มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 299

สรุปบท บทที่ 299 สองทางเลือก: มังกรผู้ทรงพลัง

บทที่ 299 สองทางเลือก – ตอนที่ต้องอ่านของ มังกรผู้ทรงพลัง

ตอนนี้ของ มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 299 สองทางเลือก จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ด้วยท่าทางและหน้าตาขอฉีงเฉียวเชิวเมิ่ง ทำให้ฉีเติ่งเสียนยิ้มหัวเราะอย่างรู้สึกเขินอายเล็กน้อย ถ้าเมื่อก่อนเธอแสดงออกมาให้ได้ขึ้นหนึ่งของตอนนี้ พวกเขาทั้งสองก็คงไม่พัฒนาเป็นการหย่าร้างกันหรอก

การแสดงออกมาของเฉียวชิวเมิ่งในตอนนี้ มันน่าจะเกิดจากเธอสูญเสียความทรงจำไปว่าทั้งสองนั้นได้หย่าร้างกันไปแล้ว ยิ่งกว่านั้นสิ่งที่เธอไม่พอใจในตัวฉีเติ่งเสียนแต่ก่อนก็ถูกลืมไปหมดเช่นกัน

ในจิตสํานึกของเธอในตอนนี้ก็คือฉีเติ่งเสียนเป็นสามีของเธอ และความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองยังคงดีมาก

“ไม่รู้ว่าถ้าอาการของเธอดีขึ้นและความทรงจำกลับมา เรื่องนี้คงจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน”ฉีเติ่งเสียนได้แต่นึกหัวเราะในใจ

เมื่อพั่งซิ่วอวิ๋นเห็นเฉียวชิวเมิ่งนอนหลับไปแล้ว ก็หันมายิ้มให้กับฉีเติ่งเสียน แล้วพูดว่า : “เติ่งเสียน นายดู ชิวเมิ่งเอาแต่คิดถึงนายขนาดนี้ หรือว่าพวกเธอจะกลับมาแต่งงานกันอีกครั้งดีไหม?”

ฉีเติ่งเสียนได้ยินสิ่งที่เธอพูดก็รู้สึกตกตะลึง เขาส่ายหัวแล้วพูดว่า : “ตอนนี้เธอป่วยอยู่ เธออาจจะจำความอะไรไม่ค่อยได้”

“ถ้าตอนนี้ผมแต่งงานกับเธออีกครั้ง แล้วถ้าวันหนึ่งเธอจำความได้ขึ้นมาเกรงว่าคงจะไม่มีทางรับมือได้”

“รอให้เธอหายดีก่อน แล้วค่อยคุยกันดีกว่าครับ”

พั่งซิ่วอวิ๋นไม่ได้รู้สึกว่าคำพูดของฉีเติ่งเสียนนั้นเป็นการพูดปฏิเสธแบบอ้อมๆ เธอจึงทำได้เพียงแค่ยิ้มแล้วพยักหน้า: “ใช่ ใช่ ใช่ นายพูดมีเหตุผล”

ตอนนี้เธอแทบรอไม่ไหวที่จะย้อนกลับไปตบปากของตัวเองในอดีต ทําไมเธอถึงไม่รู้ว่าลูกเขยของตัวเองนั้นเก่งกาจแค่ไหน? แถมยังยุแยงให้เฉียวชิวเมิ่งหย่ากับเขาอีก!

เมื่อทั้งคู่หย่ากันไปแล้ว พั่งซิ่วอวิ๋นเพิ่งจะได้เข้าใจว่าตัวเองนั้นทำผิดอะไรไปตั้งหลายอย่าง

ไม่นาน เฉียวกั๋วเทาก็เปิดประตูห้องเข้ามา แล้วพูดด้วยความกังวลว่า : “เติ่งเสียน เอ่อ…… หลงจงฉวนเขามา แล้วตอนนี้จะทำยังไงต่อ?”

ฉีเติ่งเสียนพูด : “ผมรอเขาอยู่!”

พูดจบ ฉีเติ่งเสียนก็เดินออกจากห้องไป พร้อมกับปิดประตูอย่างเบาๆ

เมื่อเขาเห็นชายวัยกลางคนท่าทางโหดเหี้ยมกำลังเดินอยู่ระหว่างทางเดิน ชายคนนั้นก็คือหลงจงฉวน!

พยายามนั่งพิงตัวกับกำแพง เมื่อได้เห็นหลงจงฉวนเขาก็พูดด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น : “ประธานหลง ในที่สุดคุณก็มาแล้ว!”

“ประธานหลง พวกมันทำร้ายผมถึงขนาดนี้ มันไม่ไว้หน้าคุณเลยสักนิด”

“ดูหน้าผมสิ ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานของอาชญากรรมของพวกมัน!”

