"ขับรถช้าลงหน่อย ฉันจะเติมหน้า"
หยางกวนกวนนั่งอยู่ข้างหลัง หยิบกล่องเครื่องสำอางออกมาและเริ่มเติมหน้า
ฉีเติ่งเสียนส่ายหัวและพูดว่า "ไม่จําเป็นต้องทางการขนาดนี้หรอก ยังไงแล้วคุณก็ผ่านแน่นอน!"
หยางกวนกวนขมวดคิ้ว พูดด้วยน้ำเสียงประชดว่า "นายจะไปรู้อะไร? เงื่อนไขที่เทียนไล่แคปปิตอล เสนอมาครั้งนี้นั้นดีมากๆ คนเก่งทั่วประเทศต่างแห่กันมาสมัครงาน"
"แม้ว่าคุณสมบัติของฉันเองจะไม่แย่ แถมความสามารถของฉันก็ถือว่าดีระดับนึงเลย แต่ถ้าอยากจะโดดเด่นในหมู่ผู้ที่มีความสามารถมากมายขนาดนี้ ก็ต้องพึ่งโชคด้วย"
ฉีเติ่งเสียนตอบ "ผมบอกว่าคุณจะผ่าน ก็จะผ่านแน่นอน"
"นายพูดว่าไรก็เป็นอย่างนั้นงั้นเหรอ? เทียนไล่แคปปิตอลเป็นของบ้านนายหรือไง?" หยางกวนกวนวางกล่องแต่งหน้าลงด้วยท่าทีหมดคำจะพูด
"ใช่ ก็ผมเป็นประธานบริษัทของเทียนไล่แคปปิตอล ในเมื่อคุณเป็นเพื่อนสนิทของชิวเมิ่ง แค่ผมพูดคำเดียว คิดว่าจะรับคุณเข้าไม่ได้เหรอ?" ฉีเติ่งเสียนพูดแบบนิ่งๆ
หยางกวนกวนเกือบจะหัวเราะออกมา ถามขึ้นว่า "ประธานบริษัทเทียนไล่ขับรถโฟล์คสวาเกนเนี่ยนะ?!"
ตอนเจอกันครั้งแรกที่สนามบินในเมื่อวานนี้ ความประทับใจแรกที่เธอมีต่อฉีเติ่งเสียนก็ไม่ค่อยดีนัก รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ซื่อสัตย์ ขนาดแต่งงานกับเฉียวชิวเมิ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่หยุดสายตาหื่นนั้นได้
บนโต๊ะอาหาร เฉียวชิวเมิ่งได้วิจารณ์นิสัยของฉีเติ่งเสียนให้เธอฟังด้วย ซึ่งทําให้เธอยิ่งไม่ชอบฉีเติ่งเสียนเข้าไปใหญ่
"เป็นเหมือนที่เมิ่งเมิ่งพูดเลย เจ้านี้มันขี้โม้ พูดโน้มน้าวใจเก่ง ปากดี แม้แต่คําพูดที่ว่าเขาเป็นประธานบริษัทของเทียนไล่แคปปิตอลก็สามารถพูดออกมาได้!" หยางกวนกวนส่ายหัว
ถ้าฉีเติ่งเสียนเป็นประธานบริษัทของเทียนไล่แคปปิตอลละก็ แล้วตัวเธอเองที่มาสมัครเป็นเลขานุการกลับให้ประธานบริษัทมาขับรถรับ นี่มันเรื่องอะไรกัน?
