ในวันรุ่งขึ้นฉีเติ่งเสียนก็พาคุณนายซุนไปหาจิ่วเฮิงที่ตระกูลซุนพร้อมกัน เตรียมพร้อมให้จิ่วเฮิงหาโอกาสที่แทงคนเจียเผิงทั้งสองคนให้ตายเสีย
ท้ายที่สุดแล้วคนเจียเผิงทั้งสองคนนั่รคือกระดูกสันหลังของสมาคมงูดำ คงจะไม่ดีสักหน่อยถ้าให้เขาเป็นคนลงมือเอง แต่จิ่วเฮิงนั้นก็จะต่างออกไป... จิวเฮิงมาจากสำนักพุทธ!
หากฉีเติ่งเสียนแทงคนเจียเผิงทั้งสองคนนั้นตายด้วยตัวเขาเอง จะทำให้กองกำลังเจียเผิงในเผิงไหลไม่พอใจอย่างแน่นอน ทำให้เกิดความวุ่นวายเอาได้
“เจ้าหนู นี่นายกำลังพยายามยืมดาบฆ่าคนนะเนี่ย!” ดวงตาของจิ่วเฮิงสั่นไหวอย่างครุ่นคิด หลังจากได้ยินสิ่งนี้
“ถ้าอย่างนั้นคุณอยากจะทำตัวตอแหลสักหน่อยไหมล่ะ? ฉันจะให้หอกกับคุณ แทงคนเจียเผิงสองคนนั่นให้ตายซะ แล้วเอาร่างพวกมันตอกตะปูเข้ากับกำแพง” ฉีเติ่งเสียนกล่าวอย่างใจเย็น
หลังจากที่จิ่วเฮิงจำเรื่องที่ฉีปู้อวี่ยิงมหาปุโรหิตด้วยนัดเดียวในเจียเผิงกั๋ว ทันใดนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ยังคงพูดว่า: "ไม่ได้"
ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าโกรธ จิ่วเฮิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่หลอกง่ายนัก!
“อย่างน้อยก็ต้องมีหอกสองเล่ม หอกหนึ่งเล่มก็ไม่สามารถแทงคนสองคนได้” จิ่วเฮิงพูดอย่างตื่นเต้นด้วยรอยยิ้ม
“โอ้ ไม่มีปัญหา!” เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉีเติ่งเสียนก็ตอบตกลงทันที แค่หอกสองเล่มไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ซุนกั๋วฉวินได้ยินจากด้านข้างก็อดไม่ได้ที่จะลูบเคราแล้วพูดว่า: "สองคนนั้นคือกระดูกสันหลังของสมาคมงูดำ หากฆ่าพวกเขาแบบนี้ คงจะไม่ดีมั้ง?"
ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างใจเย็นว่า “พวกมันมามาทำชั่วที่เผิงไหล และอยากจะมาแบ่งแยก จะยอมให้พวกมันได้สิ่งที่ต้องการได้อย่างไร ยิ่งกว่านั้น เขายังปล่อยให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายจากกองทัพเฟยซ่อนตัวอยู่ใต้ชื่อบริษัทการค้าของเขาด้วย ซึ่งบังเอิญมีเหตุผลที่จะฆ่าพวกเขา”
ซุนกั๋วฉวินคิดอย่างไตร่ตรองและพูดว่า “ขอถามหน่อยว่าวันนี้คุณมาที่นี่ นอกจากดึงตัวอันธพาลแล้ว คือจะให้ฉันช่วยด้วย?"
ฉีเติงเสียนยิ้มอย่างเขินอายแล้วพูดว่า "ตระกูลซุนมีทับหลังที่โดดเด่น ดังนั้นฉันจึงต้องมาขอความช่วยเหลือจากตระกูลซุนอยู่แล้ว! ท่านก็ทำต่อไป ถ้าทำลายมันได้ เมื่อถึงเวลาก็บอกว่าเพื่อปกป้องความมั่นคงและเสถียรภาพทางสังคมของเผิงไหลก็ได้ ไม่ดีเหรอ?”
“อนึ่ง เราก็ใช้เรื่องนี้ คว้าผลงานทางการปฎิบัติหน้าที่แก่จั่วเฉิน”
(ซนกั๋วฉวินกล่าวว่า “คุณแน่ใจหรือว่าคนเจียเผิงสองคนนี้ได้นำกองทัพเฟยมาที่นี่ ซ่อนไว้ภายใต้ชื่อของบริษัทการค้าของพวกเขา?”
ฉีเทินเสียนพยักหน้า “เรื่องนี้ฉันไม่กล้าโกหกคุณ ไม่เช่นนั้น การฆ่าพวกเขาไปโดยตรง คงลำบากสักหน่อย”
ซุนกั๋วฉวินกล่าวว่า "กองทัพเฟยเป็นองค์กรก่อการร้าย และพวกเขาดึงกองทัพเฟยเข้ามา หากมีคนมา สามารถใช้คำว่า “สมรู้ร่วมคิด” สี่คำล็อคเป้าพวกเขา”
จิ่วเฮิงกลับกล่าวว่า "ไม่สามารถใช้คำพูดล็อคเป้าพวกมันให้ตายได้ ต้องใช้หอกใหญ่ของฉัน!"
"…..."
ซุนกั๋วเฉวินและฉีเติ่งเสียนมองหน้ากันพูดไม่ออก พวกเขารู้สึกว่าหัวสมองของพระภิกษุผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ คงถูกคลาร์กทุบจนเสียไปแล้ว
ที่พวกเขากำลังพูดถึงคือการพิพากษาลงโทษ ไม่ใช่อีกฝ่ายจะตายอย่างไร...
“หลังจากฆ่าคนเจียเผิงสองคนนี้ ก็เกือบถึงเวลาจะบังคับคลาร์กให้มาสู้กับฉันได้แล้วสินะ” ฉีเติ่งเสียนกล่าวอย่างครุ่นคิด
“อาจารย์ฉี คุณไม่ใช่บอกว่ายังมีพระโพธิสัตว์ผู้น่ารำคาญหรอกหรือ? ฟังดูอวดดี ให้ฉันสู้กับนางสักครั้ง!” จิ่วเฮิงแตะหมัดตัวเองพร้อมด้วยรอยยิ้มอันดุร้าย
ฉีเติ่งเสียนกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทุบเธอให้ตาย พระโพธิสัตว์ที่ยังมีชีวิตนี้ใช้วิธีการไม่ชอบเพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศ ไม่ใช่คนดีอะไร”
ขณะที่เขาพูด ฉีเติ่งเสียนก็เดินไปหาซุนชิงเสวียน ถามเขาว่าจะใช้เวลาอีกกี่วันกว่าอาการบาดเจ็บของจิ่วเฮิงจะหายดี
“อาการบาดเจ็บของอาจารย์จิ่วเฮิงสาหัสมาก หากเป็นคนธรรมดาทั่วไป คงไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่ตลอดชีวิต”
“อืม……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...