มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1883

บรรยากาศในห้องเงียบกริบ ทุกคนตั้งใจฟังคำพูดของฉีเติ่งเสียน

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะให้เกียรติประธานกัว อีกส่วนหนึ่งเพราะฝีมือของฉีเติ่งเสียนนั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ ยิ่งมีผลงานที่เคยสังหารยอดฝีมืออย่าง คลาร์ก มาแล้ว ทุกคนจึงไม่มีใครกล้าปฏิเสธ

"เมื่อครู่ประธานกัวก็พูดไปแล้ว ศาสตร์แห่งชาติ มีไว้เพื่อปกป้องบ้านเมืองและต่อกรกับศัตรู!"

"ตอนที่สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้หนานหยางก่อตั้งขึ้น จุดประสงค์หลักก็เพื่อปกป้องพี่น้องร่วมชาติที่อยู่ในหนานหยาง ไม่ให้ถูกคนต่างถิ่นรังแก"

"แต่ตอนนี้ หนานหยางกำลังถูกปกคลุมด้วยวิกฤติครั้งใหญ่ แม้รากฐานของวิกฤตินี้จะเป็นปัญหาทางการเงิน แต่ก็มีพวกคนเจ้าเล่ห์ฉวยโอกาสอยู่เบื้องหลัง ปลุกปั่นสถานการณ์ให้เลวร้ายยิ่งขึ้น"

ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยท่าทีจริงใจ มองหน้าทุกคนทีละคนอย่างแน่วแน่

เมื่อฟังจบ หลายคนพยักหน้าช้า ๆ สีหน้าครุ่นคิด พวกเขาเหมือนเพิ่งตื่นจากภวังค์ เพราะลืมไปแล้วว่าสหพันธนี้เกิดขึ้นมาเพื่ออะไร แต่วันนี้คำพูดของกัวหลินเฟิงและฉีเติ่งเสียนทำให้พวกเขาได้สติ

ฉีเติ่งเสียนกล่าวต่อ "ดังนั้น ฉันจึงอยากขอให้ทุกท่านร่วมมือกัน ช่วยเหลือพี่น้องของเราให้รอดพ้นจากเคราะห์ภัย จะช่วยได้มากหรือน้อยก็ไม่สำคัญ ช่วยได้แม้แต่คนเดียวก็ยังดี นี่แหละคือเจตนารมณ์ดั้งเดิมของสมาคมเรา!"

กัวหลินเฟิงถอนหายใจและกล่าวว่า "ที่วันนี้ฉันยอมออกมาขัดขวางจ้าวซวนหมิง ก็เพราะตระกูลจ้าวมีความทะเยอทะยานเกินไป เพื่อแสวงหาอำนาจ พวกเขาถึงขั้นยอมขายชาติ ยอมแลกชีวิตพี่น้องนับแสนคนเพียงเพื่อโค่นล้มตระกูลเฉิน! เจตนาแบบนี้ชั่วร้ายเกินไป ผิดจากจิตวิญญาณของนักสู้โดยสิ้นเชิง…..."

"ฉันไม่อาจปล่อยให้คนแบบนั้นมาควบคุมสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้หนานหยางได้ และจะไม่ยอมให้พวกท่านกลายเป็นแค่เครื่องมือในเกมการเมือง”

“ดังนั้น ฉันยอมเสียชื่อเสียงไปทั้งชีวิต จึงทำเรื่องที่เคยลั่นวาจาไป!"

เมื่อทุกคนได้ฟังคำพูดของกัวหลินเฟิง ทุกคนอดประสานมือคารวะให้กับอย่างนับถือไม่ได้

การกระทำของกัวหลินเฟิง แม้ว่าภายนอกผู้คนจะวิจารณ์เขาว่าเป็นคนกลับกลอก แต่คนที่รู้ความจริงลึก ๆ ล้วนแต่เคารพในความกล้าหาญและความเสียสละของเขา

"ดี พวกเราจะทำตามคำสั่งของรองหัวหน้าฉี เจ้าจะให้เราทำอะไร เราจะทุ่มสุดตัวทำให้สำเร็จ!" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากในกลุ่ม

"ถูกต้อง ศาสตร์แห่งชาติสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องบ้านเมือง! เมื่อพี่น้องของเรากำลังเผชิญภัย เราจะนิ่งดูดายไม่ได้!" อีกเสียงหนึ่งเอ่ยเสริม

เมื่อมีคนเริ่มพูด คนอื่น ๆ ก็พร้อมใจกันลุกขึ้นแสดงความเห็นด้วย ทีละคน ทีละคน จนทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงสนับสนุน

ฉีเติ่งเสียนมองภาพตรงหน้าอย่างพอใจ เขาพยักหน้าเล็กน้อยแล้วค้อมตัวประสานมือ "ขอบคุณทุกท่าน เช่นนั้นฉันขอฝากเรื่องนี้กับอาจารย์ทุกทานด้วย ขอให้ทุกท่านกลับไปจัดการรวบรวมศิษย์ในสำนักของตัวเอง เตรียมความพร้อม หากภัยมาถึง จะได้รวมพลังกันปกป้องพี่น้องของเราได้!"

