มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 38

เซี่ยงตงฉิงตะโกนด้วยความโมโห ฉีเติ่งเสียนไม่ได้พูดอะไรออกไปพร้อมทั้งยักไหล่อย่างไม่แยแส

ซางจวินจ้องมองเขาอย่างเย็นชา ผู้ชายคนนี้คิดว่าแรงกดดันของหู่เหมินกรุ๊ปกับเซี่ยงกรุ๊ปยังไม่มากพอหรือ? พูดกำลังเรื่องไร้สาระอะไรกัน!

“ไปเชิญคุณเฉินเข้ามา!” หวังหู่กล่าวอย่างสงบ

สักพักก็มีชายคนหนึ่งเดินออกมา ดูมีอายุเกือบราวๆสามสิบ รูปร่างสูงประมาณ หนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ขมับปูดนูน ดวงตาคู่นั้นแหลมคมดุจนกอินทรี มือหนาเรียบๆ หากเวลากำหมัดกลับดูทรงพลัง

บุคคลเช่นนี้สามารถรู้ได้ทันทีว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแน่นอน!

หวังเป้ายิ้มเยาะใส่ฉีเติ่งเสียนก่อนจะพูดว่า: “หนุ่มแซ่ฉี นี่คือศิษย์ของหลงเหมิน ของเรา เฉินหยงเหนียน หากนายกล้าก็เข้ามาสิ!”

เซี่ยงตงฉิงอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ เมื่อเห็นเฉินหยงเหนียน ชายคนนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างรุนแรง!

เสี่ยวเหลยลดมือลง สีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจังมากขึ้น

ซางจวินก็เช่นกัน เห็นได้ชัดว่ารูปลักษณ์ของเฉินหยงเหยียนสร้างแรงกดดันให้กับเขามาก!

ซางจวินเป็นทหารที่เกษียณออกจากกองทัพมังกรดำ ในบรรดากองกำลังพิเศษ เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่เก่งกาจในด้านการต่อสู้ เขาไม่ใช่คนอ่อนแอ ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของเซี่ยงกรุ๊ป

เขามีความรู้สึกถึงอันตราย การปรากฏตัวของเฉิยหยงเหนียนทำให้เขารู้สึกถึงรังสีความไม่ปลอดภัย

ฉีเติ่งเสียนมองดูอย่างสบาย ๆ จากนั้นก็หมดความสนใจไป

“พวกคุณคิดว่าอะไรที่เรียกว่าผู้เชี่ยวชาญกัน? แค่นี้น่ะเหรอ?” เขาเม้มริมฝีปากเล็กน้อย เหมือนกระซิบกับตัวเอง

ในเรือนจำโยวตู พ่อของเขาจับผู้กระทำความผิดที่เลวร้ายที่สุดในโลกได้และใช้พวกมันเหล่านั้นมาสอนกลอุบายต่างๆให้กับเขา และทักษะฝีมือของเขาได้รับการฝึกฝนจนสมบูรณ์แบบมานาน

หลังจากที่ทุกคนเห็นการแสดงออกของฉีเติ่งเสียนพวกเขาก็ยิ้มอย่างเหยียดหยาม

“เห็นได้ชัดว่าเขากลัว ออร่าของเฉินหยงเหยียนนั้นน่ากลัวมากจนเขาสามารถพูดคำบ้าๆ แบบนั้นออกมาได้” เซี่ยงตงฉิงมีความสามารถในการสังเกตที่เฉียบคมและลอบถอนหายใจ

“เฉินหยงเหนียนคนนี้ เสี่ยวเหลยคงไม่เหมาะปะทะมือกับเขา... ไม่ต้องพูดถึงผู้แพ้ที่ชื่อฉีเติ่งเสียน เป็นเรื่องปกติที่ต้องกลัวอยู่แล้ว” ซางจวินคิด

หวังเป้ายิ้ม เยาะเย้ยและพูดว่า: “บ้าไปแล้ว นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ทำไมคุณเฉินออกมา ถึงกับไม่กล้าพ่นลมออกมาเลยหรือไง?”

หวังหู่ยิ้มพูดว่า: “ตงฉิง ดูเหมือนว่าพนักงานของเซี่ยงกรุ๊ปแต่ละคนพูดเก่งกันทั้งนั้นเลย แต่ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้กลายเป็นกุ้งขาอ่อนปวกเปียกกันหมด”

เฉินหยงเหยียนที่เพิ่งปรากฏตัวก็เหลือบมองฉีเติ่งเสียน ก่อนยิ้มให้หวังหู่แล้วพูดว่า “คุณหวัง ไม่ต้องพูดขนาดนั้น”

“ถึงยังไง ผมก็เป็นลูกศิษย์ที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดีโดยท่านอาจารย์ ผมได้เรียนรู้ทักษะทั้งหมดแล้ว ทักษะประเภทนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามารถทำได้”

“ถูกข่มขู่ด้วยแรงกดดันที่สร้างขึ้น นี่เป็นเรื่องของวิธีการ จึงไม่จำเป็นต้องโอ้อวดนักเกี่ยวกับเรื่องนี้”

หวังหู่หัวเราะและพูดว่า: “คุณเฉินมีคุณสมบัติของผู้เชี่ยวชาญจริงๆ!”

ฉีเติ่งเสียน เยาะเย้ย ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ผมคิดว่าพวกคุณจะหาคนที่เก่งกาจกว่านี้ คนที่จะทำให้ผมมีความสุขได้มากกว่านี้ แต่ผลลัพธ์ก็คือได้มาแค่ระดับนี้ ซึ่งน่าผิดหวังมาก”

ทันทีที่เขาพูดสิ่งนี้ ทุกคนก็เงียบไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นหู่เหมินกรุ๊ปก็หัวเราะออกมา

“นายนี่มันเป็นเป็ดปากแข็ง ระวังปากไว้ด้วย!” หวังเป้าพูดแล้วเอนไปด้านหลัง “เซี่ยงตงฉิงบ้าไปแล้วที่เอานายมา!”

“ฉันคิดว่าเซี่ยงกรุ๊ปควรสละที่ดินโดยเร็ว ด้วยพนักงานแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงการสร้างรายได้จากการพัฒนาเลยมันเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากกว่า หากสามารถรักษาธุรกิจไว้ได้โดยไม่สูญเสียเงินแม้สตางค์เดียว!”

ใบหน้าของเซี่ยงตงฉิงอดไม่ได้ที่จะจมลง ก่อนจะพูดอย่างเย็นชา: “ฉีเติ่งเสียน ถ้าคุณกล้าพูดไร้สาระแบบนั้นอีกครั้ง ก็ออกไปจากบริษัทของฉัน!”

ฉีเติ่งเสียนยักไหล่ หยุดพูดต่อ

“แม้แต่เจ้านายของนายยังทนไอ้ขยะนี้ไม่ได้!”

“บอกตามตรง วันนี้เซี่ยงกรุ๊ปยังดี ถ้าหากชนะไม่ได้ นายก็ไม่ต้องไปไหน”

“ถ้านายไม่โดนกระแทกปาก ก็ออกจากร้านนี้ไปไม่ได้!”

ความคิดของหวังเป้านั้นจองหองมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เฉินหยงเหยียน ปรากฏตัวขึ้น ดูเหมือนว่าเขาจะทำตัวสบายๆ กว่าเดิม

หวังหู่ยื่นผายมือออกไปทางเซี่ยงตงฉิงก่อนจะพูดว่า “ตงฉิง เชิญ ให้ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของบริษัทของคุณมาประลองกับคุณเฉิน!”

หวังเป้าพูด: “นายแซ่ฉี นายพึ่งทำตัวบ้าๆไม่ใช่หรือ? มาเลย มาลอง!”

ฉีเติ่งเสียนเยาะเย้ยและเห็นว่าดวงตาของเซี่ยงตงฉิงไร้ความปราณีมาก ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจที่จะพูดอะไร

ซางจวินกระซิบ: “เสี่ยวเหลย ขึ้นไปประลองกับเฉินหยงเหนียน!”

เซียวเหลยพยักหน้า เดินตรงไปข้างหน้าเฉินหยงเหนียน จับมือของเขาไว้ก่อนพูดว่า: “คุณเฉิน โปรดให้คำแนะนำแก่ผมด้วย ผม....”

“ฉันไม่อยากรู้ชื่อของหนึ่งในคนที่พ่ายแพ้ฉัน หยุดเถอะ!” เฉินหยงเหนียนขัดจังหวะเสี่ยวเหลยอย่างหยิ่งยโสก่อนที่จะบอกชื่อสกุลของเขาออกมา

“คุณ----” เมื่อได้ยินแบบนี้เสี่ยวเหลยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธ

เขาได้รับการพิจารณาว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในเซี่ยงกรุ๊ป แต่ในขณะนี้ เขารู้สึกอับอายจากเฉินหยงเหยียน ต่อหน้าเจ้านายของเขา และเขาก็โมโหมาก

เสี่ยวเหลยไม่พูดอะไรมาก และพุ่งหมัดไปข้างหน้า ท่าของเขาคือหักคอเอราวัณที่โด่งดังที่สุดของมวยไทย!

มวยไทยใช้ข้อต่อเป็นหลักในการต่อสู้ เสี่ยวเหลย ยกมือขึ้นเหมือนโล่ขนาดใหญ่เพื่อปกป้องร่างกายส่วนบนของเขาและยกเข่าขึ้นกระแทกหน้าอกของ เฉินหยงเหนียนเหมือนรถไฟชนประสานงากัน

“ทักษะชี่กงไม่ดีเท่าคนอื่น ยังปล่อยให้คำพูดของคนอื่นมารบกวนจิตใจแบบนั้นก็ไม่ต้องสู้เลยดีกว่า!” ฉีเติ่งเสียนพูดประโยคดังกล่าวโดยไม่ได้สนใจที่จะมองมันด้วยซ้ำ

ซางจวินเลิกคิ้วอย่างดุเดือดและพูดด้วยความโกรธ: “หุบปากได้ไหม!”

เซี่ยงตงฉิงยังพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม: “รองหัวหน้าใหญ่ หุบปากซะ! ตอนนี้ฉันสงสัยว่านายมาจากหู่เหมินกรุ๊ปหรือเซี่ยงกรุ๊ปกันแน่!”

เลขานุการตัวน้อยยังกล่าวอีกว่า: “รองหัวหน้าใหญ่ เงียบปากเถอะ เสี่ยวเหลยเก่งกาจมาก อาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงในบริษัทของเราเลยก็ว่าได้”

เห็นว่าเฉินหยงเหยียนกางเท้าของเขาออก และเมื่อเข่าของเสี่ยวเหลยเข้ามาใกล้ ขาซ้ายของเขาก็กระแทกออกไปอย่างง่ายดาย

“พลั๊ก!”

ร่างของเฉินหยงเหยียนหันหน้าหนีจากเสี่ยวเหลย เหมือนเป็นการเปิดเข้ามาทางด้านขวาของร่างกายเสี่ยวเหลย

เสี่ยวเหลยรีบเหยียดแขนข้างหนึ่งออกอย่างแรง และกระแทกเข้าที่ขมับจุดไท่หยางของเฉินหยงเหนียน

แต่ในขณะนี้เฉินหยงเหยียนก้าวไปข้างหน้าและยืนหยัดอย่างมั่นคงในจุดนั้น เขาหมอบลงเพื่อหลีกเลี่ยงแขนที่วาดงวงมาของเสี่ยวเหลย นิ้วทั้งห้างอเข้าเหมือนมีดแล้วแทงเสี่ยวเหลยอย่างแรงไปที่ซี่โครง!

“กึก!”

มีเสียงที่คมชัด และเสี่ยวเหลยก็กรีดร้อง ร่างของเขากลิ้งไปล้มลงกับพื้น และอาเจียนออกมาเป็นเลือด

“ดี!”

ผู้คนจากกลุ่มหู่เหมินต่างปรบมือและโห่ร้องดังลั่นในเวลานี้

เฉินหยงเหนียนโบกมือเบา ๆ แล้วพูดว่า: “ยังไม่พอ!”

เปลือกตาของซางจวินกระตุกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เฉินหยงเหนียนคนนี้เป็นปรมาจารย์ด้านชี่กง เขาเชี่ยวชาญเรื่องฝ่ามือแปดทิศโดยเฉพาะมวยแปดขั้นเขามีความเชี่ยวชาญอย่างมาก เขาหลีกเลี่ยงการโจมตีของเสี่ยวเหลยได้อย่างง่ายดายและโจมตีจุดอ่อนและการป้องกันที่อ่อนแอที่สุดทันที!

ด้วยทักษะดังกล่าว เขาไม่แน่ใจในชัยชนะ และจู่ๆ ก็มีชั้นเหงื่อซึมบนฝ่ามือของเขา

“นี่เป็นผลมาจากการไม่ละความพยายาม” ฉีเติ่งเสียนเห็นสิ่งนี้และส่ายหัวเล็กน้อย

เสี่ยวเหลยโกรธคำพูดของเฉินหยงเหนียน ทำให้ประมาท เขาโกรธมากจนโจมตีแรงเกินไปและเฉินหยงเหนียนก็สามารถรู้จุดข้อบกพร่องได้

เหล่าผู้เชี่ยวชาญจำเป็นต้องทดสอบกันเอง ถ้าความแข็งแกร่งต่างกันมาก พวกเขาจะโจมตีด้วยความแข็งแกร่งที่มีอยู่ทั้งหมดได้อย่างไง?

ใบหน้าของเซี่ยงตงฉิงอดไม่ได้ที่จะมืดลง มองไปที่ซางจวินแล้วถามว่า “หัวหน้าหน่วยซางแน่ใจไหม?”

“ผมจะลอง!” ซางจวินพยักหน้า แน่นอนว่า ตอนนี้ถอยกลับไม่ได้

ฉีเติ่งเสียนส่ายหัวแล้วพูดว่า “หัวหน้าซางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา คุณเซี่ยงเปลี่ยนคนดีกว่า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง