มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 519

“เธอไม่ได้ไปทำภารกิจเหรอ ทำไมยังอยู่ที่จงไห่อีก?”

หลังจากที่อวี้เสี่ยวหลงปรากฏตัวขึ้นในโรงพยาบาล ก็ทำให้ฉีเติ่งเสียนจึงเอ่ยปากถามขึ้นด้วยความสงสัย

อวี้เสี่ยวหลงส่ายหน้าแล้วพูดว่า ​: “ฉันได้ยินว่าเธอเกิดอุบัติเหตุ ฉันเลยมาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ฉีเติ่งเสียนพูด : “มิตรภาพของเธอแสนดีจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เอ้าเสวี่ยไม่ได้นับเธอเป็นเพื่อนแล้ว แถมยังเลือกเป็นศัตรูกับเธออีก”

อวี้เสี่ยวหลงพูด : “เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะและมองไม่เห็นชื่อเสียงและโชคชะตาเหล่านี้ ต้องมีสักวันที่เธอจะได้สติกลับคืนมา”

ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าเล็กน้อย และรู้สึกว่าอวี้เสี่ยวหลงนั้นไม่ได้เย็นชาอย่างที่คิด เธอถือว่าสวีเอ้าเสวี่ยนั้นเป็นเพื่อนจริงๆ

การที่ถูกสวีเอ้าเสวี่ยหักหลัง เธอต้องเศร้าเสียใจมากแน่ๆ เพียงแต่ไม่มีใครได้เห็น

“รู้ไหมว่าใครเป็นคนทำร้ายเธอ?” อวี้เสี่ยวหลงถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“ไม่รู้ แต่มือฆ่านั้นน่าสนใจไม่เบา” ฉีเติ่งเสียนพูด

อวี้เสี่ยวหลงตกตะลึง แล้วถามว่า : “อะไรที่เรียกว่าน่าสนใจไม่เบา?”

ฉีเติ่งเสียนพูด : “ฉันจำรูปลักษณ์เขาได้เลยวาดมาให้ เธอลองเอาไปตรวจสอบดู”

อวี้เสี่ยวหลงไม่ถามอะไรมากความ ฉีเติ่งเสียนนำภาพวาดของมือสังหารให้อวี้เสี่ยวหลงไปตรวจสอบ

ไม่ต้องพูดถึงความสามารถของอวี้เสี่ยวหลง เธอใช้เวลาตรวจสอบเพียงครึ่งชั่วโมง เธอก็เดินกลับมาพร้อมกับเอกสารในมือ

“คนนี้ชื่อเสวี่ยกัง เป็นคนตระกูลเสวี่ยแห่งโมตู เขาเป็นไพ่ใบสำคัญของตระกูลเสวี่ย ปกติเขาจะช่วยตระกูลเสวี่ยแก้ปัญหาด้วยวิธีการที่โหดร้าย”อวี้เสี่ยวหลงโยนข้อมูลให้ฉีเติ่งเสียน แล้วพูดอย่างเรียบเฉย

“ตระกูลเสวี่ยแห่งโมตู? หื้ม น่าแปลก ทำไมคนของตระกูลเสวี่ยถึงต้องการเอาชีวิตสวีเอ้าเสวี่ยด้วยล่ะ?” ฉีเติ่งเสียนถามด้วยความประหลาดใจ “หรือว่าตระกูลเสวี่ยก็ร่วมลงทุนพันธมิตรกับตระกูลสวีด้วย?”

อวี้เสี่ยวหลงได้ยินสิ่งที่เขาพูดถึง สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป เพราะเธอเองก็ควักเงินของตระกูลอวี้ร่วมลงทุนไป 10 พันล้านหยวน

หลังจากที่สวีเอ้าเสวี่ยล้มละลาย 10 พันล้านหยวนของตระกูลอวี้ก็สูญเปล่า อย่างไรก็ตามเนื่องจากศักดิ์ศรีและสถานะของอวี้เสี่ยวหลง ไม่มีใครในตระกูลอวี้กล้ายืนขึ้นและพูดคำที่ไม่พอใจ

แต่เธอรู้ดีว่าเรื่องนี้ตัวเธอต้องรับผิดชอบ

เงินจำนวน 10 พันล้านหยวน มันไม่ใช่เงินจํานวนน้อยๆเลย!

อวี้เสี่ยวหลงส่ายหน้า : “นั่นไม่น่าใช่ เพราะตอนแรกมีแต่ตระกูลหยางแห่งโมตูร่วมลงทุนมา ตระกูลเสวี่ยไม่เคยติดต่อกัน”

“ตระกูลเสวี่ย ตระกูลหยาง ตระกูลเจิ้ง ถือเป็นสามตระกูลหลักแห่งโมตู ”

“แต่ทำไมคนตระกูลเสวี่ยต้องการที่จะฆ่าสวีเอ้าเสวี่ย เรื่องนี้ฉันไม่เข้าใจ”

ฉีเติ่งเสียนยิ้ม : “คิดไม่ออกก็ไม่ต้องคิดหรอก ในเมื่อไม่ใช่คนของตระกูลจ้าว ก็ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราต้องไปดำเนินการอะไรมาก”

ตอนแรกอวี้เสี่ยวหลงนึกว่าเป็นคนของตระกูลจ้าว ที่อาจมองว่าสวีเอ้าเสวี่ยเป็นหมากที่ถูกทอดทิ้งและเตรียมจะกำจัดเธอ

แต่ดูเหมือนว่าคนที่อยากจะชีวิตสวีเอ้าเสวี่ยตอนนี้ คือตระกูลเสวี่ยแห่งโมตูมากกว่า

การติดต่อกันระหว่างสวีเอ้าเสวี่ยกับทางโมตูนั้นไม่ลึกซึ้งอะไรมาก การที่ตระกูลเสวี่ยส่งคนมาไกลหลายพันไมล์เพื่อมาเอาชีวิตของเธอไป มันทำให้ทุกคนรู้ไม่เข้าใจถึงเหตุการณ์นี้

“เรื่องนี้อาจจะไม่ง่ายอย่างที่เราคิด นายควรใส่ใจให้มากกว่านี้ มีข่าวอะไรก็บอกกันด้วย” อวี้เสี่ยวหลงพูด

แม้ว่าเธอจะถูกสวีเอ้าเสวี่ยทำให้เสียใจ แต่เธอก็ยังเต็มใจที่จะปฏิบัติต่อเธอในฐานะเพื่อน ในการต่อสู้ครั้งนี้หากสวีเอ้าเสวี่ยหลงทางและรู้วิธีการแก้ไข เธอก็สามารถยอมรับเธอได้

แต่เธอก็ยังนับว่าสวีเอ้าเสวี่ยเป็นเพื่อนอยู่ ในสนามรบถ้าสวีเอ้าเสวี่ย

ฉีเติ่งเสียนพูด : “ได้ รอเธอฟื้นขึ้นมาก่อน ฉันจะถามเธอให้ดูว่าเธอจะพูดว่ายังไง”