มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1877

จ้าวถูหลงมุ่งหมายจะฆ่าอวี้เสี่ยวหลงให้ได้ แต่โชคดีที่ฝีมือมวยไท่เก๊กของอวี้เสี่ยวหลง แข็งแกร่ง และมีประสบการณ์ต่อสู้มากมาย ไม่เช่นนั้น คงต้องจบชีวิตไปแล้วแน่ ๆ

แน่นอนว่าอวี้เสี่ยวหลงก็หวังจะฆ่าจ้าวถูหลงเช่นกัน แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดคือ คนผู้นี้กลับรับมือได้ยาก เกินกว่าที่เธอเคยเจอมาอย่างสิ้นเชิง!

ฉีเติ่งเสียนหันไปมองจิ่วเฮิงแล้วกล่าวเสียงเข้มว่า "คุณยอมแพ้ถอนตัวไปเลย ฉันจะสู้กับจ้าวถูหลงเอง อยากรู้ว่ามันเป็นคนเก่งจากไหนกันแน่!"

แม้จิ่วเฮิงฟังแล้วจะไม่พอใจนัก แต่เมื่อคิดว่า วันนี้ตนเองเหมือนง่อยเปลี้ยไปแล้ว การสู้กับฉีเติ่งเสียนก็ไม่มีความหมายอะไร มิสู้เก็บแรงเอาไว้ให้เขาดีกว่า

หลังจากจ้าวถูหลงโค่นอวี้เสี่ยวหลงได้ เขาก็เดินลงจากสังเวียน สายตาของเขาหันมาสบกับฉีเติ่งเสียน

แววตาของทั้งคู่ประสานกัน แม้ใบหน้าจะไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ แต่ลึก ๆ แล้ว เหมือนพวกเขากำลังประลองกันทางจิตใจ

หลังจากนักสู้สี่คนของรอบที่สองตัดสินผลแพ้ชนะแล้ว ก็มาถึงรอบของฉีเติ่งเสียนกับจิ่วเฮิง

แต่แล้วจิ่วเฮิงก็ประกาศถอนตัวอย่างกะทันหัน ทำให้ผู้ชมตกตะลึงไปตาม ๆ กัน ต่างพากันสงสัยว่า ทำไมนักสู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักสู้กระหายศึกถึงถอนตัวไปดื้อ ๆ?

จิ่วเฮิงวันนี้ขาที่ไร้เรี่ยวแรง แถมยังรู้สึกว่าจ้าวถูหลงในปัจจุบันมีพลังมหาศาลราวผู้มีฝีมือสูง ช่วยให้ฉีเติ่งเสียนเก็บพลังมากขึ้นในการต่อสู้กับเขามันคงจะดีกว่า

"จิ่วเฮิงถึงกับถอนตัว? ทำไมกัน? ฉันจำได้ว่า ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนที่คลั่งไคล้การต่อสู้หรอกเหรอ!"

"เขารู้จักกับหลี่ปั้นเสียนคนนี้ ฝีมือของหลี่ปั้นเสียนสูสีกับเขานะ…..”

"ระหว่างพวกเขาน่าจะมีแผนอะไรบางอย่างกันสินะ จ้าวถูหลงคนนี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!"

ผู้ชมต่างพากันซุบซิบกันไปมา อีกทั้งยังแปลกใจว่า ทำไมจิ่วเฮิงถึงยอมส่งต่อโอกาสให้ชายอ้วนผู้นี้…..

หรือว่า ฝีมือของชายอ้วนคนนี้ เหนือกว่าจิ่วเฮิงถึงขั้นที่จิ่วเฮิงต้องยอมรับ?

เมื่อจ้าวถูหลงได้ยินว่าจิ่วเฮิงถอนตัว เขาเพียงแค่แสยะยิ้มเย็นชา เขานั่งอยู่ในห้องพักนักสู้ พลางจิบชา และกินอาหารที่ให้พลังงานสูง

การต่อสู้กับอวี้เสี่ยวหลงแม้จะดุเดือด แต่สำหรับเขาแล้ว นับว่าเป็นศึกที่ไม่หนักหนานัก เพราะในอาณาจักรวรยุทธ์เขาเหนือกว่า

อย่างไรก็ตาม ความบริสุทธิ์ของมวยไท่เก๊กของอวี้เสี่ยวหลง ทำให้เขาประหลาดใจไม่น้อย หากรู้แต่แรกว่าหล่อนมีฝีมือเช่นนี้ เขาคงลงมือให้หนักกว่านี้ และฆ่าหล่อนให้ตายไปแล้ว!

แม้จะรู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถสังหารอวี้เสี่ยวหลงได้ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะในไม่ช้า ตัวขวางของตระกูลจ้าวก็จะถูกกำจัดไปในไม่ช้า

ขณะเดียวกัน ฉีเติ่งเสียนก็เดินเข้ามาในห้องพักนักสู้ และนั่งลงไม่ไกลจากจ้าวถูหลง

ทั้งสองนั่งเงียบ ไม่มีใครพูดอะไร แต่ต่างก็รู้ดีว่า รอบต่อไป หากต้องเผชิญหน้ากัน คงเป็นศึกที่ต้องแลกด้วยเลือดแน่

หลังจากพักเบรกสั้น ๆ การจับฉลากรอบใหม่ก็เริ่มขึ้น

ผลการจับฉลากในรอบนี้เป็นไปอย่างน่าประหลาดใจ จ้าวถูหลงและฉีเติ่งเสียนต่างหลีกเลี่ยงกันโดยบังเอิญ และได้คู่ต่อสู้เป็นนักสู้ระดับสี่อันดับสุดท้ายคนละคน

สำหรับยอดฝีมือทั้งสองแล้ว การต่อสู้นี้ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นนัก พวกเขาเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย แทบไม่เสียพลังงานเลยด้วยซ้ำ

“ประธานกัว สมาคมไม่ควรไร้ผู้นำแม้เพียงวันเดียว หลังจากรองประธาน ฉินเอ้าถอนตัวไป ตำแหน่งนี้ก็ว่างลงมานาน ฉันเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องรอถึงพรุ่งนี้ มาจัดรอบชิงกันเลยดีกว่า!” ฉีเติ่งเสียนดวงตาเป็นประกายเย็นเยียบ ก่อนจะกล่าวขึ้นเสียงดังว่า

เขาต้องการล้างแค้นให้กับอวี้เสี่ยวหลง และแน่นอนว่า เขายังต้องการขึ้นครองอำนาจใน สมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งหนานหยางให้เร็วที่สุด เพื่อเตรียมรับมือกับวิกฤติที่กำลังจะเกิดขึ้น และช่วยเหลือพี่น้องร่วมชาติให้มากที่สุด

เสียงซุบซิบดังไปทั่วสนาม ทุกคนเต็มไปด้วยความตกตะลึงและไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

ในขณะที่กัวหลินเฟิงชายชราผู้เป็นประธาน กลับไม่ได้รู้สึกประหลาดใจมากนัก เขาเพียงแค่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วหันไปถามคนข้างๆ

“เขาคือคนที่สังหารคลาร์กที่เผิงไหลนั่นหรือ?”

“ใช่ครับ ท่านประธาน” คนข้าง ๆ ตอบกลับ

กัวหลินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า

“ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่ไม่ธรรมดาจริงๆ ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าพ่อแม่แบบไหน ถึงได้เลี้ยงลูกออกมาเป็นเช่นนี้”

“ท่านประธาน พ่อของเขาไม่ใช่คนที่เคร่งครัดกับกฎเกณฑ์สักเท่าไหร่” เห็นได้ชัดว่าชายข้างศึกษาเกี่ยวกับฉีปู้อวี่มาบ้าง จึงพูดแทรกขึ้น

กัวหลินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก เขาหันไปมอง จ้าวถูหลงแล้วถามว่า “แล้วจ้าวถูหลงคนนี้ล่ะเป็นใคร? หรือว่าเกี่ยวข้องกับตระกูลจ้าวแห่งหัวกั๋ว?”

“เขาใช้หมัดพัวพันทงเป้ย ต่อให้ไม่ใช่คนของตระกูลจ้าว ก็น่าจะเกี่ยวข้องกันไม่น้อย” ชายข้าง ๆ อธิบาย

กัวหลินเฟิงฟังแล้วสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยพอใจนัก เพราะเขาติดตามสถานการณ์ในหนานหยางอย่างใกล้ชิด ตลอดชีวิตนี้ของเขา รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น อนาคตจะเกิดเรื่องน่ากลัวอย่างไร

ตระกูลจ้าวมีอำนาจล้นฟ้าในหัวกั๋ว แต่แทนที่จะช่วยเหลือประชาชน พวกมันกลับทำเรื่องชั่วช้า น่ารังเกียจจริง ๆ !

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง