สวีเอ้าเสวี่ยเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าในที่สุดวันนั้นก็มาถึง ฉีเติ่งเสียนที่เริ่มปล่อยวาง ให้เธอเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะอยู่หรือไป
“เขาว่ากันว่าความมีน้ำใจของคู่สามีภรรยาจะมั่นคงยาวนาน เธอหยุดมองฉันด้วยความเกลียดชังแบบนั้นสักทีได้ไหม?” ฉีเติ่งเสียนมองดูสวีเอ้าเสวี่ยแล้วถามด้วยรอยยิ้ม
“เป็นสามีภรรยาแล้วจะเกิดความรักลึกซึ้งกันงั้นเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะแทงนายตั้งหลายครั้ง เพื่อตอบแทนน้ำใจของนาย!” สวีเอ้าเสวี่ยตอบด้วยรอยยิ้ม
หลังจากปรับสภาพจิตใจและอารมณ์ ในที่สุดเธอก็พบความรู้สึกบางอย่างในอดีตและไม่รู้สึกหดหู่อีกต่อไป
ฉีเติ่งเสียนยักไหล่และพูดว่า “เรากำลังจะบอกลากัน ฉันไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไรกว่าเราจะได้พบกันอีก ฉันไม่อยากจากกันเลยจริงๆ”
สวีเอ้าเสวี่ยฟังด้วยใบหน้าเฉยเมยก่อนจะพูดว่า: “นายควรรักษาความหน้าซื่อใจคดเอาไว้ดีกว่า ฉันหวังว่านายจะคิดแบบนี้อยู่ ในตอนที่ฉันสามารถเอาคืนนายวันข้างหน้า!”
ฉีเติ่งเสียนยิ้มและพูดว่า: “ตกลง ฉันจะคอย! ฉันหวังว่าเธอจะทำให้ฉันประหลาดใจได้สำเร็จได้นะ”
เขาเก็บสวีเอ้าเสวี่ยไว้ข้างตัว ก่อนจะปล่อยให้สวีเอ้าเสวี่ยไป แน่นอนว่าเขามีความคิดบ้างอย่าง
การมีอยู่ของสวีเอ้าเสวี่ยสามารถเพิ่มความขัดแย้งระหว่างอวี้เสี่ยวหลงและตระกูล จ้าวได้ ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อเขามาก
ตระกูลจ้าวคือบอสตัวหลักที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา และเป็นผู้ร้ายที่คอยขัดขวางการกลับมาพบกันของครอบครัวของเขาเอง
“เมื่อเธอถึงเมืองหลวง หากเธอพบแม่ของฉัน ฝากทักทายแทนฉันด้วยนะ” ฉีเติ่งเสียนกล่าวอย่างสบายๆ
“ตกลง” แน่นอนสวีเอ้าเสวี่ยจะไม่ปฏิเสธคำขอนั้น ไม่อย่างนั้นเธออาจจะดูเป็นคนแล้งน้ำใจเกินไป
รถได้ขับเข้าไปในลานจอดรถชั้นใต้ดินของสนามบิน
หลังจากจอดรถในลานจอดรถแล้วสวีเอ้าเสวี่ยก็ปลดเข็มขัดนิรภัย เปิดประตูแล้วลงจากรถ
ฉีเติ่งเสียนลงจากรถ เขาต้องส่งเธอให้ถึงที่สุด ต้องให้เธอขึ้นเครื่องบินอย่างปลอดภัยพร้อมที่จะออกเดินทาง
การพรากจากกันไม่มีความโหยหาเหมือนคู่รักคู่อื่นๆ
“พอแล้ว ส่งตรงนี้ก็พอ ฉันคิดว่าเราคงมีโอกาสเจอกันได้บ่อยๆ” สวีเอ้าเสวี่ยยืนสง่าผ่าเผย รองเท้าส้นสูงเกือบเจ็ดเซนติเมตร ทำให้ขาของเธอดูยืดยาวขึ้นไปอีก
“เธอจะจากทั้งแบบนี้เหรอ? เธอควรจะทำอะไรก่อนจะจากกันไม่ใช่เหรอ?” ฉีเติ่งเสียน ยิ้มอย่างสบายๆ และยื่นมือออกไปให้สวีเอ้าเสวี่ย
สวีเอ้าเสวี่ยยิ้มเยาะ ยังต้องกอดกันอีกเหรอ !?
ฉีเติ่งเสียนยิ้มก่อนจะพูดว่า: “ฉันดูแลเธอเป็นอย่างดีและซื้อวิลล่าที่เธอขายไป คืนให้ด้วย เธอก็ไม่ควรขอบคุณฉันไม่ใช่เหรอ?”
สวีเอ้าเสวี่ยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วเธอก็พุ่งตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขาตรงๆ
ฉีเติ่งเสียนกอดหยกนุ่มนิ่มที่มีกลิ่นหอมอบอุ่นแล้วถอนหายใจ
สวีเอ้าเสวี่ยกระซิบ: “ฉันต้องขอบคุณนาย ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันคงไม่มีความกล้าที่จะมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ำ!”
คำพูดของสวีเอ้าเสวี่ยนั้นนั้นเป็นความจริงทุกประการ เพราะเธอเสื่อมโทรมมากหลังจากความล้มเหลวในสงครามธุรกิจในครั้งนั้น แต่เป็นเพราะฉีเติ่งเสียนที่เ)นคนทำให้เธอรู้สึกถึงไฟแห่งการแก้แค้นอีกครั้ง
เหตุผลที่เธออยากจะกลับมาหลังจากที่เธอสิ้นหวัง ก็เพราะเธอแค่อยากจะแก้แค้นเอาคืนที่เธอต้องทนกับฉีเติ่งเสียนมานับครั้งไม่ถ้วน!
“คำพูดนี้ ฉันขอให้ต่อจากนี้เธอไม่สับสนอีก” ฉีเติ่งเสียนยิ้มและพูดเบา ๆ
สวีเอ้าเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมองฉีเติ่งเสียนอย่างจริงจัง หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็พยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ฉันหวังว่านายจะไม่ถูกคนอื่นฆ่าก่อนที่ฉันจะฆ่านายแล้วกัน!”
ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยรอยยิ้ม: “ไม่หรอก ขาของเธอสวยขนาดนี้ ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก”
สวีเอ้าเสวี่ยรู้สึกถึงมือคู่หนึ่งไต่เลื้อยมาที่ขา
บางทีอาจเป็นเพราะเธอต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องนี้มาบ่อยครั้ง ในครั้งนี้เธอจึงไม่รู้สึกรังเกียจเลย
สวีเอ้าเสวี่ยยิ้ม ก่อนจะหันหลังกลับเดินจากไป ก่อนเข้าสู่ประตูผู้โดยสารขาออก เธอหันกลับมาและเห็นฉีเติ่งเสียนยังคงมองมาที่เธอ
เธอยกมือขวาขึ้น ยกไว้ใต้คาง ก่อนจะทำท่าทางเชือดคอช้าๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...