เมื่อการประชุมจบลง กัวหลินเฟิงเชิญฉีเติ่งเสียนและจิ่วเฮิงไปดื่มน้ำชาด้วยกัน

“พวกคุณพูดกันแต่วิกฤติใหญ่นั่น วิกฤติอะไรฉันไม่เห็นรู้สึกเลย?” จิ่วเฮิงทนไม่ไหวเอ่ยถาม

ฉีเติ่งเสียนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ “วิกฤติเศรษฐกิจลามไปทั่วโลกแล้ว ตอนนี้ในหนานหยาง ผู้คนตกงานกันมากมาย อดอยากหิวโหย แต่คนจีนกลับได้รับผลกระทบน้อย”

จิ่วเฮิงกล่าว “ก็พวกคนจีนขยันทำมาหากิน พวกเขาทำงานแทบเอาชีวิตเข้าแลก อีกอย่างคนจีนที่ทำธุรกิจเล็ก ๆ ในหนานหยางก็มีไม่น้อย ไม่แปลกที่ได้รับผลกระทบน้อย”

ฉีเติ่งเสียนกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวลาว่าจะแบ่งให้น้อยหรือมาก แต่ควรจะกังวลเกี่ยวกับแบ่งให้เท่าเทียมกันรึเปล่า คนหนานหยางตกงานล้มละลายกันเกือบหมด แต่คนจีนกลับยังอยู่ได้สบายล่ะ คุณคิดว่าคนพวกนั้นจะคิดยังไง?”

“ฮ่า ๆ ท่านอาจารย์จิ่วเฮิงช่างเป็นคนจริงใจเสียจริง” ผ่านไปครู่หนึ่ง กัวหลินเฟิงกลั้นขำพูดออกมาจนได้

จิ่วเฮิงยิ้มกริ่มยกชาขึ้นจิบ “แน่นอนสิ ถ้าฉันไม่จริงใจ จะกล้าไปฝึกโลกีย์ได้ยังไงกัน?”

ฉีเติ่งเสียนทนไม่ไหวหันมาด่า “หยุดพล่ามเรื่องฝึกทางโลกีย์อะไรได้แล้ว ฉันกับประธานกัวมีเรื่องสำคัญต้องคุยกัน เงัฝียบไปเลย”

จิ่วเฮิงยกหมัดใหญ่เท่ากำปั้นขึ้นข่มขู่ “คุณกำลังบาดเจ็บอยู่นะ ฉันให้โอกาสคุณพูดใหม่อีกที พูดให้ดี ๆ!”

“…...” ฉีเติ่งเสียนกระตุกมุมปาก ไม่คิดว่าตัวเองจะโดนจิ่วเฮิงไอ้บ้านี่ข่มขู่ได้

กัวหลินเฟิงส่ายหน้า ไม่สนใจจิ่วเฮิงอีก หันกลับมาคุยกับฉีเติ่งเสียนต่อ “ตระกูลเฉินต้องเป็นเป้าหมายหลักแน่นอน ยิ่งสมาคมหัวเมิ่นจับมือกับตระกูลจ้าวแบบนี้ สถานการณ์ยิ่งไม่ดีต่อพวกเขา ไม่รู้ว่าคุณมีวิธีไหม?”

“สมาคมหัวเมิ่น ไม่ต้องกังวล ฉันจัดการพวกมันได้สบาย ๆ” ฉีเติ่งเสียนหัวเราะเย็นชา “ไอ้เป่ยบูฉีนั่น ตอนนี้ติดหลุมพลางจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว วัน ๆ เอาแต่อาบาอาบากราบไหว้แต่ภาพบูชาที่บ้าน!”

เมื่อถึงเวลาเขาจะพาร็อบเบนไปที่นั่น จับเขาไปเอาของที่ขโมยมาโดยตรง ถึงเวลานั้นแม้เขาจะปฏิเสธก็ปฏิเสธไม่ได้!

กัวหลินเฟิงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก “ขอแค่คุณคิดถึงชีวิตของพี่น้องเราเป็นหลัก ช่วยได้แม้แต่คนเดียวก็คุ้มแล้ว”

ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า “ประธานกัวไม่ต้องคิดมาก ฉันฉีเติ่งเสียนอาจจะเป็นคนฆ่าคนโดยไม่ลังเล แต่ก็ฆ่าเฉพาะพวกสมควรตายเท่านั้น ชีวิตบริสุทธิ์ฉันจะปกป้องอย่างสุดความสามารถ นี่แหละคือสิ่งที่ต่างจากพวกตระกูลจ้าว ฉันไม่มีวันยอมอ่อนข้อเรื่องพวกนี้ให้ใครเด็ดขาด!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง