เพื่อให้ทุกคนได้ฉลองปีใหม่อย่างสบายใจ ฉีเติ่งเสียนจึงให้หยุดล่วงหน้า
เซี่ยงกรุ๊ปเองก็เช่นกัน เพราะอย่างไรแล้ว ปีนี้ก็เป็นปีที่เก็บเกี่ยวได้อย่างอุดมสมบูรณ์สำหรับทุกคน
แน่นอนว่า...ฝ่ายที่ถูกเก็บเกี่ยวก็คือบรรดาคนที่ทำงานร่วมกับสวีกรุ๊ปนั่นเอง
ฉีเติ่งเสียนไม่ได้เจอฉีปู้อวี่ ซึ่งพ่อของเขามาสามปีแล้ว ดังนั้นเขาจึงคิดถึงอยู่เล็กน้อย เขาวางแผนว่าหลังจากจัดการธุระในมือเรียบร้อย เขาจะกลับไปฉลองปีใหม่ที่โยวตู
เขาไปเยี่ยมเยียนหยางหลิงกวง หวงเหวินหลั่ง เฉียวกั๋วเทาล่วงหน้า และกลับมาที่บริษัทเพื่อจ่ายเงินปันผลให้ทุกคนก่อนจะประกาศวันหยุดอย่างเป็นทางการ
“ผมจะกลับพรุ่งนี้แล้ว คุณแน่ใจนะว่าจะไม่ไปกับผม” ฉีเติ่งเสียนถามหลี่อวิ๋นหว่านที่ขมวดคิ้วด้วยความกังวล เขาอยากให้เธอกลับไปเจอฉีปู้อวี่กับเขา
“เฮ้อ...หรือฉันจะทิ้งงานไว้ก่อนแล้วไปฉลองปีใหม่กับนายดี” หลี่อวิ๋นหว่านคิดอยู่ครู่หนึ่งและถามออกมา
แน่นอนว่าฉีเติ่งเสียนชอบใจมาก ห้องของเขาในสถานที่ยากจนของเรือนจำโยวตูไม่มีแม้แต่เครื่องปรับอากาศและมันก็หนาวจนถึงกระดูก ถ้าได้กอดหลี่อวิ๋นหว่านในตอนกลางคืนมันคงอบอุ่นและงดงามไม่ใช่เหรอ
แต่หลี่อวิ๋นหว่านก็ส่ายหน้าอีกครั้ง “ช่างมันเถอะ ถ้าฉันทำแบบนั้นคงได้เสียหายหลายสิบล้าน”
แน่นอนว่าฉีเติ่งเสียนไม่ได้ร่ำรวยจนถึงขั้นที่จะเอาเงินหลายสิบล้านทิ้งขว้างแบบนั้นได้ และหลี่อวิ๋นหว่านก็มองว่าเงินทั้งหมดเป็นของเธอ เพราะอย่างไรแล้วฉีเติ่งเสียนก็บอกว่าเมื่อถึงเวลาเขาจะยกบริษัทให้เธอ
แม้ว่าเธอจะไม่ได้ไป แต่เธอก็เตรียมของกล่องใหญ่ไว้ให้ฉีเติ่งเสียนเอากลับ ทั้งเสื้อผ้า เหล้าและบุหรี่จำนวนหนึ่ง รวมถึงเข็มขัดและนาฬิกาแบรนด์ดังราคาแพง ทั้งหมดนี้สำหรับฉีปู้อวี่
หลังจากจัดเตรียมเสร็จ หลี่อวิ๋นหว่านก็ได้รับโทรศัพท์อีกครั้ง เธอต้องไปทานอาหารกับคนจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพื่อหารือและต้องติดต่อสำนักงานอาหารและยาในวันพรุ่งนี้ด้วย
ฉีเติ่งเสียนถึงกับเกาหัว นี่เขาทำผิดไปรึเปล่า เขาไม่ควรให้เธอดูแลเรื่องมากมายขนาดนี้ ช่วงนี้เธอยุ่งจนไม่มีเวลาทำเรื่องอย่างว่าด้วยซ้ำ
ทุกครั้งที่กลับถึงบ้าน หลี่อวิ๋นหว่านก็จะพุ่งตัวไปนอนเหยียดแข้งเหยียดขาบนเตียงและหลับไปโดยไม่ถอดเสื้อผ้า แน่นอนว่าฉีเติ่งเสียนรู้สึกผิดที่จะไปรุ่มร่ามกับเธอ
