สรุปเนื้อหา บทที่ 37 พูดไม่คิด – มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู
บท บทที่ 37 พูดไม่คิด ของ มังกรผู้ทรงพลัง ในหมวดนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จาง หลงหู อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ทันทีที่หวังเป้าพูดออกมา สายตาของทุกคนก็จ้องไปที่ฉีเติ่งเสียนทันที
หวังหู่ยังขมวดคิ้วและพูดว่า : “หวังเป้า อย่ามาหยาบคายต่อหน้าคุณเซี่ยงแบบนี้!”
หวังเป้าหัวเราะเยาะและจ้องไปที่ฉีเติ่งเสียนอย่างเย็นชา โดยคิดอยากจะเด็ดหัวของเขาออก
หวังหู่ยิ้มและพูดว่า “ตงฉิง เชิญครับ!”
หลังจากพูดแบบนี้ เขาก็เดินนําทางเข้าไปด้านใน
เซี่ยงตงฉิงหันไปชำเลืองมองฉีเติ่งเสียน และถามขึ้นว่า : “นายกับหวังเป้ามีความแค้นอะไรต่อกัน? เขาเป็นลูกพี่น้องกับหวังหู่ ไม่ใช่คนที่นายจะไปยั่วยุได้”
“ก็ไม่ได้มีความแค้นอะไรกัน ผมแค่เอาหัวเขากดลงในโถปัสสาวะที่บาร์เมื่อวานนี้!” ฉีเติ่งเสียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างตรงไปตรงมา
เลขาตัวน้อยข้างๆ เขาแทบจะสำลักออกมา กดหัวของคนอื่นลงในโถปัสสาวะแล้วบอกว่าไม่มีความแค้นอะไรกัน?
สีหน้าของซางจวินดูไม่ดี เขาพูดเสียงเบาว่า: “เดิมทีหู่เหมิอนกรุ๊ปก็มีความแค้นกับพวกเราอยู่แล้ว รองหัวหน้าฉีไปทำให้หวังเป้าโกรธอีก เกรงว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้พวกเขาจัดการเราได้ง่ายๆแน่!”
เสี่ยวเหลยพูดอย่างเฉยเมยว่า: “รองหัวหน้าฉีไม่ควรมา ช่วยอะไรก็ไม่ได้แถมยังมีปัญหากับหู่เหมินกรุ๊ปอีก”
เซี่ยงตงฉิงก็เริ่มขมวดคิ้วขึ้นมา เดิมทีความสัมพันธ์กับหู่เหมินกรุ๊ปก็ไม่ค่อยจะดีนัก เพียงแต่ตอนนี้ได้ทำสัญญาสงบศึกกันชั่วคราว
ตอนนี้ฉีเติ่งเสียนเป็นรองหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของเซี่ยงกรุ๊ป เขาทำให้หวังเป้าโกรธเคือง หวังหู่คงไม่ปล่อยโอกาสนี้ที่จะไม่สร้างปัญหากับพวกเขาแน่นอน
หวังหู่และหวังเป้าที่อยู่ด้านหน้า ก็อดที่จะถามไม่ได้
“ไอ้เวรนี่ มันกดหัวฉันลงโถปัสสาวะที่บาร์ของพี่จิ้งเมื่อวานนี้!” หวังเป้าพูดด้วยความโกรธ
“โอ้ว? ทุบตีแกในบาร์พี่จิ้งขนาดนั้น แล้วมันยอมถอยไหม?” หวังหู่พูดด้วยความสงสัย
หวังเป้าส่ายหัว ก่อนจะพูดว่า: “ไอ้เด็กเวรนี้มันบ้ามาก ตอนแรกพี่จิ้งก็กำลังจะจัดการกับมัน แต่ไม่รู้ว่าใครโทรหาพี่จิ้งบอกให้ฉันไม่เอาเรื่องมัน!”
“พี่จิ้งเป็นคนขอไว้ ฉันเลยต้องเห็นแก่หน้าพี่จิ้ง ก็เลยต้องยอมถอยกลับไป……”
“คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอมันอีก!”
“พี่ชาย พี่อย่าห้ามไม่ให้ฉันแก้แค้นนะ ฉันต้องหาโอกาสที่จะแก้แค้นมันให้ได้!”
หวังหู่พยักหน้าอย่างครุ่นคิด คนที่ทำให้พี่จิ้งถึงกับออกปากพูดขอได้แบบนั้น ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
ขนาดเขาเองยังต้องทำความเคารพเมื่อเห็นพี่จิ้งเลย เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังพี่จิ้งนั้นคือเยี่ยเฟิง เป็นแขกรับเชิญพิเศษของหลงเหมิน!
“อันที่จริงพี่จิ้งก็ไม่พอใจมันเท่าไร แต่เพราะเมื่อวานพี่จิ้งคงเห็นแก่ความใจดีของเพื่อนพี่เขาที่ขอไว้ ถ้าวันนี้เราจัดการไอ้สารเลวนี่ได้ พี่จิ้งต้องขอบคุณพวกเราแน่นอน!” หวังเป้าพูดด้วยเสียงต่ำ
หวังหู่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้สนใจสิ่งเล็กน้อยนี้มากนัก
ยิ่งกว่านั้น ในเมื่อฉีเติ่งเสียนเป็นคนของเซี่ยงกรุ๊ป ถ้าอย่างนั้นก็ใช้โอกาสนี้จัดการเขาได้เลย!
กลุ่มคนเดินเข้าไปในภายในโรงแรมและมาที่ห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างหรูหรา หวังหู่โบกมือให้บริกรนําไวน์แดงและชามารินให้แขก
“ตงฉิง คุณน่าจะเข้าใจจุดประสงค์ที่มาคุยกันในวันนี้อย่างชัดเจนนะ ผมมาเพื่อดินแดนแห่งศตวรรษใหม่” หวังหู่พูดอย่างเฉยเมย
เซี่ยงตงฉิงไม่ได้พูดอะไร เธอวางนิ้วบนถ้วยชาและมองไปที่หวังหู่ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
หวังหู่หัวเราะและพูดว่า: “คุณได้ครอบครองดินแล้ว แต่ผมได้ยินมาว่าที่นั่นเกิดปัญหามากมาย! คุณครอบครองที่ดินได้แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาความโกลาหลเพื่อการพัฒนาได้ นี่ถือเป็นความล้มเหลวในการทำงานของเซี่ยงกรุ๊ปของคุณ จะดีกว่าไหมถ้ามอบให้ผมจัดการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา”
ฉีเติ่งเสียนไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว การที่เขาถึงกับเข้ามาในเซี่ยงกรุ๊ปนั้นก็เพียงเพื่อตบหน้าของอวี้เสี่ยวหลงที่หยิ่งยโส
เซี่ยงตงฉินมองไปที่ฉีเติ่งเสียนด้วยความโกรธ เพราะคําพูดของฉีเติ่งเสียน ทำให้เซี่ยงกรุ๊ปต้องต่อสู้ทั้งที่ไม่ได้เตรียมตัวมา!
ใบหน้าของซางจวินก็แข็งทื่อ ขนาดตัวเขาที่เป็นหัวหน้าและเจ้านายยังไม่มีใครเอ่ยปากพูดเลย แต่คนที่เพิ่งเข้ามาทำงาน ในบริษัทกลับแย่งพูดออกหน้าไปแล้ว ไม่รู้จักมารยาทเลย?
“สมแล้วที่มาจากสถานที่เล็กๆ แม้แต่มารยาทยังไม่เข้าใจเลยสักนิด ไม่รู้ว่าใครเป็นคนฝากให้คุณเซี่ยงรับเข้าทำงาน!” ซางจวินหัวเราะเยาะซ้ําแล้วซ้ําเล่าในใจของเขา
เสี่ยวเหลยซึ่งอยู่ข้างๆ กอดอกด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขารู้สึกเหมือนโดนฉีเติ่งเสียนแย่งพูดไปหมด แม้ว่าเขาจะเป็นคนในบริษัทเหมือนกัน
หวังหู่กล่าวว่า : “ในเมื่อรองหัวหน้าฉีพูดมาอย่างงี้ ก็ต้องขอดูกันหน่อยว่าจะแน่สักแค่ไหน ตงฉิง คุณว่าอย่างไง?”
เซี่ยงตงฉินเหลือบมองฉีเติ่งเสียนและพูดว่า : “โอเค!”
ฉีเติ่งเสียนเผยรอยยิ้มสบายๆ และพูดว่า : “เรื่องชกต่อยแบบนี้ ฉันชอบ!”
“เมื่อวานผู้ชายที่ชื่อหวังเป้าหงุดหงิดมากและไม่สนุกเลย ฉันหวังว่าที่ได้มาพบกับพวกนายวันนี้จะทำให้ฉันสนุกขึ้น”
ในที่สุดเซี่ยงตงฉินก็อดไม่ได้ที่พูดด้วยเสียงต่ำว่า : “หุบปาก!”
หวังเป้ายังแสยะยิ้มและพูดว่า : “ไอ้สารเลว แกมาปากดีฉันก่อนนะ แล้วอย่าร้องไห้ทีหลังแล้วกัน!”
เลขาตัวน้อยเอามือแตะหน้าผากของตัวเอง เป็นห่วงฉีเติ่งเสียนแต่ในขณะเดียวกันเธอก็เป็นห่วงบริษัทด้วย...…
คุณเซี่ยงพูดอย่างไม่คิดแบบนั้น ไม่รู้ว่าจะนําพาซึ่งภัยพิบัติมากมายให้กับบริษัทในอนาคตอย่างไร!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...