เมื่อหลงจงฉวนเห็นเหวินฝงถูกทำร้ายจนเป็นขนาดนี้ เขาก็รู้สึกโมโหมาก

เขาคิดว่าเหวินฝงมากสุดก็คงจะโดนเตะทีสองทีเพื่อสั่งสอน แต่ที่ไหนได้เหวินฝงถูกทำร้ายจนหน้าเต็มไปด้วยเลือดแบบนี้!

ดังนั้นไฟชั่วร้ายของหลงจงฉวนเริ่มจุดขึ้นบนศีรษะของเขา และร่างกายก็สั่นสะท้านไปด้วยความโกรธ

“แสดงว่า คำพูดที่ฉันฝากมามันไม่มีใครเข้าใจเลยใช่ไหม? ถึงได้กล้าเมินคำพูดฉันแบบนี้?”

“เฉียวชิวเมิ่งฟื้นแล้ว แต่ไม่ยอมส่งตัวมาให้ฉัน? ฉันส่งเลขามาจัดการความเรียบร้อย พวกแกก็ยังกล้าทำร้ายเขาอีก?”

“คนในตระกูลเฉียวคงอยากจะตายกันจริงๆใช่ไหม!”

หลงจงฉวนหันไปมองเฉียวกั๋วเทา แล้วตะคอกเสียงดัง

เฉียวกั๋วเทาโดนตะคอกเสียงดัง ทำให้ตกใจกลัวจนหน้าซีด แต่เขาก็ยังกัดฟันแน่นแล้วพูดว่า : “ คุณทำร้ายลูกสาวผมขนาดนี้ แล้วยังกล้ามีหน้ามาพูดแบบนี้อีกเหรอ?”

ฉีเติ่งเสียนเดินมาตรงหน้าหลงจงฉวน

หลงจงฉวนมองมาที่เขา ก่อนจะพูดอย่างเย็นชาว่า : “แล้วแกเป็นใคร?”

เหวินฝงพูดเสียงอู้อี้ว่า : “ประธานหลง มันคือคนที่ทำร้ายผม มันไม่สนใจคุณสักนิด……คุณต้องจัดการมันให้สาสม!”

“นายต้องการให้ฉันนอนในห้องเก็บศพของโรงพยาบาลใช่ไหม? อย่างนั้นนายก็แสดงความสามารถของนายให้ฉันดูหน่อยว่านายมันแน่สักแค่ไหน!”

หลงจงฉวนพูดกับฉีเติ่งเสียนอย่างเรียบเฉยว่า : “วันนี้นายลองกล้ามาแตะนิ้วฉันดู ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่านายมันจะแน่เหมือนคำพูดโง่ๆของนายหรือเปล่า”

เมื่อพูดจบ จู่ๆบอดี้การ์ดก็มายืนอยู่ด้านหลังของหลงจงฉวน เป็นชายฉกรรจ์รูปร่างแข็งแกร่ง สูงกว่า 180 เซนติเมตร ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น

พอมองแล้ว คนที่ดูโหดเหี้ยมเช่นนี้ ไม่ควรที่จะไม่ยั่วยุเขาได้เลย!

ยิ่งกว่านั้น บุคคลนี้ยังคงมีพลังงานสังหารที่น่ากลัว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นพลังงานของสัตว์ที่ดุร้ายที่คลานออกมาจากทะเลแห่งศพและเลือด

“ได้สิ” ฉีเติ่งเสียนยิ้ม

ทันใดนั้นเขาก็เข้าไปกระชากหน้าของหลงจงฉวน แต่บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว เขาจึงก้าวเข้ามาบังอยู่ด้านหน้าของหลงจงฉวน

หลงจงฉวนไม่หวั่นไหวเลย เขาเชื่อใจบอดี้การ์ดของเขาเป็นอย่างมาก เพราะเขาได้พบกับวิกฤตนับไม่ถ้วน ซึ่งบอดี้การ์ดคนนี้เองที่เป็นคนจัดการทุกอย่าง

บอดี้การ์ดคนนี้ ซึ่งออกมาจากกองกําลังพิเศษที่มีชื่อเสียง เคยต่อสู้กับทหารที่ชายแดนของประเทศอินเดีย

ประสบการณ์ต่อสู้นับร้อยครั้ง เป็นคำพ้องชื่อเรียกบอดี้การ์ดคนนี้!

มือของฉีเติ่งเสียนยังไม่ทันเอื้อมถึง ลูกดอกก็ได้โผล่ออกมาจากแขนเสื้อของบอดี้การ์ด เขายกมือขึ้นและแทงมันเข้าไปที่หน้าอกโดยตรง!

การลงมือครั้งนี้ไม่มีการแสดงถึงความเมตตาเลยสักนิด

“หึ!” ฉีเติ่งเสียนพ่นลมออกจากจมูก และฝีเท้าของเขาก็ขยับเบาๆ เพื่อเคลื่อนตัวหลบลูกดอกนั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง