แต่ก่อนคนรับใช้ในบ้านจะเป็นคนทำอาหาร หรือไม่ก็ลุงฝู
หลังจากลุงฝูจากไปก็ไม่มีใครสนใจทำอาหารให้เธอกิน
เมื่อเห็นฉีเติ่งเสียนกำลังวุ่นอยู่ในครัว เซี่ยงตงฉิงก็รู้สึกอบอุ่นใจ
อีคิวของพระอัครสังฆราชสูงขึ้นจริงๆ เขารู้ดีว่าเซี่ยงตงฉิงแคร์เรื่องอะไร แล้วเขาก็เข้าใจด้วยว่าความรู้สึกช่วงนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นเขาจึงแสดงพฤติกรรมดีๆ ออกมา
“เดี๋ยวกลับไปค่อยให้เย่จีกั๋วหาอะไรที่เหมาะกับเซี่ยงตงฉิงให้สักหน่อยดีกว่า...” ฉีเติ่งเสียนคิด
จะให้แค่เพชรอยู่อย่างเดียวก็คงไม่ได้ใช่ไหม แม้ว่าของสิ่งนั้นจะมีราคาแพง แต่ให้บ่อยๆ ก็ดูจำเจ ยิ่งนิสัยแบบเซี่ยงตงฉิงด้วยแล้ว เธอยิ่งไม่ชอบอะไรที่เว่อร์วังพวกนั้น
ขณะที่เขากำลังคิดเรื่องคนประจบเย่ ทันใดนั้นโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น
“เฮ้ คุณฉี คุณกลับมาโมตูแล้ว ผมเตรียมของขวัญไว้ให้คุณ คุณไม่ได้เอาไปด้วย ผมเลยส่งไปให้แล้ว คุณอย่าลืมเซ็นรับด้วยล่ะ!” เย่จีกั๋วกล่าว
“จริงเหรอ” ฉีเติ่งเสียนตะลึง “ของขวัญอะไร”
“ของขวัญสำหรับคุณหนูเซี่ยงไง! ในเมื่อคุณมาถึงโมตูแล้ว คุณก็จะเป็นคนลึกซึ้งอันดับหนึ่งในโมตู คุณจะไม่มีของขวัญได้ยังไงล่ะ คุณยุ่งเกินไป ในฐานะน้องชายผมก็ต้องเตือนคุณสิ!” เย่จีกั๋วกล่าว
“เอ่อ ใช่ ใช่ ใช่...” ฉีเติ่งเสียนยิ้มเห็นด้วยและรู้สึกชื่นชมเย่จีกั๋วมากยิ่งขึ้น
เซี่ยงตงฉิงล้างหน้าและแต่งตัวเรียบร้อย ส่วนฉีเติ่งเสียนก็ทำอาหารมื้อใหญ่ที่ทั้งหอมและน่าทานเสร็จและออกจากครัวมาพอดี
เขาเคยเป็นคนขยัน แต่ไม่รู้ทำไมหลังๆ เขากลับขี้เกียจขึ้นเรื่อยๆ...ดูเหมือนว่าผู้ชายคงไม่มีทางหนีพ้นกฎนี้ไปได้
วันนี้เซี่ยงตงฉิงไม่มีกะจิตกะใจไปทำงานที่บริษัท เธอจึงโทรไปสั่งการจากทางไกลและแก้ปัญหาอย่างใจเย็น
แล้วเธอก็ได้รับสายจากหลี่อวิ๋นหว่านด้วย เพราะอย่างไรแล้วทั้งคู่ก็มีส่วนร่วมในการตัดสินใจและวางแผนงานชุมนุมสัมพันธ์ครั้งนี้ ก่อนหน้านี้หลี่อวิ๋นหว่านเองก็ทำงานในบริษัทในเครือของเซี่ยงกรุ๊ป
สิ่งนี้ทำให้ฉีเติ่งเสียนกังวล เขาจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ นั่งตัวตรงและแสร้งทำเป็นว่าการได้ยินของเขาอยู่ในระดับทั่วๆ ไปและเขาไม่ได้ยินอะไรเลย
เซี่ยงตงฉิงยิ้มอย่างมีเลศนัย เธอเตะขาขาวเรียวของเธอเบาๆ ในอากาศ และหารือเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาบางอย่างกับหลี่อวิ๋นหว่าน
“คุณอาฉีอยู่ที่บ้านฉัน เธออยากมาเยี่ยมหน่อยไหม” ในที่สุดหลี่อวิ๋นหว่านก็เปิดเผยเจตนาที่แท้จริงและเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มบางๆ
“ไม่ล่ะ สองวันนี้ฉันมีงานด่วน ไว้ว่างเมื่อไรเดี๋ยวจะไปเยี่ยม” เซี่ยงตงฉิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ไม่แสดงความโกรธแม้แต่น้อย
ในเมื่อฉีเติ่งเสียนก็อยู่ที่นี่ มันคุ้มที่เธอต้องโกรธไหม
หลี่อวิ๋นหว่านถอนหายใจ “ไม่รู้ว่าตาฉีเติ่งเสียนคนนั้นจะกลับจากผึ่งไหลเมื่อไร แต่เขาบอกว่าเขาจะติดต่อฉันทันทีที่เขากลับมา”
