ตอนที่หยางกวนกวนมาถึง หวงชงก็มาถึงที่นี่ก่อนแล้ว
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลา เพิ่งจะตีสี่สี่สิบเท่านั้น!
ช่วงเช้ามืดมีรถน้อย ดังนั้นการเดินทางจึงรวดเร็วและใช้เวลาน้อยกว่าช่วงเวลาปกติมาก
“ไฮ รุ่นน้อง มาแล้วเหรอ อรุณสวัสดิ์นะ!” หวงชงโบกมือพร้อมยิ้มให้และกล่าวทักทาย
“รุ่นน้อง? ฉันไปเป็นรุ่นน้องได้ยังไง!?” หยางกวนกวนเอ่ยด้วยความโกรธและอดขมวดคิ้วไม่ได้
“เพราะว่าฉันไหว้ครูก่อน! ดังนั้นเธอต้องเป็นรุ่นน้องของฉัน” หวงชงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
ทันใดนั้นหยางกวนกวนก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้น หลังจากนั้นครู่หนึ่งบนใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มชั่วร้าย เธอกล่าวว่า “งั้นต้องขอโทษด้วย ถึงเวลานั้นนายคงต้องเรียกฉันว่าอาจารย์แม่”
“อึก!"
หวงชงสำลักเกือบตายเพราะคำพูดประโยคนี้และพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว
เทียบกันก็มีแต่จะทำให้รู้สึกด้อย ใครใช้ให้ตัวเองไม่ใช่ผู้หญิงล่ะ แถมยังเป็นผู้หญิงที่หน้าอกใหญ่มากอีกด้วย...
ประตูลานบ้านเปิดออกราวกับเตรียมพร้อมไว้สำหรับคนทั้งสอง
ทั้งสองคนเข้าไปในลานบ้าน รอฉีเติ่งเสียนออกมา
แต่จนถึงตีห้าก็ยังไม่มีใครออกมา
หยางกวนกวนเอ่ยอย่างมีน้ำโหว่า “ไหนละคนนัด ไม่ใช่บอกให้พวกเรามาถึงตอนตีห้าหรอกเหรอ หนาวจะตายอยู่แล้วยังไม่ออกมาอีก!"
หวงชงเองก็ยิ้มเจื่อนๆ อย่างช่วยไม่ได้ ไม่กล้าพูดอะไรจู้จี้จุกจิก หยางกวนกวนกล้าบ่น แต่เขาไม่กล้าบ่นเพราะกลัวว่าฉีเติ่งเสียนจะถีบเขาเข้าให้
พอถึงตีห้าสิบนาที ฉีเติ่งเสียนจึงเดินหาวออกมาจากข้างในโดยที่สวมชุดออกกำลังกายอยู่
“ประธานฉี นี่มันหมายความว่ายังไง เมื่อวานคุณบอกเองว่าคุณเกลียดคนไม่ตรงต่อเวลาที่สุด ให้เรามาถึงตอนตีห้า ห้ามสายแม้แต่นาทีเดียว!”
“แล้วดูสิ ตอนนี้ตีห้าสิบนาทีแล้ว คุณสายไปสิบนาที!"
“ไหนว่ามา ว่ามันยังไงกันแน่!”
หยางกวนกวนถามอย่างขุ่นเคืองทันทีที่เห็นฉีเติ่งเสียน
เมื่อวานก็เป็นเพราะนายฉีเติ่งเสียนคนนี้เหมือนกัน ที่ทำให้เธอจิตใจไม่สงบและรำคาญมาก
ฉีเติ่งเสียนอดชะงักไม่ได้ จากนั้นจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่ ฉันไม่ชอบคนไม่ตรงต่อเวลา แต่ฉันเองน่ะชอบสายบ้างเป็นบางครั้ง!"
“Fuck!” หยางกวนกวนตะลึงกับคำพูดของเขา หลังจากนั้นจึงสบถออกมา
มุมปากของหวงชงสั่นไหวและนึกด่าอยู่ในใจ พวกเขามาถึงที่นี่ก่อนเวลายี่สิบนาที รอเกินเวลาอีกสิบนาที ทนแช่แข็งอยู่เป็นครึ่งชั่วโมง
“มาเถอะ วิ่งขึ้นภูเขาตามฉันมา!” ฉีเติ่งเสียนเอ่ยพลางยิ้มน้อยๆ
ฉีเติ่งเสียนเป็นผู้นำวิ่งไปข้างหน้าโดยมีอีกสองคนตามหลัง
หยางกวนกวนเองก็เป็นนักกีฬาฝีมือดี ไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสสามวันต่อสัปดาห์ ดังนั้นจึงมีสภาพร่างกายสมบูรณ์ วิ่งขึ้นเขาได้อย่างง่ายดาย
และยิ่งไม่ต้องพูดถึงหวงชงที่ออกมาจากหน่วยรบพิเศษ สมรรถภาพทางร่างกายของเขาย่อมดีกว่าคนทั่วไปไม่รู้ตั้งเท่าไรต่อเท่าไรอยู่แล้ว
หลังจากวิ่งมาถึงยอดเขา ฉีเติ่งเสียนก็หาสนามออกกำลังกายเหมาะๆ และเอ่ยกับทั้งสองคนว่า “วันนี้เป็นคลาสแรกของเรา ในคลาสแรกนี้เราจะมาฝึกสิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุด นั่นก็คือท่าขี่ม้า”
หวงชงย่อตัวลงทำท่าขี่ม้าทันทีและถามว่า “แบบนี้เหรอ เมื่อก่อนตอนอยู่ในกองทัพ เราต้องนั่งย่อตัวแบบนี้ทุกวัน แข่งว่าใครจะอยู่ได้นานกว่ากัน”
ฉีเติ่งเสียนหัวเราะเยาะ เตะไปที่ต้นขาของหวงชงหนึ่งทีจนหวงชงร้องโอยและล้มลงไปบนพื้น
“รู้วิธีขี่ม้าหรือเปล่า” ฉีเติ่งเสียนถาม
“ไม่ใช่แบบนี้เหรอครับ” หวงชงถามอย่างประหลาดใจ
“หยางกวนกวน เธอบอกหน่อยสิ ว่าความรู้สึกตอนขี่ม้ามันเป็นยังไง” ฉีเติ่งเสียนถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...