ฉีเติ่งเสียนพาลู่หลิงหลิงและหยางกวนกวนไปยังที่ทำงานของลู่จ้านหลง
กรมยุทธการเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยมนุษยธรรม หลังจากที่ลู่จ้านหลงตายไป ที่นี่ก็ยังไม่ได้แต่งตั้งผู้นำคนใหม่ขึ้นมาทำงานแทน ของซักชิ้นก็ยังไม่มีใครไปแตะ
ที่ทำงานใหญ่มาก การตกแต่งไม่นับว่าหรูหรา อีกทั้งยังดูสมถะ เหมาะสมกับลู่จ้านหลงเป็นอย่างมาก
หลังจากที่เข้ามาแล้วก็เจอกับโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ด้านหลังเป็นกำแพงสีขาว บนกำแพงมีภาพเขียนแขวนอยู่
“ฉันขอให้ความยุติธรรมเป็นดั่งสายน้ำไหล สามารถนำพาความชอบธรรมมารวมกันดุจดั่งแม่น้ำ”。
ด้านล่างมีชื่อของลู่จ้านหลงเขียนเอาไว้ แสดงว่านี่เป็นอักษรที่เขาเขียนมาด้วยตัวเอง เขาใช้ภาพเขียนนี้บอกกับตัวเองว่าไม่ว่าตอนไหนก็จะต้องปฏิบัติหน้าที่ ผดุงความยุติธรรม และสร้างความชอบธรรมขึ้นให้ได้
หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนได้เห็นภาพเขียนนี้ก็ต้องหยุดเท้าลงแล้วก้มศีรษะโค้งตัวเพื่อแสดงความเคารพ
อักษรของลู่จ้านหลงเต็มไปด้วยพลัง แต่ด้านในยังสอดไส้ไว้ด้วยทักษะ อักษรเช่นนี้นั้นทำให้คนสัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติ
“นี่คือห้องทำงานของพี่เหรอ?”ลู่หลิงหลิงพูดเสียงเบา แล้วเดินไปยังโต๊ะทำงาน เอกสารที่ตรวจเสร็จแล้วยังมีลายเซ็นต์ของลู่จ้านหลงอยู่บนนั้น จากนั้นน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาอีกครั้ง
เพราะเธอเห็นรูปถ่ายเก่าๆใบหนึ่ง เป็นรูปถ่ายครอบครัวเธอเอง
ใบหน้าเธอในตอนนั้นเต็มไปด้วยความสุข ส่วนลู่จ้านหลงที่สวมชุดพรางสีเขียวเข้มนั้นกำลังยิ้มอย่างสดใส
ในตอนนั้นก็มีทหารหนุ่มนายหนึ่งเดินเข้ามาแล้วทำท่าแสดงความเคารพขึ้น
“พวกคุณเป็นญาติของนายพลลู่ใช่มั้ย?!”เขาถามขึ้น
“ใช่ ฉันเป็นน้องสาวของเขา”ลู่หลิงหลิงพูดทั้งน้ำตา
“สิ่งของของท่านนายพลล้วนแต่ถูกเก็บไว้ที่นี่ พวกคุณสามารถเอาไปได้ทั้งหมด”เขาพูดต่อ
ลู่หลิงหลิงพยักหน้าแล้วพูดขึ้น:“ขอบคุณ ฉันขอเดินดูก่อนแล้วค่อยคิดว่าจะเอาอะไรกลับไปบ้าง”
ทหารหนุ่มพูด:“เชิญ!”
หลังจากพูดจบเขาก็หมุนตัวจากไป จากนั้นน้ำตาของเขาก็ไหลออกมา
ลู่จ้านหลงเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีแต่คนเคารพรัก อีกทั้งเป็นพี่ใหญ่ของพวกเขา เขาเป็นคนประหยัดมาก แต่กลับยอมควักเบี้ยเลี้ยงและเงินเดือนของตัวเองออกมาช่วยเหลือเหล่าพี่น้อง
“หลิงหลิง เก็บรูปนี้เอาไว้เถอะ”หยางกวนกวนหยิบรูปถ่ายมายัดใส่มือลู่หลิงหลิงแล้วพูดขึ้น
“อืม”ลู่หลิงหลิงกอดรูปนี้เอาไว้แล้วหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความโศกเศร้า
แต่รูปใบนี้กลับสามารถทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจ ในตอนนั้นพี่ชายก็คงจะใช้รูปใบนี้เป็นของดูต่างหน้าแทนครอบครัวสินะ?
ฉีเติ่งเสียนมองไปยังภาพเขียน ลายเส้นพู่กันนั้นแข็งแรง มีเส้นสายลวดลายดุจดั่งมังกร ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกมีพละกำลังราวกับเลือดลมสูบฉีดขึ้นมา !
ตัวอักษรนั้นเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมและอารยธรรม อีกทั้งยังสามารถสื่อได้ถึงอารมณ์และความรู้สึกของผู้เขียนออกมาด้วย
ฉีเติ่งเสียนยิ่งมองก็ยิ่งดื่มด่ำไปกับมัน คนแบบไหนกันที่สามารถเขียนผลงานเช่นนี้ออกมาได้?
อักษรเหล่านี้ถึงสามารถสื่อได้ถึงอารมณ์เช่นนี้ เขาต้องเจอกับความยากลำบากมาขนาดไหน ต้องมีประสบการณ์มาแบบใด อีกทั้งยังเจอกับความอยุติธรรมมากมายขนาดไหน?
ในโลกนี้เกรงว่าคงไม่มีคนรักความยุติธรรมอย่างลู่จ้านหลงอีกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...