สีหน้าของฉีเติ่งเสียนกลับดูนิ่ง และพูดว่า "ผู้บริหารระดับสูงของเทียนไล่แคปปิตอลค่อนข้างเชื่อใจผม ถ้าผมบอกว่าจะรับคุณ พวกเขาไม่กล้าว่าอะไรแน่นอน"
หยางกวนกวนโบกมือแล้วพูดว่า "พอเหอะๆ รู้ว่านายเก่ง หยุดพูดได้แล้ว"
"ฉันว่า ถ้านายพูดว่าตัวเองเป็นประธานที่ลึกลับของเทียนไล่แคปปิตอลเองดีกว่าเยอะ"
"เหอะๆ"
ฉีเติ่งเสียนเงียบไม่ตอบ
หลังจากที่หยางกวนกวนเติมหน้าเสร็จ ก็เก็บกล่องแต่งหน้าให้เรียบร้อย แล้วพูดว่า "นายเคยคิดถึงอนาคตของตัวเองกับเมิ่งเมิ่งบ้างไหม?"
ฉีเติ่งเสียนตอบ "คิดสิ แต่ดูเหมือนว่าระหว่างเราสองคนจะมีช่องว่างขนาดใหญ่"
"ไม่ นายพูดผิดแล้ว ไม่ใช่ช่องว่าง!" หยางกวนกวนปฏิเสธคําพูดนี้อย่างเด็ดขาด
"หืม?" ฉีเติ่งเสียนไม่เข้าใจ
"มันคือความแตกต่างราวฟ้ากับเหว คนหนึ่งเป็นฟ้า คนหนึ่งเป็นเหว"
"พูดไม่น่าฟังหน่อย ก็คือหงส์กับคางคกนั่นเอง"
"นายคิดว่า ผู้คุมเรือนจําตัวน้อยๆ คุณชายตกอับ จะคู่ควรกับประธานของเฉียวกรุ๊ปได้อย่างไร?"
หยางกวนกวนพูดจาไม่ไว้หน้าเลย รู้สึกว่าคนอย่างฉีเติ่งเสียนไม่คู่ควรกับเฉียวชิวเมิ่งเลย ดังนั้นจึงแซะเรื่องนี้สักหน่อย เพื่อให้ทั้งสองรีบๆเลิกกัน เฉียวชิวเมิ่งจะได้ไม่ต้องทรมาน
ฉีเติ่งเสียนไม่ตอบ หยางกวนกวนพูดต่ออีกว่า "พูดง่ายๆก็คือ พวกคุณไม่ใช่คนโลกเดียวกัน"
ฉีเติ่งเสียนหรี่ตาแล้วหัวเราะ พูดว่า "สิ่งที่ผมเกลียดที่สุดคือประโยคสุดท้ายที่คุณพูดมานี่แหละ"
ประโยคนี้ อวี้เสี่ยวหลงเคยพูด เฉียวชิวเมิ่งเคยพูด สวี่เอ้าเสวี่ยเคยพูด หลี่อวิ๋นหว่านเคยพูดไหมเขาจําไม่ได้แล้ว ตอนนี้ถึงตาหยางกวนกวนพูดอีก
ฉีเติ่งเสียนสงสัยมาก พวกเขาเอาความมั่นมาจากไหนกัน หรือว่าอาศัยอยู่บนดาวอังคาร? ถึงได้พูดว่าไม่ใช่คนโลกเดียวกัน
"นายไม่มีทุนที่จะเกลียด ถ้านายอยากคู่ควรกับเฉียวชิวเมิ่ง งั้นนายก็ต้องมีความสามารถและทุนเหมือนประธานลึกลับแบบนั้นถึงจะได้!" หยางกวนกวนพูดอย่างเฉยเมย
"เหอะๆ" ฉีเติ่งเสียนอดหัวเราะไม่ได้ กูเป็นประธานลึกลับนั้นเอง ยังต้องพยายามอีกเหรอ นอนเฉยๆก็พอ
หยางกวนกวนส่ายหัว คิดแค่ว่าผู้ชายคนนี้ไม่เอาไหนเลย รวยแค่นี้ก็พอ เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ทะเยอทะยานและมีความมุ่งมั่นพร้อมที่จะทํางานหนักอย่างพวกเธอแล้ว มันแตกต่างกันมากจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...