ตอนที่เหม่อลอย ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่าที่ไหล่ของเขาเหมือนมีคนมาตบหนึ่งครั้ง
เขารู้สึกตื่นเต้นมาก เขากำลังจะขว้างคนที่ตบไหล่เขาโดยไม่รู้ตัว
แต่ว่า โชคดีที่จมูกของเขาได้กลิ่นของ Chanel No. 5 ที่หลอกหลอนเขานับครั้งไม่ถ้วน รีบเงียบลงแล้วยื่นมือไปจับมือที่เล็กๆแล้วจับไว้ในมือ
“พูดไปกี่ครั้งแล้ว อย่ามาตบไหล่ฉันอย่างเงียบๆมันอันตราย”ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างไร้อารมณ์
รู้จักกันในนาน“นักสงคราม”ซุนลูถังเตือนญาติพี่น้องเขา อย่าเข้าใกล้เขาอย่างเงียบๆในระยะสามฟุต ไม่อย่างนั้นจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นได้ เขาฝึกกังฟูเข้ากระดูกและพัฒนาปฏิกิริยาตามธรรมชาติ บางครั้งเขาควบคุมตัวเองไม่ได้เพราะกลัวว่าจะทำร้ายใครโดยไม่ตั้งใจ
หลี่เสี่ยวหลงก็ไม่ชอบถูกคนตบไหล่เพราะเหตุผลเดียวกัน เมื่อร่างกายได้รับการตื่นตัวง่ายต่อการทำร้ายคน
หลี่อวิ๋นหว่านหัวเราะแล้วถามขึ้น: “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ฉันเห็นคุณเหม่อลอยอยู่ตรงนี้นานแล้ว เขียนจดหมายรักแล้วโดยปฏิเสธหรอ?”
ขณะที่พูด เขาไม่ได้หันหัวมามองสิ่งของในมือของฉีเติ่งเสียน
หลี่อวิ๋นหว่านเป็นคนจริงจังและมีความฉลาดทางอารมณ์สูง ไม่ใช่แบบฉีเติ่งเสียนที่มีความฉลาดแบบปลอมๆ รู้ดีว่าเรื่องบางเรื่องต้องการรักษาระยะห่างหน่อย อย่าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่ายมากเกินไป
“คุณดูเองเถอะ!”ฉีเติ่งเสียนยื่นจดหมายในมือให้กับหลี่อวิ๋นหว่านแล้วพูดอย่างนิ่งๆ
หลี่อวิ่นหว่านดูจบอย่างรวดเร็วสีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจแล้วถามขึ้น: “นี่มันมีอะไรน่าลังเล?รีบตอบตกลง!นี่มันเป็นถึงนายพลจัตวาเลยนะ คุณก็รู้ว่าคนของเมืองหัวกั๋วมากมายติดอยู่ระหว่างพันเอกอาวุโสและนายพลจัตวา?”
“คุณไม่มีประสบการณ์ในการเข้าร่วมกองทหาร อีกฝ่ายสัญญากับคุณโดยตรงถึงยศนายพลจัตวา นี่คือของดีที่ตกมาจากฟ้าเลยนะ”
“ฉันไม่รู้จริงๆว่าทำไมคุณถึงลังเลที่นี่……ตั้งใจจะอวดหรอ?”
ฉีเติ่งเสียนหัวเราะแล้วพูดขึ้น: “เรื่องนี้มันง่ายขนาดนั้นสักที่ไหนละ?ฟู่เฟิงหยุนคือใคร?”
หลี่อวิ๋นหว่านพูขึ้น: “หัวหน้าผู้อาวุโสกรมยุทธการ!”
ฉีเติ่งเสียนพูด: “ใช่แล้ว เป็นหัวหน้าผู้อาวุโสกรมยุทธการ จู่ๆก็ให้อำนาจและตำแหน่งใหญ่ขนาดนี้ คุณว่าปกติไหม?”
หลี่อวิ๋นหว่านนึกถึงครั้งก่อนที่ฉีเติ่งเสียนนั้นจัดการอวี้เสี่ยวหลงและเอาชนะอย่างง่ายดายแล้วพูดขึ้น: “หรือว่าฟู่เฟิงหยุนเล็งคุณไว้”
“คำพูดดูดีมาก ยิ่งฟังแล้วยิ่งดี”ฉีเติ่งเสียนมองบน ถ้าหากฟู่เฟิงหยุนไม่เห็นถึงความสำคัญของเขา เกรงว่าจะไม่เขียนจดหมายมาแน่ๆ
หลี่อวิ๋นหว่านก็รู้ว่ากำลังลังเลอะไรอยู่ ฟู่เฟิงหยุนก็เลยส่งขนมหวานมาให้ แต่เมื่อฉีเติ่งเสียนกินลงไปอย่างนั้นก็ต้องติดหนี้บุญคุณขนาดใหญ่ไว้
หนี้บุญคุณหัวหน้าผู้อาวุโสกรมยุทธการ มันไม่ง่ายเลยนะที่จะติดค้างหนี้บุญคุณ?
ถ้าฟู่เฟิงหยุนไม่มีความสามารถและวิสัยทัศน์ใดๆ ทำไมถึงสามารถได้ตำแหน่งสูงขนาดนี้?
ฉีเติ่งเสียนไม่มีประสบการณ์ในค่ายทหาร แต่มีประสบการณ์เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกทั้งยังฆ่ายอดฝีมืออย่างวลาดิลอฟ ฟู่เฟิงหยุนก็เลยถือโอกาสนี้เอาเขาเข้าร่วมและไม่มีใครสามารถจับผิดเขาได้
รอให้ฉีเติ่งเสียนเข้าร่วมด้วยแล้ว จะขึ้นอยู่กับข้อจำกัดบางประการไม่มากก็น้อย
อีกทั้ง หนี้บุญคุฯใหย๋ขนาดนี้ ถึงเวลาถ้าฟู่เฟิงหยุนให้ตัวเองจัดการเรื่องอะไรต้องไม่ง่ายขนาดนั้นแน่เลย
“ฉันไม่สามารถให้คำแนะนำที่ดีแก่คุณได้เช่นกัน แล้วแต่คุณเลย......คนสถานะอย่างฟู่เฟิงหยุน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้ากันได้ ถ้าถึงเวลาเขาให้คุณทำภารกิจ เกรงว่าไม่ง่ายขนาดนั้น”หลี่อวิ๋นหว่านเม้มริมฝีปาก ไม่อยากรบกวนการตัดสินใจของฉีเติ่งเสียน
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าอย่างจริงจัง นี่เป็นสิ่งล่อใจสำหรับเขา
อีกทั้ง นายพลจัตวาไม่ใช่นายพลจัตวาทั่วไปแน่ๆ
มีหน้าที่โดยตรงต่อกรมการเมืองของหน่วยงานสำคัญในสังกัดกระทรวงการสงครามและมีอำนาจยิ่งใหญ่มาก!
กรมการเมืองมีอำนาจยิ่งใหญ่ในชุมชนทหารเมืองหัวกั๋วทั้งหมด มีหน้าที่รับผิดชอบในการลาดตระเวนและตรวจสอบหน่วยสำคัญ ๆ นอกจากนี้ยังรับผิดชอบในการรักษาความมั่นคงของชาติและมีอำนาจในการจัดการกับกองกำลังบางอย่างที่คุกคามความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ
“เห้ย ฟู่เฟิงหยุนกลืนกินฉันแน่ๆงานนี้ รู้ข้อมูลของฉันในบางส่วน อำนาจบางอย่างกลับคืนเมืองหลวงอย่างเปิดเผย”ฉีเติ่งเสียนหรี่ตาแล้วพูดอย่างเย็นชา
ฉีเติ่งเสียนไม่กลัวผู้มีอำนาจ แต่เขาต้องการอำนาจในเวลานี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...