มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 212

สรุปบท บทที่ 212 โอนให้คนอื่น: มังกรผู้ทรงพลัง

บทที่ 212 โอนให้คนอื่น – ตอนที่ต้องอ่านของ มังกรผู้ทรงพลัง

ตอนนี้ของ มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 212 โอนให้คนอื่น จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เลขาหลู่หยิบสัญญาออกมาจากอ้อมแขนของเขาด้วยความเคารพ

“คุณฉีครับ นี่เป็นสัญญาที่คุณหวังให้ผมเตรียมมาให้ เพื่อโอนศูนย์การค้าเฟยหม่าแห่งนี้ให้กับคุณ” เลขาหลู่กล่าว

เมื่อเลขาหลู่พูดประโยคนั้นจบ ฉากนี้ก็ปรากฏต่อหน้าสาธารณะชน!

แม้แต่หยางกวนกวนก็มองไปยังฉีเติ่งเสียนอย่างไม่น่าเชื่อ เธอคิดว่าฉีเติ่งเสียนแกล้งแสดงเล่น แต่ไม่คิดว่าเขาจะมีอำนาจที่ทำให้หวังว่านจินยอมโอนศูนย์การค้าเฟยหม่าแห่งนี้ให้กับเขา!

หวังตงถึงกับตกใจจนตาขาว พร้อมพูดด้วยเสียงที่สั่นคลอนว่า : “เลขาหลู่ กำลังล้อเล่นอะไร ทำไมพ่อของผมถึงยอมโอนศูนย์การค้าเฟยหม่าให้กับคนอื่นแบบนี้?”

เลขาหลู่พูดอธิบาย: “คุณชายหวัง ผมไม่ได้ล้อเล่น ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของคุณหวังครับ ผมแค่เป็นคนช่วยดูแลจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย”

ที่จริงแล้วแม้แต่ตัวเลขาหลู่เองก็ยังตกใจ ว่าทำไมจู่ๆหวังว่ายจินถึงยอมโอนศูนย์การค้าแห่งนี้ให้กับคนอื่น มันไม่ใช่การเอาเงินให้คนอื่นฟรีๆหรอกเหรอ ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรจากการทำแบบนี้เลย!

“เด็กหนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่ เพียงแค่ยกโทรศัพท์ก็สามารถทำให้หวังว่านจินผู้ร่ำรวยของจงไห่ยอมโอนศูนย์การค้าเฟยหม่าให้กับเขา?”

“โอ้……เขาไม่ได้แกล้งแสดงละคร แถมยังพูดจริงทำจริงอีก!”

“โอ้พระเจ้า ศูนย์การค้าเฟยหม่า เขาเพียงแค่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาก็เปลี่ยนเจ้าของไปแล้ว!”

เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งที่เลขาหลู่พูดออกมา ต่างก็พากันตกใจ เพราะมูลค่าของศูนย์การค้าแห่งนี้หลายพันล้าน

หวังว่านจินกลับยอมโอนศูนย์การค้าแห่งนี้ให้กับคนอื่นจริงๆ!

“ตอนนี้คุณชายหวังเข้าใจแล้วหรือยัง? ตอนนี้ผมคือเจ้าของศูนย์การค้าเฟยหม่าแห่งนี้” ฉีเติ่งเสียนเหลือบตามองไปยังหวังตงแล้วพูดอย่างเรียบเฉย

หวังตงเหมือนโดนลูกดอกแทงเข้าที่กลางอก เขามีสีหน้าที่ซีดเซียวเห็นได้ชัด เขาคิดไม่ถึงว่าเขาจะถูกตบหน้ากลับได้เร็วเหมือนพายุทอร์นาโดแบบนี้!

หยางเฟยเฟยก็หน้าเสียเช่นกัน ฉีเติ่งเสียนมีอำนาจมากกว่าที่เธอคิดไว้เสียอีก!

ครั้งที่แล้วเขาสามารถทำให้จ้าวเฮยหลงก้มหัวให้กับเขาได้ ครั้งนี้เพียงแค่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาก็สามารถทำให้หวังว่านจินผู้ร่ำรวยยอมโอนศูนย์การค้าแห่งนี้ให้!

หวังตงไม่มีอะไรจะพูด พ่อเขาได้โอนศูนย์การค้าให้กับฉีเติ่งเสียนไปแล้ว เขาจะสามารถพูดอะไรได้อีก?

“ผู้จัดการ เมื่อกี้คุณยังอวดเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? เห็นบอกจะเปิดอีกสาขาหนึ่ง”

“ต้องขอโทษทีนะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ร้านของนายห้ามเปิดขายที่นี่อีก แล้วไสหัวออกไปจากศูนย์การค้าของฉันซะ!”

“อีกอย่าง ผู้จัดการร้านคนอื่นที่พูดเสียงดังโวยวายกันเมื่อกี้ รบกวนช่วยพูดให้ฟังอีกสักรอบได้ไหม”

ฉีเติ่งเสียนกวาดสายตาไปมองผู้จัดการชาแนลและคนอื่นๆ แล้วพูดอย่างเรียบเฉย

เหล่าผู้จัดการที่ส่งเสียงดังเมื่อครู่นี้ไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรสักคำ ตอนนี้ฉีเติ่งเสียนกลายเป็นเจ้าของศูนย์การค้าแห่งนี้แล้ว ถ้าพวกเขาขืนพูดอะไรไม่ดีคงได้ถูกไล่ออกแน่นอน!

ผู้จัดการรร้านชาแนลทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ถ้าเขาถูกไล่ออกจากศูนย์การค้าเฟยหม่า เขาต้องเสียหายอย่างร้ายแรงแน่นอน

ศูนย์การค้าเฟยหม่าแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่มีร้านค้าหรูหรามากมาย และความสามารถในการซื้อสินค้าของลูกค้านั้นแข็งแกร่งมาก ถ้าพวกเขาออกไปเกรงว่าพวกเขาจะไม่สามารถเข้ามาข้างในได้ด้วยซ้ำ

“ผมผิดไปแล้ว คุณฉี ผมผิดไปแล้ว! ผมขอมอบกระเป๋าใบนี้ให้กับผู้หญิงท่านนี้ครับ” ผู้จัดการร้านรีบพูดขอโทษ

“ไม่จำเป็น นายรีบเก็บข้าวของแล้วไสหัวออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ ฉันไม่อยากเห็นหน้านายที่ศูนย์การค้าแห่งนี้อีกต่อไป” ฉีเติ่งเสียนกลับพูดปฏิเสธ

หยางกวนกวนได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น กระเป๋าใบนี้เธอเป็นคนอยากได้มันก่อน แต่ผู้จัดการคนนี้กลับไปขายให้กับหวังตงและหยางเฟยเฟย

ฉีเติ่งเสียนชำเลืองมองไปยังหยางเฟยเฟย แล้วพูดว่า: “เอาอำนาจของเธอกลับไปใช้ที่เมืองโมตูโน้น อย่าได้เอามาใช้ที่เมืองจงไห่แบบนี้อีก”

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ร้านทุกร้านในศูนย์การค้าแห่งนี้ห้ามขายของให้กับเธออีก ถ้าใครขายก็ไสหัวออกไปซะ!”

“แม้แต่น้ำแก้วเดียวก็ห้ามขายให้เธอ!”

หยางเฟยเฟยได้ยินเช่นนั้นก็หน้าแดงกร่ำ เธอเป็นถึงคนในตระกูลหยางแห่งโมตู ไม่เคยมีใครทำให้เธอต้องขายขี้หน้าแบบนี้มาก่อน?!

เพราะขนาดหวังว่านจินผู้ร่ำรวยแห่งจงไห่ก็ยังเทียบไม่ได้กับอำนาจของตระกูลหยางแห่งโมตู

เมืองโมตูนั้นคือมหานครทางการเงิน ตระกูลหยางสามารถครองด้านในด้านหนึ่งได้ก็แสดงให้เห็นว่ามีพลังอำนาจมาก!

ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเรียบเฉย: “ยังจะมามุงดุอะไรกันอีก? อยากให้ฉันจัดการทีละคนหรือไง?”

กลุ่มคนที่มามุงดูก็รีบสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าจะโดนเล่นงานไปด้วย

ฉีเตียงเสียนโยนเช็คใบหนึ่งให้กับผู้จัดการร้านชาแนล แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า : “ฉันซื้อกระเป๋าใบนี้แล้ว ภายในวันนี้นายรีบเก็บข้าวของแล้วไสหัวออกไปซะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน!”

ผู้จัดการร้องห่มร้องไห้อย่างหน้าเศร้า: “คุณฉีครับ ให้โอกาสผมสักครั้งเถอะครับ ผมผิดไปแล้ว! กระเป๋าใบนี้ผมขอมอบให้คุณผู้หญิงฟรีๆไปเลย ……”

ฉีเติ่งเสียนทำเป็นไม่ได้ยิน แล้วเขาก็หมุนตัวเดินออกไปจากร้านทันที

หยางกวนกวนตกตะลึง แต่ก็รีบเดินตามเขาออกไป

“ฉันไม่ต้องการศูนย์การค้าแห่งนี้แล้ว ที่ฉันบอกให้เหล่าหวังโอนศูนย์การค้าให้ฉันก็เพียงเพราะต้องการจะระบายความโกรธก็เท่านั้น” ฉีเติ่งเสียนพูดกับเลขาหลู่อย่างเรียบเฉย

“หา ……” เลขาหลู่ตกตะลึง ศูนย์การค้าที่มีมูลค่าหลายพันล้าน แต่ฉีเติ่งเสียนไม่ต้องการมันแล้ว?

ฉีเติ่งเสียนคืนหนังสือสัญญาให้กับเลขาหลู่ แล้วพูดว่า : “นายเอากลับไปให้เหล่าหวังเถอะ”

เลขาหลู่ไม่กล้าตัดสินใจ เขาถึงพูดว่า : “เดี๋ยวผมขอโทรศัพท์หาคุณหวังก่อนดีกว่าครับ”

“ไม่ต้องบอกเขาหรอก เอากลับไปก็พอ บอกว่านี่คือความตั้งใจของฉัน” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างนิ่งเฉย

เลขาหลู่รู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้คงมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่ง เขาจึงไม่กล้าพูดอะไรมาก ได้แต่รับหนังสือสัญญาไปด้วยความเคารพ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง