึกว่าผู้หญิงที่มีอิทธิพลต่อเขานั้นยอดเยี่ยมในทุกที่และทําได้ทุกอย่าง

"ฟู่ว"

หยางกวนกวนหายใจเข้าลึกๆ และเข้าไปในห้องประชุมของเทียนไล่แคปปิตอล

ที่นี่มีคนเก่งรออยู่มากมายแล้ว มีทั้งสาวสวยและหนุ่มหล่อ โปร์ไฟล์ไม่ธรรมดาเลยทั้งนั้น

"เอ๊ะ นี่หยางกวนกวนไม่ใช่เหรอ?" ในเวลานี้ก็มีเสียงประชดประชันของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น

"หืม? เธอเองเหรอ เฉียวชิงอวี่!" หยางกวนกวนหันไปขมวดคิ้วใส่ทันที

หยางกวนกวนคิดไม่ถึงว่าเฉียวชิงอวี่จะอยู่ที่นี่ด้วย แม้ว่าเฉียวชิงอวี่และเฉียวชิวเมิ่งจะเป็นญาติกัน แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเรื่องกับหยางกวนกวนมาก่อน

หยางกวนกวนไม่ชอบนิสัยก้าวร้าวของเฉียวชิงอวี่ที่ทำต่อเฉียวชิวเมิ่ง เลยทะเลาะกับเธอ

กลับมาจากต่างประเทศครั้งนี้ กลับไม่คิดว่าทั้งคู่จะเจอกันอีก แถมยังอยู่ในงานประชุมสมัครเป็นเลขานุการของเทียนไล่แคปปิตอลซะด้วย!

เฉียวชิงอวี่พูดขึ้นว่า "โห หน้าอกใหญ่ขึ้นอีกแล้ว! แต่ไม่รู้ว่า สมองจะใช้งานได้ไม่ดีเท่าเดิมด้วยหรือเปล่า"

สีหน้าของหยางกวนกวนยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดว่า "หน้าอกใหญ่ก็เป็นต้นทุนเหมือนกัน ดูดีกว่าไม้กระดานของเธอเยอะ"

ผู้ชายหลายคนที่อยู่รอบๆอดไม่ได้ที่จะมองมาที่หุ่นของหยางกวนกวน

บางคน พอมองหุ่นเฉียวชิงอวี่ก็ละสายตาไปอย่างเหยียดหยาม เธอสวยกว่าหยางกวนกวนตรงไหนล่ะ?

เฉียวชิงอวี่โกรธคำพูดนี้จนหน้าซีด ตอบกลับอย่างเย็นชาว่า "มาสมัครตำแหน่งเลขานุการของเทียนไล่แคปปิตอลหรือ?"

"ใช่" หยางกวนกวนพูดอย่างใจเย็น

"งั้นขอโทษด้วยนะ ตําแหน่งเลขานุการของประธาน ฉันถูกล็อกไว้แล้ว ส่วนเธอ วิ่งงานให้ดีๆเถอะ!" จู่ๆเฉียวชิงอวี่ก็ลดเสียงลง พูดด้วยรอยยิ้มจางๆ และในน้ําเสียงนั้น เต็มไปด้วยความโอ้อวด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง