ฉีเติ่งเสียนไม่ได้สนใจคำพูดดูถูกของคนเหล่านั้น เขาหยิบมือถือมาไว้แนบหู
“ไอ้โง่ ยังจะแสร้แสร้งให้ใครดูอีก ทุกคนต่างก็รู้ว่าคุณชายหวังเป็นเจ้าของศูนย์การค้าเฟยหม่าแห่งนี้ เขายังจะโทรไปหาใครอีกเหรอ?”
“คนแบบนี้โง่เง่าจริงๆ ผมแนะนําให้ผู้จัดการร้านรีบโทรแจ้งตํารวจเพื่อจับกุมเขาแล้วดําเนินคดีในข้อหาปล้นทรัพย์!”
“นั่นสิ ไม่มีปัญญาแล้วยังมาก่อกวนไม่หยุดอีก ใครเห็นใครก็รังเกียจ!”
เมื่อผู้คนเห็นฉีเติ่งเสียนทำท่าทางแบบนั้นต่างก็พากันหัวเราะเยาะ คิดว่าเขาแค่แกล้งทำท่าทางไปอย่างนั้น
ไม่กี่วินาทีต่อมา ปลายสายก็รับ ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเรียบเฉยว่า: “เหล่าหวัง ฉันมีเรื่องจะรบกวนนายสักเรื่อง”
“ฉันถูกใจศูนย์การค้าเฟยหม่า นายประเมินราคามาให้หน่อย!”
“ฉันอยากจะซื้อศูนย์การค้าแห่งนี้ในนามของนาย ภายในหนึ่งชั่วโมง”
“มีปัญหาอะไรไหม?”
เมื่อพูดจบ เขาก็รอฟังคำตอบของหวังว่านจิน จากนั้นเขาก็เก็บมือถือลงไป
“เหล่าหวัง? ฮ่าฮ่าฮ่า เล่นตลกอะไรกันเนี่ย คนทั้งเมืองจงไห่มีใครหน้าไหนกล้าเรียกหวังว่านจินผู้ร่ำรวยแบบนั้น?”
“คนที่กล้าเรียกคุณหวังว่านจินว่าเหล่าหวัง ก็คงจะมีแต่นายกของตงไห่คนเดียวเท่านั้นที่เรียกแบบนั้นได้!”
“แสดงเก่งจริงๆ ฉันทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว อยากจะเข้าไปจัดการมันเลย……”
หวังตงส่ายหัวก่อนจะหัวเราะเยาะ: “เหล่าหวัง? เมื่อกี้นายโทรศัพท์หาพ่อของฉันเหรอ? เหอะเหอะ……”
ฉีเติ่งเสียนพูด: “ก็ใช่นะสิ ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อของนายให้กำเนิดลูกชายเลวๆแบบนี้มาได้ยังไง?”
หวังตงพูดด้วยความโกรธว่า: “หุบปาก!”
“นายมันไอ้ขยะ แกล้งแสดงมาตั้งแต่แรกแบบนี้รู้สึกขยะแขยงบ้างตัวเองบ้างไหม?”
“แถมยังแสดงว่าโทรหาพ่อของฉันอีก?”
“ถึงพ่อฉันจะยอมขายศูนย์การค้าแห่งนี้ให้นาย นายจะปัญญาซื้อมันเหรอ?”
“ศูนย์การค้าแห่งนี้มีมูลค่ามากกว่า 5 พันล้าน นายจะเอาปัญญาที่ไหนมาซื้อ?ไอ้สมองพิการ!”
หยางเฟยเฟยหันไปมองฉีเติ่งเสียนด้วยความดูถูก แล้วพูดว่า: “นายคิดว่านายทำให้จ้าวเฮยหลงยอมก้มหัวให้นายได้ แล้วนายจะได้สมปรารถนาทุกอย่างที่ต้องการในจงไห่เหรอ?
“จ้าวเฮยหลงยังอยู่ห่างจากความร่ำรวยของตระกูลหวังอยู่หลายเท่า”
“วันนี้ฉันจะคอยดูว่านายจะซื้อศูนย์การค้าแห่งนี้ไปอย่างไง!”
“แถมยังสั่งห้ามไม่ให้ฉันซื้อของที่นี่อีก? น่าตลกสิ้นดี! ถ้านายซื้อไม่ได้ ฉันก็จะซื้อของทั้งหมดมาถมนายให้ตายเลยคอยดู!”
หวังตงกวักมือ เพียงครู่เดียวเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เข้ามาทันที
“ฉันจะให้เวลาแกสิบนาที สิบนาทีต่อมา ถ้าฉันไม่ได้รับโทรศัพท์จากพ่อของฉัน ฉันจะส่งแกไปสถานีตํารวจและดําเนินคดีในข้อหาปล้นทรัพย์!”หวังตงหัวเราะเยาะ
ฉีเติ่งเสียนไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว เขายื่นกระเป๋าให้กับหยางกวนกวนแล้วพูดว่า: “ถ้าชอบก็ถือเอาไว้ ถือว่านี่เป็นของขวัญจากฉัน”
หยางกวนกวนตกตะลึง พร้อมกับยื่นมือไปหยิบกระเป๋าใบนั้นด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย
“คุณชายหวัง เมื่อสักครู่เขาบอกไม่ให้ผมเปิดร้านที่นี่แล้วใช่ไหม? ผมคิดออกแล้ว ผมไม่เพียงแต่จะเปิดต่อ แต่ผมจะขยายสาขาอีกสาขาหนึ่ง!” ผู้จัดการร้านชาแนลหัวเราะเยาะ
“ไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันกลับไปจัดการให้ พร้อมกับฟรีค่าเช่า 3 เดือน!” หวังตงหัวเราะชอบใจ
ผู้คนได้ยินอย่างนั้นต่างก็พากันหัวเราะกันไปด้วย
เมื่อกี้ฉีเติ่งเสียนยังพูดไร้สาระอยู่เลย แต่เพียงในพริบตาเดียวกลับถูกผู้จัดการร้านและหวังตงพูดตบหน้าเข้าให้
หยางเฟยเฟยยังพูดขึ้นอีกว่า: “พวกนายคนไหนเปิดร้านในศูนย์การค้าเฟยหม่า ให้เลือกเอาสินค้าที่แพงที่สุดจากร้านของพวกนายแล้วนํามาให้ฉัน ฉันอยากซื้อมันเอง!”
ตระกูลหยางแห่งเมืองโมตูนั้นเป็นตระกูลที่ร่ำรวยอยู่แล้ว
หลังจากที่เหล่าผู้จัดการร้านได้ยินเช่นนี้ ต่างก็ดีใจและปลื้มใจทันทีในเวลาเดียวกัน
“สมแล้วที่เป็นคุณหนูหยางแห่งเมืองโมตู เธอร่ำรวยและกล้าหาญมาก!”
“ไอ้คนโง่คนนี้ที่เพิ่งบอกไม่ให้คุณหนูหยางซื้อของในศูนย์การค้าแห่งนี้ แต่ตอนนี้คุณหนูหยางหันกลับมาตบหน้าเขา มันสนุกจริงๆ!”
“ทำไมถึงไม่พูดอะไรแล้วล่ะ? ไม่มีหน้าจะพูดแล้วใช่ไหมล่ะ?ถูกคนตบจนบวมแล้วใช่ไหม?”
พวกเขาสนับสนุนหยางเฟยเฟย และไม่ลืมที่จะเหยียบย่ำฉีเติ่งเสียนด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...