“อยากให้ผมลดงานให้คุณไหม คุณดูยุ่งมาก...” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างลังเล
“ฉันเต็มใจ นายอย่าคิดเองเออเองสิ ฉันชอบให้ยุ่งๆ แบบนี้แหละ!” หลี่อวิ๋นหว่านรีบพูด
เธอสนุกกับช่วงเวลายุ่งๆ นี้มาก เธอรู้สึกถึงความสำเร็จ เมื่อเห็นอาชีพการงานของตัวเองเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ
แน่นอนว่าสิ่งนี้ทำให้เธอไม่มีเวลาเดทกับฉีเติ่งเสียน แต่เธอก็ตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าจะให้ความสำคัญกับงานเป็นอันดับแรก
ตอนนี้ฉีเติ่งเสียนกำลังสูงส่งขึ้นเรื่อยๆ เธอจะเป็นคนที่รั้งเขาไม่ได้
รอให้ฉีเติ่งเสียนนำฟืน ข้าว น้ำมัน เกลือ ซีอิ๊ว น้ำส้มสายชู ชากลับมาไม่ใช่สไตล์ของเธอและไม่ใช่แบบที่เธอชอบ ถ้าใช้ชีวิตแบบนั้น ไม่ช้าก็เร็วจิตใจคงทรุดโทรมเข้าสักวัน
เมื่อเห็นทัศนคติที่แน่วแน่ของเธอ ฉีเติ่งเสียนก็ได้แต่ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “ผมกลัวว่าคุณจะเหนื่อยเกินไป เมื่อวานที่กลับบ้านคุณก็ลุกมาอ้วกตั้งสองรอบ ผมปวดใจนะ”
หลี่อวิ๋นหว่านพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แค่นายปวดใจก็เกินพอแล้ว! ฉันชอบชีวิตแบบนี้ อย่าหยุดฉันเลย”
ฉีเติ่งเสียนพูดต่อ “ยังไงก็ควรจะหยุดพักชมวิวเสียบ้าง ถ้าเดินเร็วเกินไป อาจจะพลาดอะไรไปเยอะแยะ”
หลี่อวิ๋นหว่านกอดฉีเติ่งเสียนแล้วพูดว่า “ตอนนี้ฉันก็หยุดแล้วนี่ไง นายจะไม่ทำอะไรเหรอ”
ฉีเติ่งเสียนพูด “คุณไม่ต้องไปพบคนจากสำนักงานพาณิชย์เหรอ...”
“ตอนนี้ฉันเป็นนายใหญ่ ให้พวกเขารอฉันหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก!” หลี่อวิ๋นหว่านพูดอย่างภูมิใจก่อนจะหมุนตัวกลับมา วางมือทั้งสองลงบนโต๊ะและแอ่นสะโพกเล็กน้อย
ฉีเติ่งเสียนสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ นี่จะฆ่ากันให้ตายเลยเหรอ ที่รักของฉัน...
หลี่อวิ๋นหว่านออกจากบริษัทด้วยใบหน้าแดงก่ำ ใบหน้าชุ่มชื่นแวววาว โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น ดูสวยหยาดเยิ้มราวกับจะมีน้ำหยดออกมา
เมื่อพนักงานของเทียนไล่แคปปิตอลเห็นภาพนี้ พวกเขาต่างก็อุทานว่าประธานหลี่มีความเป็นผู้หญิงมากขึ้นเรื่อยๆ...
“ถ้าหยางกวนกวนกับหวงชงไม่มีธุระอะไร ฉันพาพวกเขาไปโยวตูด้วยดีกว่า แล้วให้พวกเขาจัดการเด็กเวรพวกนั้น” ฉีเติ่งเสียนครุ่นคิด จากนั้นก็โทรหาทั้งสอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...