“ใครบุกมาหาฉันกัน ไม่ใช่อวี้เสี่ยวหลงใช่ไหม”
ฉีเติ่งเสียนมองเจียงเทียนเหอด้วยสีหน้าประหลาดใจ
เจียงเทียนเหอส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ใช่นายพลอวี้ เธอไม่มีเวลามาเดินเตร่ที่กองพลที่แปดสิบเอ็ดของเราหรอก”
ฉีเติ่งเสียนจึงพูดว่า “งั้นนายก็บอกมาสิว่าใคร”
“หลินชงหลง” เจียงเทียนเหอกระแอมเบาๆ ก่อนจะตอบ
ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้ว แน่นอนว่าเขาคุ้นเคยกับชื่อนี้ดี
หลินชงหลงเป็นญาติฝั่งแม่ของตระกูลฉีและมีความสัมพันธ์กับเขาไม่ค่อยดีเท่าไรนัก ในตอนที่เขากับพ่อถูกขับไล่ออกจากเมืองหลวง ตระกูลหลินยังร้องไชโยอยู่เลย
ตระกูลฉีเป็นตระกูลที่ใหญ่เกินไปจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนคิดต่าง ดังนั้นฉีเติ่งเสียนและฉีปู้อวี่จึงต้องใช้กลยุทธ์ทุกข์กายเพื่อหลอกให้ตระกูลฉีตายใจ
หลินชงหลงก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกหลอกด้วยกลยุทธ์ทุกข์กาย แล้วเขาก็ไม่ได้มีความคิดแบบเดียวกับฉีเติ่งเสียนและฉีปู้อวี่อย่างจริงจัง
แต่หลินชงหลงคนนี้ก็มีความสามารถมาก ตั้งแต่เข้าร่วมกองทัพเขาก็แสดงพรสวรรค์ที่เหนือคนอื่นและอาศัยภูมิหลังของตระกูลฉี พูดได้ว่าเขาเติบโตในอาชีพอย่างก้าวกระโดด
ปัจจุบันนี้หลินชงหลงก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งพันเอกแล้ว
ฉีเติ่งเสียนและเจียงเทียนเหอมาถึงสนามฝึกของค่ายดาบคมอย่างรวดเร็ว แล้วพวกเขาก็เห็นหลินชงหลงยืนตัวตรงอยู่ในสนาม
หลังจากเห็นฉีเติ่งเสียน สีหน้าของหลินชงหลงก็เย็นชาทันที
แน่นอนว่าฉีเติ่งเสียนไม่มีทางมองชายคนนี้ด้วยสีหน้าดีๆ ได้ ตอนนั้นชายคนนี้พูดว่าร้ายฉีปู้อวี่อยู่หลายครั้งและเขาก็ได้คุณงามความดีในตอนที่สองพ่อลูกถูกไล่ออกจากเมืองหลวง
เหล่าทหารในสนามต่างมองหลินชงหลงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เพราะทันทีที่หลินชงหลงมาถึงสนามฝึก เขาก็สั่งสอนพวกเขาไปหนึ่งชุด
“นี่น่ะเหรอค่ายดาบคมที่เขาเรียกกันว่าหน่วยไพ่ลับของกองพลที่แปดสิบเอ็ด มีฝีมือแค่นี้เองเหรอ” หลังจากฉีเติ่งเสียนเดินเข้ามา หลินชงหลงก็จงใจพูดเหน็บแนมด้วยระดับเสียงที่เพิ่มขึ้น
เหล่าทหารของค่ายดาบคมต่างหน้าแดงด้วยความโกรธ แต่พวกเขาก็ทั้งละอายทั้งขุ่นเคืองเกินกว่าจะระเบิดโทสะ
ก่อนที่ฉีเติ่งเสียนจะมาถึง หลินชงหลงได้ประลองกับพวกเขาไปหนึ่งยก ผลคือพวกเขาทั้งหมดพ่ายแพ้ยับเยิน สู้อีกฝ่ายไม่ได้เลย
ในกองทัพ ความแข็งแกร่งคือทุกอย่าง ในเมื่อหลินชงหลงปราบพวกเขาได้ พวกเขาจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะโกรธ
หลินชงหลงยิ้มเยาะและพูดว่า “ดูเหมือนว่าครูผู้ฝึกของพวกนายจะเป็นขยะไร้ค่านะ จริงๆ แล้วร่างกายของพวกนายไม่เลวเลย แต่ผลลัพธ์กลับได้แค่นี้ น่าผิดหวังจริงๆ!”
“ทำความเคารพ!”
เมื่อหัวหน้าค่ายเห็นเจียงเทียนเหอและฉีเติ่งเสียนมาถึง เขาก็รีบตะโกนทันที
ทหารค่ายดาบคมทุกคนทำความเคารพพวกเขาทั้งสอง
ฉีเติ่งเสียนโบกมือแล้วพูดว่า “พักเถอะ เกิดอะไรขึ้น”
หัวหน้าค่ายพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ “รายงานครูผู้ฝึก ท่านผู้นี้คือพันเอกหลินที่กรมยุทธการส่งมาเพื่อประเมินผลการฝึกของแต่ละหน่วย”
“เราทำผลงานได้แย่เกินไป พันเอกหลินจึงให้บทเรียนพวกเรา”
“เราทำให้กองพลที่แปดสิบเอ็ดเสียชื่อ!”
สีหน้าของเจียงเทียนเหอก็ดูไม่ดีเท่าไรนัก แม้ว่าหลินชงหลงจะมาที่นี่เพราะฉีเติ่งเสียน แต่เขาใช้ค่ายดาบคมของพวกเขาเป็นเหตุผลและทำให้กองพลที่แปดสิบเอ็ดต้องเสียหน้า สีหน้าของเขาในฐานะผู้บัญชาการก็ต้องไม่ดีอยู่แล้ว
หลินชงหลงมองฉีเติ่งเสียนและพูดว่า “นายคือครูผู้ฝึกของค่ายดาบคมแห่งกองพลที่แปดสิบเอ็ดเหรอ มาสอนคนอื่นด้วยฝีมือแค่นี้ มันไม่เป็นการชักนำคนไปในทางที่ผิดเหรอ”
ลูกน้องที่หลินชิงหลงพามาต่างก็หัวเราะเช่นกัน
แม้จะไม่รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ได้เป็นพลจัตวาได้อย่างไร แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เพราะเขามีศักยภาพอะไรแบบนั้นแน่ มองครู่เดียวก็พอจะดูออกว่าเขาเป็นเด็กเส้นที่ไม่ได้เรื่อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...