มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 226

สรุปบท บทที่ 226 หายกัน: มังกรผู้ทรงพลัง

อ่านสรุป บทที่ 226 หายกัน จาก มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู

บทที่ บทที่ 226 หายกัน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง มังกรผู้ทรงพลัง ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จาง หลงหู อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ฉีเติ่งเสียนมาถึงห้องพักรักษาตัวของซุนเสวี่ยเหวิน

ถึงอย่างไรซุนเสวี่ยเหวินก็เป็นคนที่มีฐานะคนหนึ่ง ดังนั้นเขาย่อมต้องพักรักษาตัวอยู่ในห้องวีไอพีเป็นธรรมดา

ห้องคนไข้วีไอพีมีลักษณะคล้ายกับห้องสวีทของโรงแรม มีคนจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ในนั้น และทุกคนล้วนเป็นผู้บริหารระดับสูงของธนาคารใหญ่ๆ ในเมืองจงไห่

พวกเขานำกระเช้าดอกไม้ ผลไม้ บ้างก็อาหารเสริมมาเยี่ยมซุนเสวี่ยเหวิน แต่ละคนต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ฉีเติ่งเสียนที่ทำร้ายซุนเสวี่ยเหวิน

“นั่นใครน่ะ นายมาจากธนาคารหรือบริษัทไหน ไม่รู้จักมาก่อนมาหลังหรือไง ไปต่อแถว!” ประธานพุงพลุ้ยคนหนึ่งตวาดขึ้นเมื่อฉีเติ่งเสียนกำลังจะเข้าไป

“โอ๊ะ... ก็มีเหตุผล!” ฉีเติ่งเสียนคิดนิดหนึ่งก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย

จากนั้นเขาจึงไปยืนต่อท้ายแถวตามนั้นจริงๆ

เมื่อวานซุนเสวี่ยเหวินถูกฉีเติ่งเสียนทำร้ายอย่างหนักจนดั้งหัก แขนทั้งสองข้างก็ถูกบิดจนหักไม่ต่างกัน

หยางเฟยเฟยก็เลือดเย็นพอกัน ยังไม่ทันจะได้วิดีโอเทปที่เขาต้องการ เธอก็ปฏิเสธเงินกู้สองพันล้านจากธนาคารของซุนเสวี่ยเหวินอย่างเย็นชา

“ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง ยังจะมีหน้ามาหาฉันอีกเหรอ” นี่คือคำพูดของหยางเฟยเฟยที่แทบจะทำให้ซุนเสวี่ยเหวินซึ่งบาดเจ็บอยู่แล้วโกรธแทบตาย

สรุปแล้วก็คือ ซุนเสวี่ยเหวินคว้าน้ำเหลว

ที่จริงเขามานึกเสียใจด้วยซ้ำที่ถูกหยางเฟยเฟยล่อลวง ถ้าเขาไม่ทำอะไรแบบนั้น ไม่ทรยศหยางกวนกวน เขาอาจจะใช้เรื่องดีๆ เหล่านั้นทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นได้

จนเมื่อฉีเติ่งเสียนมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าซุนเสวี่ยเหวิน ซุนเสวี่ยเหวินจึงสะดุ้ง จากนั้นสีหน้าก็อึมครึมขึ้นมา

ซุนเสวี่ยเหวินเอ่ยอย่างเย็นชา “ฉีเติ่งเสียน นายกล้าดียังไงถึงตามฉันมาถึงโรงพยาบาล!"

ทุกคนประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ซุนเสวี่ยเหวินพูด จากนั้นจึงพากันหันไปมองฉีเติ่งเสียน

พวกเขารู้อยู่แล้วว่าใครเป็นคนทำร้ายซุนเสวี่ยเหวินจากคำบอกเล่าของเขาเอง นอกจากนี้ประธานใหญ่แต่ละรายต่างก็สัญญาว่าจะไม่ให้เงินกู้แก่เทียนไล่แคปปิตอลเลยแม้แต่แดงเดียว!

“หมอนี่น่ะเหรอ ประธานหุ่นเชิดของเทียนไล่แคปปิตอล? เมื่อวานเขาทำร้ายผู้อำนวยการซุนจนสภาพเป็นแบบนี้!”

“จะกล้าเกินไปแล้ว เมื่อวานทำร้ายเขาจนเป็นแบบนี้ วันนี้ยังจะกล้ามาหาถึงโรงพยาบาลอีก”

“ทำให้ผู้อำนวยการซุนไม่พอใจ มีแต่เสียกับเสีย! ผู้อำนวยการซุนเป็นถึงหลานชายผู้อำนวยซุนซิงจัง ผู้อำนวยการธนาคารจงไห่ของพวกเรา!”

“ฮ่าๆๆ หมอนี่คงจะเลือดร้อนชั่ววูบ ตอนนี้พอนึกได้เลยมาร้องขอความเมตตา”

“ใช่ ถ้าทำให้ผู้อำนวยการซุนไม่พอใจก็อย่าหวังว่าจะได้กู้เงินแม้แต่แดงเดียว ถ้าเขาไม่ยอมรับผิด ธุรกงธุรกิจอะไรก็ไม่ต้องทำกันแล้ว”

ประธานแต่ละคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างทำสีหน้าแตกต่างกันออกไป บางคนมีสีหน้าสะใจ บางคนล้อเลียน บางคนกังวล บางคนตื่นตระหนก

ฉีเติ่งเสียนเอ่ยอย่างสงบว่า “ทำไมฉันถึงจะไม่กล้ามา ฉันเป็นคนทำให้ซุนเสวี่ยเหวินบาดเจ็บ ฉันต้องมาเยี่ยมเขาเป็นธรรมดา!"

คำพูดนี้ทำให้ประธานที่อยู่รอบๆ ต่างมองหน้ากันอย่างอดไม่ได้ มีใครเขาพูดแบบนี้กันบ้าง?

“เฮอะ! ที่นี่ไม่ต้อนรับนาย ไสหัวไปซะ!” ซุนเสวี่ยเหวินตวาดอย่างแรง แต่ตอนที่เขาพูด น้ำเสียงของเขายังคงสั่นเล็กน้อย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะความกลัว

เมื่อวานนี้ฉีเติ่งเสียนลงมือกับเขาอย่างโหดร้าย เขาละกลัวจริงๆ ว่าฉีเติ่งเสียนจะคลั่งไล่ตามมาทำร้ายเขาถึงโรงพยาบาล

ฉีเติ่งเสียนยิ้มและเอ่ยว่า “ถ้ามีปัญหาเราต้องช่วยกันแก้ จะมาทำอารมณ์เสียเหมือนเด็กๆ ได้ที่ไหนกัน”

ซุนเสวี่ยเหวินมีสีหน้ามืดมน เขาบาดเจ็บถึงขนาดนี้ แขนก็ถูกพันไว้อย่างกับมัมมี่ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผล แบบนี้จะเอาอะไรมาช่วยกันแก้

“แน่ล่ะ เงินกู้ของหมอนี่ถูกอายัดอยู่ ตอนนี้เมื่อไม่มีเงินในมือก็ไม่มีทางขับเคลื่อนบริษัท คงมาที่นี่เพื่อขอความเมตตา!”

“ถ้ารู้อย่างนี้แล้วจะทำแต่แรกรึ? นั่นละ ความเลือดร้อนไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย ทำให้เขาขุ่นเคือง สุดท้ายก็ต้องทุกข์เอง”

“ทำร้ายเขาจนเป็นขนาดนี้แล้วยังจะมาแก้ไขอะไรอีก ฉันว่าเขาฝันกลางวันไปแน่!”

บรรดาประธานต่างพากันหัวเราะเยาะ พอจะเดาได้แล้วว่าทำไมฉีเติ่งเสียนจึงมาถึงที่นี่

“ฮ่าๆๆๆ...”

พอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกคนก็หัวเราะกันยกใหญ่

ซุนเสวี่ยเหวินเองก็พอใจเช่นกัน จนเมื่อฉีเติ่งเสียนกลับมา เขาจึงพูดอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้วใช่ไหมว่าเป็นคนผิด”

“ตอนนี้คุยกันดีๆ ได้แล้วใช่ไหม” ฉีเติ่งเสียนถามด้วยรอยยิ้ม

“คุกเข่าตรงหน้าฉัน เห่าให้เหมือนหมา เห่าหนึ่งทีให้ตบปากตัวเองหนึ่งที ทำจนกว่าฉันจะยอมยกโทษให้!” ซุนเสวี่ยเหวินหัวเราะอย่างชั่วร้ายและรู้สึกเหมือนตัวเองได้กุมฉีเติ่งเสียนไว้ในกำมือแล้ว

รอยยิ้มบนใบหน้าของฉีเติ่งเสียนค่อยๆ จางหายไป เขาเอ่ยว่า “ผู้อำนวยการซุน คุณยังไม่พร้อมจะพูดคุยดีๆ หรือ”

ซุนเสวี่ยเหวินเอ่ยเยาะๆ ว่า “นายทำฉันเจ็บจนเป็นแบบนี้ ฉันยังต้องคุยกับนายดีๆ อีกเหรอ นายโง่หรือไง?!"

ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยว่า “เมื่อวานผมทำร้ายคุณ แต่วันนี้ผมมาเยี่ยมคุณแล้ว แถมยังช่วยคุณเอาโถฉี่ไปเททิ้ง ช่วยคุณไว้ตั้งมาก ดังนั้นเรื่องที่ผิดใจกันของเราก็ถือว่าหายกัน"

ทุกคนชะงักงันเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้

หมอนี่สมองกลับหรือไง เอาปัสสาวะไปเททิ้งครั้งเดียวแล้วมาบอกว่าช่วยไว้ตั้งมาก หายกันเนี่ยนะ7

“ตอนนี้คุณมาบอกให้ทำแบบนั้น นั่นเห็นได้ชัดว่าคุณพยายามทำให้ผมอับอาย ต้องการรังแกผม”

“ดังนั้น ถ้าผมจะจัดการกับคุณตอนนี้ก็คงไม่มีใครหาว่าผมไร้เหตุผล!"

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฉีเติ่งเสียนอีกครั้ง แต่รอยยิ้มนี้แฝงไปด้วยความมืดมนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ซุนเสวี่ยเหวินได้ยินดังนั้นก็อดตะลึงไม่ได้ เขาเอ่ยอย่างโมโหว่า “นี่มันตรรกะอะไรของนาย เมื่อวานนายทำร้ายฉันอย่างป่าเถื่อน วันนี้ช่วยฉันเทโถฉี่ครั้งเดียว แล้วจะมาถือว่าหายกัน?”

“คุณขอให้ผมช่วยเทโถฉี่ให้คุณ ดังนั้นก็ถือว่าหายกัน” ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าอย่างจริงจัง จากนั้นจึงเดินไปที่ข้างเตียง

พวกประธานธนาคารที่อยู่ที่นี่ตกใจมากเมื่อเห็นดังนั้น หมอนี่คิดจะทำอะไร เขาบ้าไปแล้วงั้นหรือ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง