หวังหู่มาที่ห้องทำงานของสวี่เอ้าเสวี่ย เพื่อจะมาหารือกับเธอเกี่ยวกับการจัดการกับเซี่ยงกรุ๊ป
“น่าเสียดายที่จำกัดเซี่ยงตงฉิงไม่ได้ ทำให้เธอหลบหนีไปได้” หวังหู่พูดด้วยความเสียดาย
สวี่เอ้าเสวี่ยเลิกคิ้วเบาๆ ตอนแรกที่หวังหู่ต้องการทําสิ่งนี้ เขาได้มาพูดกับเธอแล้ว แต่เธอไม่ได้พูดหรือไม่ได้สนับสนุนอะไร
เพราะเหตุการณ์เลือดหนูขาวที่เปื้อนหน้าเธอที่ศูนย์การค้าเมื่อครั้งก่อน ยังทำให้เธอรู้สึกใจสั่นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามหวังหู่นั้นเป็นคนที่ดื้อรั้น และเป็นคนที่ดุร้ายไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น
หวังหู่ยังกล่าวเสริมว่า: “ฉันตั้งใจไปที่เซี่ยงกรุ๊ป เพื่อให้เซี่ยงตงฉิงโกรธและลงมือกับฉัน”
“ที่จริงเธอก็คิดจะลงมือกับฉันแล้ว แต่น่าเสียดายที่ไอ้ฉีอะไรนั้นมันห้ามไว้ก่อน”
“ถ้าไม่มีไอ้ฉีนั้น เราจะจัดการกับเซี่ยงกรุ๊ปได้ง่ายขึ้น”
เมื่อหวังหู่พูดมาถึงตรงนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
สวี่เอ้าเสวี่ยเลิกคิ้วอีกครั้งแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า: “อย่างนั้นก็น่าเสียดายจริงๆ เพราะฉีเติ่งเสียนนั้นเกินความคาดหมายของพวกเราอย่างมาก”
ในภาพจำของเธอ ฉีเติ่งเสียนนั้นเป็นเพียงคนไร้ประโยชน์ที่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลฉีแห่งเมืองหลวง และโดนอวี้เสี่ยวหลงยกเลิกการแต่งงานอีกด้วย
อวี้เสี่ยวหลงเธอเป็นเหมือนนกฟีนิกซ์ที่บินอยู่บนท้องฟ้า แต่ฉีเติ่งเสียนนั้นเป็นเพียงผู้คุมเรือนจําขนาดเล็ก ซึ่งโลกของทั้งสองนั้นแตกต่างกันมาก
เธอจึงไม่ได้สนใจฉีเติ่งเสียนเลยสักนิด และมักจะเอาคำพูดจากปากของอวี้เสี่ยวหลงมาย้ำความมั่นใจที่ฉีเติ่งเสียนนั้นไม่มีอะไรดี
ใครจะไปคิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะกลายเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดสําหรับพวกเขา ในการจัดการกับเซี่ยงกรุ๊ปทั้งหมด!
มันทำให้เธอต้องพบเจอกับสูญเสียครั้งใหญ่!
“เมื่อวานฉันกำจัดเงินทุนของเซี่ยงกรุ๊ปในตลาดหุ้นมากกว่าหมื่นล้าน และการตายของพี่ชายเซี่ยงตงฉิงอีกที่ทำให้เธอรู้สึกกระสับกระส่าย” สวี่เอ้าเสวี่ยจิบกาแฟและพูดอย่างใจเย็น
“ถ้าไม่ใช้โอกาสนี้จัดการเธอให้สำเร็จ เกรงว่าภายหน้ามันคงจะยากกว่านี้” หวังหู่พูดด้วยความเสียดาย
ทุกคนรู้ดีว่า เพียงแค่ทําลายล้างเซี่ยงตงฉิงได้สำเสร็จ เซี่ยงกรุ๊ปก็จะแตกสลายไปเอง
ท้ายที่สุดแล้ว กลุ่มญาติที่เหมือนหมาป่าตาขาวในตระกูลเซี่ยงล้วนแต่เป็นพวกคนโลภและโหดร้าย หากเซี่ยงตงฉิงตาย พวกเขาก็จะแตกแยกกันไปเองโดยไม่ต้องถึงมือคนนอก
สวี่เอ้าเสวี่ยดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ เธอมองไปที่หวังหู่และพูดอย่างจริงจังว่า: “ในเมื่อคุณเดินหมากอย่างนี้ คุณควรระวังฉีเติ่งเสียนจะเล่นงานกลับด้วย”
“เด็กหนุ่มคนนี้ก็เป็นคนที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน เขาโหดร้ายไม่เบา”
“ถ้านายส่งมือปืนไปฆ่าพวกเขา เขาไม่ปล่อยคุณไปแน่”
หวังหู่หัวเราะเยาะและพูดว่า: “มันอยากจะจัดการฉันจะตาย เพียงแต่พวกมันไม่มีหลักฐาน!”
“ฉันมาคิดๆดู วันนี้ตอนที่อยู่ที่เซี่ยงกรุ๊ป มันพยายามจะใช้คำพูดโง่ๆมายั่วให้ฉันโมโห”
“โชคดีที่ฉันห้ามใจตัวเองได้ ไม่อย่างนั้นฉันอาจจะสูญเสียครั้งใหญ่ในมือของมันจริงๆ”
หวังหู่ไม่ใช่คนโง่ ตอนนี้เมื่อเขานึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อย่างระมัดระวัง เขาสามารถคิดว่าฉีเติ่งเสียนกําลังทําให้เขารําคาญและต้องการใช้โอกาสนี้แก้แค้นเขา
สวี่เอ้าเสวี่ยขมวดคิ้วและพูดว่า: “เขาจะไม่ได้ทำอย่างเปิดเผย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเล่นกลโกงไม่ได้ นายลืมเรื่องเลือดหนูขาวที่เปื้อนหน้าไปแล้วเหรอ?”
แก้มของหวังหู่กระตุกอย่างกะทันหัน เมื่อเธอพูดถึงเรื่องนี้เขาก็โกรธมาก คนอย่างเขาจะพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิตได้อย่างไร?
“เธอหมายความว่า มันจะพยายามฆ่าฉันอย่างเงียบๆ เหรอ?” หวังหู่พูดอย่างดูถูก
“อืม”สวี่เอ้าเสวี่ยพยักหน้าอย่างจริงจัง ตอนนี้เธอพอจะเข้าใจนิสัยของฉีเติ่งเสียนได้อย่างชัดเจน
ฉีเติ่งเสียนและเซี่ยงตงฉิงประสบเจอเหตุการณ์ที่ร้ายแรงครั้งใหญ่ เกือบถูกสังหารโดยมือปืนที่หวังหู่จ้างวานไปฆ่า พวกเขาต้องกลับมาแก้แค้นแน่นอน
ในตอนนั้นที่ตระกูลคังยั่วยุฉีเติ่งเสียน พ่อบ้านที่ชื่อคังเซี่ยงหรงตายอย่างไร สวี่เอ้าเสวี่ยเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ
หวังหู่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพูดว่า : “คุณสวี่ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่รู้เหตุผลว่าทําไมเครื่องลายครามถึงห้ามกระทบกระเบื้องได้อย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...