“เคารพเหรอ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เธอคิดว่าคนอย่างฉันจะต้องให้ความเคารพกับคนป่าเถื่อนอย่างเธอด้วยเหรอ?”
“แล้วนายอีกคน นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงได้ออกหน้ามาช่วยเธอแบบนี้?”
“คิดว่าจ้าวเฮยหลงไว้หน้านาย นายก็เลยได้คิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญอย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อหยางเฟยเฟยได้ยินคำพูดของฉีเติ่งเสียน ก็หัวเราะออกและพูดอย่างดูถูกเหยียดหยาม
หวังตงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะพร้อมกับส่ายหัว คิดไม่ถึงว่าจะมีคนต้องการสั่งสอนเขาให้รู้จักเคารพคนอื่น? น่าตลกสิ้นดี!
“ดูเหมือนว่าพ่อแม่นายคงไม่ได้สั่งสอนมาสินะ คนของตระกูลหยางแห่งโมตูเป็นอย่างนี้เหรอ?” ฉีเติ่งเสียนกล่าว
หยางเฟยเฟยไม่ได้สนใจเขา เธอหันไปพูดกับหวังตงว่า: “คุณชายหวัง ไม่ว่านางคนป่าเถื่อนคนนี้จะอยากได้สินค้าอะไรในห้างนี้ก็อย่าไปขายให้มันนะ เดี๋ยวฉันจะซื้อมันไว้เอง!”
หวังตงพยักหน้าแล้วพูดว่า: “คุณหนูหยางอยากทำอะไรก็ได้หมดเลยครับ ผมสนับสนุนคุณหนูหยางเต็มที่”
หยางกวนกวนพูดอย่างกล้ำกลืนว่า: “ทำไม? ทำไมเธอถึงไม่ยอมปล่อยฉันไปเสียที!”
“ฉันก็ได้ออกจากเมืองโมตูมาตั้งนานหลายปี จนต้องย้ายไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศไม่กี่ปีมานี้!”
“ไม่ว่าจะอย่างไง พวกเราก็เป็นญาติกันนี่! ทำไมต้องคอยรังแกฉันอยู่ตลอด?!”
หยางเฟยเฟยมองอย่างเย็นแล้วพูดอย่างภาคภูมิว่า: “ทำไมนะเหรอ? ตัวเธอเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ!”
“ถ้าเธอยอมสละทรัพย์สินมรดก ฉันก็จะพิจารณาปล่อยเธอไป รวมไปถึงกระเป๋าใบนี้ฉันก็จะให้เธอด้วย”
“ทรัพย์สินของตระกูลหยางของพวกฉัน ไม่ได้มีไว้สำหรับคนป่าเถื่อนอย่างเธอ!”
หยางกวนกวนกัดฟันแน่นก่อนจะพูดว่า: “มีสิทธิ์อะไร? ฉันก็เป็นคนของตระกูลหยางเหมือนกัน ฉันจะยอมปล่อยมันไปได้อย่างไร? ฉันถูกคนในตระกูลหยางรังแกมานานหลายปี แล้วฉันจะไปทำตามในสิ่งที่พวกเธอต้องการทำไม?!”
หยางเฟยเฟยหัวเราะเย็นแล้วพูดว่า: “แล้วพวกฉันจะปล่อยเธอผ่านไปได้อย่างไง พวกฉันจะไม่หยุดจนกว่าจะฆ่าเธอได้! เธอเองก็ควรเรียนรู้จากผู้หญิงเลวอย่างแม่เธอและหายตัวไปตั้งแต่เนิ่นๆ”
หยางกวนกวนรู้สึกแย่ขึ้นมา เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตระกูลหยางแห่งเมืองโมตู เธอมีแต่ความรู้สึกไร้อํานาจในใจเท่านั้น!
ตระกูลหยางแห่งเมืองโมตูนั้นแข็งแกร่งมาก ลำพังเพียงความแข็งแกร่งของเธอเองจะไปสู้อะไรได้ แม้แต่การต่อต้านเพียงเล็กน้อยก็สามารถกระตุ้นหัวใจที่สังหารของพวกเขาได้
“กระเป๋าเรียบร้อยแล้วครับ คุณหนูหยาง” ผู้จัดการร้านกระแอม ก่อนจะพูดออกมา
“เอามาเลย” หยางเฟยเฟยพูดอย่างเรียบเฉย
ผู้จัดการร้านกำลังเตรียมจะเดินเอากระเป๋าไปให้ แต่กลับถูกฉีเติ่งเสียนยื่นมือดักไว้แล้วพูดว่า: “คุณไม่เข้าใจหลักการของการมาก่อนหลังเหรอ?”
ผู้จัดการร้านพูดด้วยความหงุดหงิด: “สิ่งของในร้านของฉัน ฉันจะขายให้ใครก็ได้! แล้วใครใช้ให้นายไม่มีปัญญาซื้อล่ะ? ถ้านายมีปัญญาซื้อ ฉันก็จะขายให้พวกนาย!”
เสียงภายในร้านเริ่มดังโวยวายขึ้นมา จึงเป็นจุดดึงดูดให้ผู้คนที่อยู่ในห้างเริ่มหยุดดู
“นั่นใช่คุณชายหวังไหม? มีคนกล้าไปมีปัญหากับเขาด้วยเหรอ?”
“คุณชายหวังเป็นเจ้าของหนุ่มแห่งศูนย์การค้าเฟยหม่า ศูนย์การค้าแห่งนี้ถูกสร้างโดยหวังว่านจินพ่อของเขา!”
“ฉันไม่รู้จริงๆว่ามันจะเป็นเรื่องดีอย่างไงกับคนที่มายั่วยุคุณชายหวังแบบนี้ สมองคงมีแต่น้ำใช่ไหม?”
เมื่อทุกคนได้เห็นว่าคนนั้นคือหวังตง ผู้คนต่างก็พากันพูดกันขึ้นมา
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น หยางกวนกวนก็ค่อยๆก้มศีรษะลง หยางเฟยเฟยสามารถหาเพื่อนอย่างหวังตงได้อย่างง่ายดาย แต่เธอนั้นกลับไม่มีความสามารถ
“อย่าก้มหัว มงกุฎจะร่วง อย่าร้องไห้ คนโง่จะหัวเราะ” ฉีเติ่งเสียนสามารถสัมผัสได้ถึงความด้อยกว่าในหัวใจของหยางกวนกวน ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปแตะที่ศีรษของเธอด้วยรอยยิ้ม
หยางกวนกวนตกตะลึง เธอรู้สึกเกิดความอบอุ่นขึ้นมาภายในใจทันที เพราะในขณะที่คนตระกูลหยางรังแกเธอ แต่กลับมีหนึ่งคนที่พร้อมจะยืนอยู่ข้างๆ
หวังตงมองไปที่ฉีเติ่งเสียน แล้วพูดอย่างเรียบเฉยว่า: “นายอยากได้กระเป๋าใบนี้เหรอ?”
“จริงๆแล้วมันก็ได้นะ ฉันจะให้โอกาสนายสักครั้ง”
“คุกเข่าแล้วคลานเหมือนหมามาขอโทษคุณหนูหยางซะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...