“เหอะ!”
เมื่อเจอการหยอกเย้าของฉีเติ่งเสียน เฉินหยูก็ส่งเสียงด้วยความไม่พอใจ
ใบหน้าของฉีเติ่งเสียนเต็มไปด้วยการหยอกล้อ น้อยครั้งที่จะเห็นเฉินหยูอายแบบนี้ วันนี้ถือว่าได้เปิดหูเปิดตา!
ทั้งสองเดินออกไปข้างนอกและบังเอิญพบกับจี้ข่ายที่ถือถ้วยพลาสติกใบใหญ่ที่ด้านในเต็มไปด้วยแคนตาลูป อีกฝ่ายกำลังเดินเข้าไปข้างในขณะคุยเล่นกับสาวสวยที่แต่งตัวร้อนแรงคนหนึ่ง
“อ้าว พระอัครสังฆราชฉี คุณหนูเฉิน สวัสดีครับ!” เมื่อจี้ข่ายเห็นฉีเติ่งเสียน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปและรีบกล่าวสวัสดี
หากเขาทักทายไม่ทันการณ์ เจ้าชั่วฉีเติ่งเสียนอาจจะหาเหตุผลมาบอกว่าตนไม่เคารพเขา แล้วจงใจหาเรื่องตนได้
ฉีเติ่งเสียนมองจี้ข่ายหัวจรดเท้าและพูดว่า “คุณชายข่ายมาเดทเหรอ บังเอิญจัง ฮ่าฮ่าฮ่า...”
จี้ข่ายยิ้มเขินๆ “ใช่ครับ ใช่!”
เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อยและยื่นแคนตาลูปในมือออกไปโดยไม่รู้ตัว “ชิมไหมครับ แคนตาลูปนี่ผมเพิ่งซื้อมาจากข้างนอก สดมาก“
ฉีเติ่งเสียนเหล่ตามองเขาแล้วถามว่า “แตงลูกนี้สุกหรือเปล่า!”
“แค่ก!”
จี้ข่ายสำลักอย่างแรง นี่เขาหมายความว่าอะไร
ฉีเติ่งเสียนจึงพูดว่า “ผมถามคุณว่าแตงลูกนี้สุกหรือเปล่า”
เฉินหยูไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอรีบลากฉีเติ่งเสียนออกไปข้างนอกก่อนจะพูดว่า “คุณชายข่าย คุณอย่าสนใจตาโรคจิตนี่เลย! พวกเราขอตัวก่อน ไว้เจอกันใหม่นะคะ”
เมื่อเห็นว่าฉีเติ่งเสียนถูกเฉินหยูลากออกไปแล้วจี้ข่ายก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
คู่ควงสาวที่อยู่ข้างๆ เขางงมาก ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าจี้ข่ายดูประหม่าเล็กน้อยเมื่อเผชิญหน้ากับชายหนุ่มคนนี้ ในพื้นที่เล็กๆ อย่างเซียงซานยังมีคนที่ทำให้คุณชายตระกูลจี้หวาดกลัวขนาดนี้อยู่ด้วยเหรอ น่าเหลือเชื่อจริงๆ!
“ดูซะว่าคุณทำให้จี้ข่ายกลัวแค่ไหน ยังไงตอนนี้ตระกูลจี้ก็เป็นหุ้นส่วนของฉัน คุณเลิกทำตัวไร้ศีลธรรมจะได้ไหม!” เฉินหยูพูดพลางหยิกแขนฉีเติ่งเสียนด้วยความโกรธ
“ผมแค่ถามเขาว่าแตงสุกไหม มีอะไรให้กลัว” ฉีเติ่งเสียนยิ้มอย่างร่าเริง
เมื่อครู่เขาแค่ล้อเล่นกับจี้ข่ายเท่านั้น แม้ว่าตอนนี้เขาจะขาดแคลนเงิน แต่เขาก็ไม่ได้สติฟั่นเฟือนขนาดนั้น
เฉินหยูส่ายหน้า แม้ว่าตอนนี้ตระกูลจี้กับเธอจะมีความสัมพันธ์ระหว่างหุ้นส่วนต่อกัน แต่ความชอกช้ำทางจิตใจที่ฉีเติ่งเสียนทิ้งไว้ให้กับตระกูลจี้ยังคงเหลืออยู่อย่างแน่นหนา
เฉินหยูถามว่า “เมื่อไรคุณจะจัดการเฉินปาเซี่ย หากไม่มีความช่วยเหลือจากเหอกรุ๊ป เขาก็หัวเดียวกระเทียมลีบ”
ฉีเติ่งเสียนบอกว่า “เรื่องนั้นให้สมาคมหลงเหมินลงมือเถอะ ในเมื่อพวกเขากำลังเตรียมการเรื่องนี้ ผมแค่อยากจะมั่นใจว่าสวี่ฉางเกอจะได้รับผลประโยชน์และกลายเป็นผู้ถือหางเสือของเซียงซานหลงเหมิน!”
เฉินหยูกล่าวว่า “สวี่ฉางเกอไม่ได้โดดเด่นอะไร ถ้าอยากเป็นผู้ถือหางเสือของหลงเหมิน ฉันคิดว่าเขาน่าจะโน้มน้าวใจสาธารณชนได้ยาก!”
ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยรอยยิ้ม “เรื่องนั้นมันสำคัญตรงไหน เมื่อถึงตอนนั้นผมจะให้นายกหวง ตระกูลเหลยและตระกูลจี้ออกตัวมาสนับสนุนเขา แล้วใครจะคัดค้านล่ะ”
หลังจากได้ฟังแบบนี้ เฉินหยูก็คิดว่ามันเป็นไปได้ ในเมื่อสองตระกูลชั้นนำจากนอกเมืองและนายกสนับสนุนให้เขารับตำแหน่ง ถึงคนอื่นจะคัดค้านแล้วจะมีประโยชน์อะไร พวกเขามีอำนาจมากกว่าคนเหล่านั้นหรือ
ใจเธออดรู้สึกชื่นชมฉีเติ่งเสียนไม่ได้ เขามาเซียงซานเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็พลิกสถานการณ์ที่นี่กลับหัวกลับหาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...