เมื่อกลับมาที่มหาวิหารอวตารแล้ว ฉีเติ่งเสียนก็ไม่พูดพร่ำเพื่อ แล้วจับเป่ยบูฉีโยนเข้าไปขังในห้องมืดทันที พร้อมกับสั่งให้อัศวินแห่งแสงคอยเฝ้าอย่างเข้มงวด
จากนั้ ร็อบเบนกับราฟาเอลก็เริ่มรายงานสถานการณ์ต่อสมเด็จพระสันตะปาปา พร้อมกับถ่ายภาพศพของ“ท่านผู้นำทางศาสนาอาบา” ส่งไปให้พระองค์ดูด้วย
เมื่อสมเด็จพระสันตปาปาได้ฟัง ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเมื่อได้ยินกระบวนท่านี้ และถามว่า“อะไรนะ? เขาเป็นถึงผู้นำทางศาสนาอับบา และในที่สุดก็พ่ายแพ้ให้กับอวาดาเคดาวราสังหารมันได้อย่างนั้นหรือ?!”
ณ ชั่วขณะในหัวของเขารู้สึกสับสนตื้อไปหมด แต่เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ที่พูดออกมาจากปากขอหัวหน้ากองทัพและผู้บัญชาการอัศวินที่พระองค์ไว้วางใจที่สุดเสียด้วย
ร็อบเบินพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า “ถ้าหากพระอัครสังฆราชไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากผู้มีฝีมือสูงของตระกูลจ้าวมาก่อน จนทำให้เส้นลมปราณหัวใจได้รับบาดเจ็บ เกรงว่าจะไม่จำเป็นต้องใช้คาถาอวาดาเคดาวรา”
ราฟาเอลพูดว่า“ในช่วงนั้นข้ารู้สึกได้ถึงปาฏิหาริย์จริงๆ ข้าเห็นด้วยตาตัวเองว่าผ้าคลุมของพระอัครสังฆราชปลิวไสวโดยไม่มีลม หลังจากนั้นไม้คทาก็ระเบิดด้วยพลังแรงลมที่น่าสะพรึงกลัวและพุ่งเข้าไปโจมตีคู่ต่อสู้โดยตรง”
สีหน้าของสมเด็จพระสันตะปาปาปรากฏสีหน้าที่แข็งทื่อเล็กน้อย ซึ่งไม่สามารถปกปิดได้แล้ว พระองค์รู้ดีถถึงอนุภาพของเคล็ดลับอันศักดิ์สิทธิ์!แต่ฉีเติ่งเสียนกลับเชื่อสนิทใจว่าเป็นเรื่องจริง และนำไปขายให้กับร็อบเบนได้กำไรเก้าพันล้านยูโร
หลังจากนั้นร็อบเบนยังนำสิ่งนี้กลับที่นครรัฐวาติกัน เกือบทำเอาสมเด็จพระสันตะปาปาทรงสิ้นพระชนม์ด้วยความโกรธแค้นในตอนนั้นเลยทีเดียว
“ฝ่าบาท โปรดเชื่อในสายตาของพวกเรา และพในระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของพวกเราเถิด!พวกเรารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น” เดิมทีราฟาเอลทีเป็นผู้บัญชาการอัศวินในอีดตมีภารกิจลับพิเศษ ตอนนี้กลับกลายเป็นนผู้ชื่นชมในตัวพระอัครฆราชอย่าสุดใจ ถึงกับตบหน้าอกของเขาและให้คำสัญญาด้วยเสียงอันหนักแน่น
“ใช่แล้ว ฝ่าบาท……มิน่าละพระองค์ทรงเลือกเขาเป็นผู้สืบทอด แท้ที่จริงแล้วพระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ทรงเมตตาประธานพรให้แก่เขาอย่างลึกซึ้ง และทรงประทานพลำกำลังอันแข็งแกร่งให้ในการสังหารคนนอกรีต!” ร็อบเบนพูดด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัธทาและความยกย่อง
สมเด็จพระสันตะปาปาทรงรู้สึกทั้งขำทั้งเหนื่อยใจ แต่พระองค์ก็ไม่อยากอธิบายปัญหานี้อีกต่อไปอีกแล้วและไม่อยากอธิบายเลยด้วยซ้ำ!
“สีหน้าของพระองค์เคร่งขรึมและพูดว่า “พวกเจ้แน่ใจแล้วหรือว่าผู้ตายนั้นเป็นผู้นำศาสนาาอาบาตัวจริง?”
“ใช่แล้ว แน่นอนยิ่งกว่าสิ่งใด แม้แต่ร่องรอยบาดแผลยังตรงกับข้อมูลที่เรามีทุกอย่าง” ร็อบเบนพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจเต็มเปี่ยม
“ข้ายินดีเอาชีวิตของตัวเองเป็นหลักประกันว่านั้นคือผู้นำทางศาสนาอาบาอย่างแน่นอน ทั่วทั้งร่างกายของเขามีรัศมีกลิ่นอายของลัทธิชั่วร้ายออกมา” ราฟาเอลพูด
สมเด็จพระสันตะปาปาปาปาพยักหน้าช้าๆ พระองค์พูดกับผู้บัญชาการอัศวินและหัวหน้ากองทัพนั้นไม่เคยมีข้อสงสัยเลย แต่ยังมีสิ่งที่ติดค้างอยู่ในพระทัย คือเหตุใดที่ฉีเติ่งเสียนสามารถใช้“ อวาดาเคดาวรา ”พระองค์ยังไม่เชื่อว่าผู้นำของศาสนาอาบา จะพ่ายแพ้ได้อย่างราบคาบ มันช่างเหลือเชื่อเกินไป
ไม่เพียงแต่สมเด็จพระสันตปาปา พระองค์ไม่สามารถจะตั้งคำถามต่อเหล่าผู้ศรัทธาด้วยความจงรักภักดี และยิ่งไปกว่านั้นย่อมไม่อาจตั้งข้อสงสัยงของพระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ เพราะหากกระทำเช่นนั่นก็จะเท่ากับเป็นการปฏิเสธการดำรงอยู่ของศาสนาศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด
บางทีอาจเป็นเพราะฉีเติ่งเสียนมีความศรัทธาแรงกล้าอย่างแท้จริง เขาใช้จ่ายเงินดอลลาร์มากมายมหาศาล เพื่อสร้างโบสถ์ขนาดใหญ่เช่น และในยามวิกฤตเขาต้องเผชิญกับวิกฤติสำคัญ พระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์จึงทรงเลือกเขา มอบพลังศักดิ์สิทธิ์อันพิเศษที่ไม่เหมือนใครให้เขาได้!
สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเริ่มมีสีหน้ายิ้มแย้มมากขึ้น เพราะศาสนาอาบาที่เคยเป็นปัญหาหนักอกของพระองค์มานาน กลายเป็นเรื่องที่ได้รับการแก้ไขแล้ว ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้พระองค์ต้องวิตกกังวลอยู่เสมอ เมื่อมันได้รับการคลี่คลาย พระองค์จึงรู้สึกโล่งใจเหมือนกับว่าหินก้อนใหญ่ในใจของพระองค์ได้ถูกวางลงเสียที
“อืม... ดีมาก พวกเจ้าทำได้ดีมากโดยเฉพาะพระอัครสังฆราช ผู้ซึ่งเป็นนักปราบมารศักดิ์สิทธิ์ คนนี้เขาคือผู้ที่ข้าคิดไม่ผิดเลยจริง ๆ! เขาคือศัตรูตัวฉกาจของพวกนอกรีต เขาคือผู้พิทักษ์ทางแห่งการไถ่บาปของพระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ เขาคือบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการอวยพรจากพระเจ้า และเขายังเป็นดาวโชคดีของศาสนาศักดิ์สิทธิ์ของเรา!”
“ถ้าหากเขาจากไป ดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาจะกลับคืนสู่อ้อมกอดของพระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์และจะได้รับชีวิตนิรันดร์ในอาณาจักรของเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์!”
“อาเมน!”
สมเด็จพระสันตะปาปาทรงตั้งจิตอธิษฐานต่อเบื้องบนด้วยท่าทีเปี่ยมความศักดิ์สิทธิ์ ใบหน้าของพระองค์แดงเรื่อด้วยความปลาบปลื้มจนมิอาจซ่อนความปีติยินดีเอาไว้ได้และเห็นได้ชัดเจนว่านี่คือช่วงเวลาแห่งความสุขล้นพระทัย
“อาเมน!” ราฟาเอลและร็อบเบนรีบยกมือขึ้นทำเครื่องหมายกางเขนที่อกด้วยความเคารพและศรัทธาราวกับเกรงว่าความศักดิ์สิทธิ์ตรงหน้านั้นจะล้นทะลักเกินรับไหว
ทันใดนั้นสมเด็จพระสันตะปาปาก็ทรงนึกบางสิ่งขึ้นมาได้ พระพักตร์เคร่งขรึมลงทันที “ยังมีอีกเรื่องที่ข้าเกือบลืมไปแล้ว น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่พวกศาสนาอาบาขโมยไป... ตอนนี้อยู่ที่ไหนกัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...