บรรยากาศในห้องเงียบกริบ ทุกคนตั้งใจฟังคำพูดของฉีเติ่งเสียน
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะให้เกียรติประธานกัว อีกส่วนหนึ่งเพราะฝีมือของฉีเติ่งเสียนนั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ ยิ่งมีผลงานที่เคยสังหารยอดฝีมืออย่าง คลาร์ก มาแล้ว ทุกคนจึงไม่มีใครกล้าปฏิเสธ
"เมื่อครู่ประธานกัวก็พูดไปแล้ว ศาสตร์แห่งชาติ มีไว้เพื่อปกป้องบ้านเมืองและต่อกรกับศัตรู!"
"ตอนที่สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้หนานหยางก่อตั้งขึ้น จุดประสงค์หลักก็เพื่อปกป้องพี่น้องร่วมชาติที่อยู่ในหนานหยาง ไม่ให้ถูกคนต่างถิ่นรังแก"
"แต่ตอนนี้ หนานหยางกำลังถูกปกคลุมด้วยวิกฤติครั้งใหญ่ แม้รากฐานของวิกฤตินี้จะเป็นปัญหาทางการเงิน แต่ก็มีพวกคนเจ้าเล่ห์ฉวยโอกาสอยู่เบื้องหลัง ปลุกปั่นสถานการณ์ให้เลวร้ายยิ่งขึ้น"
ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยท่าทีจริงใจ มองหน้าทุกคนทีละคนอย่างแน่วแน่
เมื่อฟังจบ หลายคนพยักหน้าช้า ๆ สีหน้าครุ่นคิด พวกเขาเหมือนเพิ่งตื่นจากภวังค์ เพราะลืมไปแล้วว่าสหพันธนี้เกิดขึ้นมาเพื่ออะไร แต่วันนี้คำพูดของกัวหลินเฟิงและฉีเติ่งเสียนทำให้พวกเขาได้สติ
ฉีเติ่งเสียนกล่าวต่อ "ดังนั้น ฉันจึงอยากขอให้ทุกท่านร่วมมือกัน ช่วยเหลือพี่น้องของเราให้รอดพ้นจากเคราะห์ภัย จะช่วยได้มากหรือน้อยก็ไม่สำคัญ ช่วยได้แม้แต่คนเดียวก็ยังดี นี่แหละคือเจตนารมณ์ดั้งเดิมของสมาคมเรา!"
กัวหลินเฟิงถอนหายใจและกล่าวว่า "ที่วันนี้ฉันยอมออกมาขัดขวางจ้าวซวนหมิง ก็เพราะตระกูลจ้าวมีความทะเยอทะยานเกินไป เพื่อแสวงหาอำนาจ พวกเขาถึงขั้นยอมขายชาติ ยอมแลกชีวิตพี่น้องนับแสนคนเพียงเพื่อโค่นล้มตระกูลเฉิน! เจตนาแบบนี้ชั่วร้ายเกินไป ผิดจากจิตวิญญาณของนักสู้โดยสิ้นเชิง…..."
"ฉันไม่อาจปล่อยให้คนแบบนั้นมาควบคุมสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้หนานหยางได้ และจะไม่ยอมให้พวกท่านกลายเป็นแค่เครื่องมือในเกมการเมือง”
“ดังนั้น ฉันยอมเสียชื่อเสียงไปทั้งชีวิต จึงทำเรื่องที่เคยลั่นวาจาไป!"
เมื่อทุกคนได้ฟังคำพูดของกัวหลินเฟิง ทุกคนอดประสานมือคารวะให้กับอย่างนับถือไม่ได้
การกระทำของกัวหลินเฟิง แม้ว่าภายนอกผู้คนจะวิจารณ์เขาว่าเป็นคนกลับกลอก แต่คนที่รู้ความจริงลึก ๆ ล้วนแต่เคารพในความกล้าหาญและความเสียสละของเขา
"ดี พวกเราจะทำตามคำสั่งของรองหัวหน้าฉี เจ้าจะให้เราทำอะไร เราจะทุ่มสุดตัวทำให้สำเร็จ!" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากในกลุ่ม
"ถูกต้อง ศาสตร์แห่งชาติสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องบ้านเมือง! เมื่อพี่น้องของเรากำลังเผชิญภัย เราจะนิ่งดูดายไม่ได้!" อีกเสียงหนึ่งเอ่ยเสริม
เมื่อมีคนเริ่มพูด คนอื่น ๆ ก็พร้อมใจกันลุกขึ้นแสดงความเห็นด้วย ทีละคน ทีละคน จนทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงสนับสนุน
ฉีเติ่งเสียนมองภาพตรงหน้าอย่างพอใจ เขาพยักหน้าเล็กน้อยแล้วค้อมตัวประสานมือ "ขอบคุณทุกท่าน เช่นนั้นฉันขอฝากเรื่องนี้กับอาจารย์ทุกทานด้วย ขอให้ทุกท่านกลับไปจัดการรวบรวมศิษย์ในสำนักของตัวเอง เตรียมความพร้อม หากภัยมาถึง จะได้รวมพลังกันปกป้องพี่น้องของเราได้!"
เมื่อการประชุมจบลง กัวหลินเฟิงเชิญฉีเติ่งเสียนและจิ่วเฮิงไปดื่มน้ำชาด้วยกัน
“พวกคุณพูดกันแต่วิกฤติใหญ่นั่น วิกฤติอะไรฉันไม่เห็นรู้สึกเลย?” จิ่วเฮิงทนไม่ไหวเอ่ยถาม
ฉีเติ่งเสียนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ “วิกฤติเศรษฐกิจลามไปทั่วโลกแล้ว ตอนนี้ในหนานหยาง ผู้คนตกงานกันมากมาย อดอยากหิวโหย แต่คนจีนกลับได้รับผลกระทบน้อย”
จิ่วเฮิงกล่าว “ก็พวกคนจีนขยันทำมาหากิน พวกเขาทำงานแทบเอาชีวิตเข้าแลก อีกอย่างคนจีนที่ทำธุรกิจเล็ก ๆ ในหนานหยางก็มีไม่น้อย ไม่แปลกที่ได้รับผลกระทบน้อย”
ฉีเติ่งเสียนกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวลาว่าจะแบ่งให้น้อยหรือมาก แต่ควรจะกังวลเกี่ยวกับแบ่งให้เท่าเทียมกันรึเปล่า คนหนานหยางตกงานล้มละลายกันเกือบหมด แต่คนจีนกลับยังอยู่ได้สบายล่ะ คุณคิดว่าคนพวกนั้นจะคิดยังไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...