สรุปเนื้อหา บทที่ 1981 โจรลอบทำร้าย – มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู
บท บทที่ 1981 โจรลอบทำร้าย ของ มังกรผู้ทรงพลัง ในหมวดนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จาง หลงหู อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ฉีเติ่งเสียนก็ได้รับข้อมูลจากฉีปู้อวี่แล้วจึงรู้ว่าจ้าวหงหนีถูกจับโดยขบวนการค้ามนุษย์ซึ่งหนีไปแล้ว แม้แต่จิ่วเฮิงเองก็แฝงตัวเข้าไปในองค์กรนี้ได้แล้วเช่นกัน
เมื่อฉีเติ่งเสียนได้ยินก็ถึงกับตกใจ เพราะก่อนหน้านี้จิ่วเฮิงยังส่งข้อความมาบอกเขาว่ามาถึงแล้ว แต่ผลลัพธ์กลับกลายว่าไปปะปนกับพวกขบวนการค้ามนุษย์นี้ไปเสียแล้ว?
“ควรจะเจอกับจ้าวหงหนีบนรถไฟแล้ว หลังจากนั้นจ้าวหงหนีกับเขาก็คงบอกเเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง เขาถึงเกิดความสนใจ เลยตัดสินใจแฝงตัวเข้าไปแล้วปะ!” ฉีเติ่งเสียนคิดถึงเรื่องนี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกทั้งขำทั้งเศร้า
ฉีปู้อวี่พยักหน้ารู้สึกว่าส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นอย่างนี้จริงๆ
ฉีเติ่งเสียนถึงกับต้องยอมรับในความเก่งกาจของฉีปู้อวี่ เพราะเรื่องที่ทางตำรวจสอบสวนกันมานานแต่ยังไม่มีเบาะแส เขากลับสามารถแอบเข้าไปถึงรังใหญ่ของอีกฝ่ายได้แบบเงียบๆ
“ถ้าอย่างนั้นไจ้เย่กรุ๊ปเป็นยังไงบ้าง ข้าได้ยินมาว่าตอนที่ซื้อกิจการมีปัญหานิดหน่อย?”ฉีปู้อวี่ถามพลางทำท่าทางประกอบ
“ไม่เป็นไรหรอก พวกเขามาจัดการเรื่องราวที่ก่อขึ้นกลับเข้าที่เข้าทางพอดี ฉันไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว”ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างภาคภูมิใจ
เมื่อฉีปู้อวี่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดจบเล้ว ไม่เพียงพยักหน้าเบา ๆ จากนั้นก็หันไปมองว่าฉีเติ่งเสียนนั้นวางกำไลวงหนึ่งไว้ด้านข้าง จึงหยิบขึ้นมาดู
เขาครุ่นคิดและพิจารณาอย่างละเอียดจึงพบว่าเพชรที่ประดับอยู่บนกำไลนั้นมีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร และงานนฝีมือที่ทำนั้นก็ทำประณีตมาก เพียงมองแค่แวบเดียวก็ทราบได้เลยว่าของชิ้นนี้มีมูลค่าไม่ธรรมดาอย่างแน่!
ฉีปู้อวี่จึงเก็บกำไลใส่กระเป๋าตัวเอง แต่ฉีเติ่งเสียนรีบร้องทักขึ้นว่า “เอ๊ะๆ ๆ จะทำอะไรนะ!”
ฉีปู้อวี่จึงพูดอย่างหน้าตาเฉยว่า “ใกล้จะถึงวันเกิดแม่แกแล้ว ฉันยังไม่รู้จะให้อะไรดี ของชิ้นนี้ให้ฉันไปเถอะน่า”
ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความโกรธจัดว่า“ถ้าคุณต้องการจะให้ของขวัญ ก็ไปเตรียมให้เองสิ มาปล้นของผมแบบนี้มันใช่เรื่องไหม?ของชิ้นนี้ผมตั้งใจจะให้เซี่ยงตงฉิงต่างหาก!”
ฉีปู้อวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า“ถึงอย่างไงนายก็ขโมยมาอยู่ดี ก็แค่ไปขโมยอีกชิ้นก็เท่านั้นเอง”
“เรื่องของนักวิชาการ จะไปเรียกว่าขโมยได้ยังไงกัน?”ฉีเติ่งเสียนพูดออกอย่างโกรธ
“เหอะ เหอะ เหอะ” ฉีปู้อวี่ไอกระแอ่มในลำคอพร้อมกับทำท่าทางหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น และพลางทำท่าทางมือประกอบไปด้วย “เซี่ยงตงฉิงสวมใส่เครื่องประดับชิ้นนี้ไม่เหมาะหรอก ท่าทางของเธอยังไม่โตพอ ต้องให้แม่แกใส่ถึงจะเหมาะสม”
ฉีเติ่งเสียนกัดฟันและพูดว่า “ แต่ฉันรับปากเขาไปแล้วนะ”
ฉีปู้อวี่แสดงท่าทางและพูดว่า “ตำหนักปู้หลุนมีพระอาวุโสรูปหนึ่งเข้าใจพระไตรปิฎกดี เป็นที่เล่าลือว่ากันเป็นพระพุทธเจ้ามาจุติใหม่ เขามีลูกปัดทิเบตหลายเส้น ช่วงนี้เขากำลังจะออกเดินทาง เราหาจังหวะที่เหมาะเจาะไปดักทำร้าย เขา แล้วรูดเอาของมาให้หมด”
ฉีเติ่งเสียนได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อยและพูดว่า “แค่ลูกปัดจะมีค่าอะไรนักหนา!”
“แกนี่ช่างโง่จริงๆ ลูกปัดที่เขาพกติดตัวสองสามเส้นนั้นคือลูกปัดทิเบตเป็นสิ่งที่สือบทอดต่อกันมาหลายรุ่นของเหล่าพระอาจารย์ในตำหนักปู้หลุน พระอาจารย์เหล่านั้นปฏิบัติธรรมทุกวัน สนามพลังของพวกเขาแตกต่างจากคนธรรมดาอย่างสิ้นเชิง ลูกปัดเหล่านี้ได้รับอิทธิพลจากสนามพลังเหล่านั้น ผลลัพธ์จึงมีฤทธิ์ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและนำพาโชคลาภมาให้ ”
“แกอย่าไปคิดว่าลูกปัดทิเบตทำจากหินอาเกตจะไม่มีค่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ลูกปัดทิเบตบางเส้นขายได้ราคามากกว่าหนึ่งพันล้าน!”
“ลูกปัดที่พระอาวุโสรูปนั้นพกไว้นั้นสะสมพลังและประวัติศาสตร์ของตำหนักปู้หลุนเอาไว้ ถ้าเอาออกไปประมูลล่ะก็อย่างน้อยก็ต้องได้สักสามร้อยล้านถึงห้าร้อยล้านอย่างแน่นอน”
ฉีปู้อวี่เยาะเย้ยความไม่รู้ของฉีเติ่งเสียน แล้วให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคุณค่าของลูกปัดทิเบต ซึ่งทำให้เขาตกตะลึงอยู่หลายครั้ง
ในแก่นแท้ของศาสนาล้วนมีแนวคิดเรื่อง“การเปิดแสง”แท้ที่จริงแล้วก็คือการให้วัตถุศักดิ์สิทธิ์ดูดซับสนามพลังพิเศษ จนเกิดพลังลี้ลับบางอย่างขึ้น
เหล่าพระอาจารย์แห่งตำหนักปู้หลุนนั้นล้วนเป็นผู้ที่บรรลุธรรมขั้นสูงพลังและออร่าที่แผ่ออกมานั้นต่างจากคนธรรมดาราวฟ้ากับดิน ลูกปัดที่พวกท่านสวมใส่มานานหลายปีจึงเท่ากับได้รับการ “เปิดแสง”ไปโดยปริยายประสิทธิภาพย่อมเหนือกว่าของขลังทั่วไปหลายเท่า
“เดี๋ยวแกก็แค่ไปบอกเซี่ยงตงฉิงว่าเดี๋ยวจะหาของชิ้นที่ดีกว่านี้ให้ ส่วนกำไลนี่ข้าขอยึดไว้ก่อนจะเอาไปให้แม่แกละกัน! เมื่อถึงเวลาฉีปู้อวี่ยิ้มกริ่ม “รอให้เราลงมือจัดการกับพระรูปนั้นเรียบร้อย ลูกประคำทั้งหมดก็เป็นของแก จะเอาไปให้ใครก็เรื่องของแกแล้วล่ะ!”
เขามีบรรยากาศของนักปราชญ์ที่สุภาพละเมียดละไม แต่สิ่งที่เขาวางแผนกลับเต็มไปด้วยความไร้มนุษยธรรม ใครจะไปนึกล่ะว่า ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนนักวิชาการคนหนึ่ง กลับทำเรื่องร้ายแรงยิ่งกว่าพวกโจรป่าเสียอีก?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...