เซี่ยงตงฉิงจึงพูดว่า “โอ้? จริงเหรอ...ก็ควรติดต่อเธออยู่หรอก ในเมื่อเธอยุ่งอยู่ที่ประเทศมี่ ลำบากขนาดนั้น แถมยังอยู่ห่างไปตั้งหลายพันไมล์ ต่างจากฉันที่อยากเจอเมื่อไรก็เจอได้ง่ายๆ”
ทั้งสองประชันปัญญากันทางอากาศด้วยโทรศัพท์มือถือในมือ แม้ว่าจะไม่มีควันโขมงปรากฏให้เห็น แต่บรรยากาศแปลกๆ ก็ลอยเกลื่อนอยู่ในอากาศตลอดเวลา
ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่าหัวใจของเขาเริ่มรับไม่ไหว ถ้ายังตื่นเต้นแบบนี้ต่อไปจนหัวใจวายขึ้นมาจะทำอย่างไร ขนาดแข็งแกร่งอย่างซุนโงกุนยังตายเพราะโรคหัวใจเลย
ทั้งสองคุยเรื่องงานบ้าง แซะอีกฝ่ายบ้าง จนฉีเติ่งเสียนที่ฟังอยู่เกือบตายหลายครั้ง
โชคดีที่ฉีเติ่งเสียนได้รับโทรศัพท์จากพนักงานส่งของ เขาจึงรีบออกมารับพัสดุซึ่งเป็นสิ่งที่เย่จีกั๋วให้คนส่งมาและเขาก็ไม่รู้เลยว่ามันเป็นของขวัญประเภทไหน
หลังจากรับพัสดุ ฉีเติ่งเสียนก็กลับเข้ามาในบ้านซึ่งเซี่ยงตงฉิงวางสายพอดี เขาจึงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป
เห็นได้ชัดว่าเย่จีกั๋วทำการบ้านก่อนให้ของขวัญ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถให้ของขวัญที่บีบคั้นหัวใจได้ขนาดนี้
ขอบตาของเซี่ยงตงฉิงชื้นขึ้นทันที เธอใช้นิ้วสัมผัสภาพนั้นเบาๆ อย่างแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่พลางกระซิบเบาๆ “สิ่งที่ฉันเสียใจที่สุดในชีวิตนี้คือไม่ได้พาทุกคนมาถ่ายรูปแบบนี้”
ฉีเติ่งเสียนถอนหายใจและพูดว่า “นั่นคือเหตุผลที่ผมมอบของขวัญแบบนี้ให้คุณ ของขวัญที่สามารถชดเชยความเสียใจในชีวิตนี้ของคุณได้”
เซี่ยงตงฉิงวางกรอบรูปลง จากนั้นก็หมุนตัวพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดอีกฝ่ายและพูดด้วยความขอบคุณ “ขอบคุณ...ขอบคุณที่เข้าใจฉันเป็นอย่างดีและห่วงใยฉันขนาดนี้”
“แน่นอนอยู่แล้ว ก็ผมเป็นความรักที่ดีที่สุดในโลก!” ฉีเติ่งเสียนยกหางตัวเอง
ในขณะเดียวกัน เขาตัดสินใจมอบหมายงานสำคัญให้เย่จีกั๋วด้วยการให้เย่จีกั๋วทำธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นในจิงเต่า เพราะอย่างไรแล้วชายผู้นี้ก็มีไหวพริบในการหาของขวัญมากขนาดนี้ หากเขาเจาะลึกในสาขาธุรกิจ เห็นได้ชัดว่าเขาจะไม่อ่อนแอ
แม้ว่าพระอัครสังฆราชจะกลับมาเข้าร่วมงานชุมนุมสัมพันธ์ แต่เขาก็ไม่รีบร้อนและวางแผนที่จะอยู่กับเซี่ยงตงฉิงเป็นเวลาสองวัน
แต่สิ่งที่ทำให้ฉีเติ่งเสียนปวดหัวคือ เขาขาดประสบการณ์ในการเดทกับบอสใหญ่อย่างเซี่ยงตงฉิงและไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรที่น่าสนใจดี
เขาจึงส่งข้อความไปถามเย่จีกั๋วและอีกฝ่ายก็ตอบว่า “ทำอะไรที่น่าตื่นเต้นหน่อยดีกว่า เช่นพวกกีฬาผาดโผนอย่างบันจี้จัมพ์ กระโดดร่ม”
เพียงได้ฟัง ฉีเติ่งเสียนก็เข้าใจทันที เซี่ยงตงฉิงเป็นคนมีเหตุผลจนน่ากลัวมาโดยตลอด ดังนั้นการเล่นกีฬาผาดโผนที่น่าตื่นเต้นจึงเป็นเรื่องน่าสนใจอย่างแน่นอน
“ถ้าเป็นคนแบบนายพลอวี้ คุณก็ต้องใช้วิธีแบบบ้านๆ หน่อย เช่น ไปเก็บผักและผลไม้ที่บ้านไร่ด้วยกัน...”
เย่จีกั๋วตอบกลับมาอีกครั้ง
ฉีเติ่งเสียนเข้าใจแล้ว เรียกว่าผู้เชี่ยวชาญได้เลย สหายคนนี้ช่วยเขาเรื่องกลยุทธ์ได้จริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...