“คุณสวี ลำบากคุณเลยครับ ไม่คิดว่าคุณจะให้ความสำคัญกับอาการป่วยของเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆคนนี้!”
หวงเหวินหลั่งพูดกับสวีเอ้าเสวี่ยด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง ไม่ว่าสวีเอ้าเสวี่ยจะมาด้วยจุดประสงค์อะไร แต่เธอได้เชิญผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของสหรัฐอเมริกาอย่างแจ็คซุน มาช่วยลูกสาวของเขา
สวีเอ้าเสวี่ยเผยรอยยิ้มบางๆ
เซี่ยงกรุ๊ปเป็นบริษัทชั้นนำของจงไห่ คนนอกอย่างเธอที่ต้องการจะหุบกิจการของเซี่ยงกรุ๊ปทั้งหมด ก็ต้องสานสัมพันธไมตรีกับนายกท้องถิ่นไว้
สวีเอ้าเสวี่ยที่ถือตัวและหยิ่งยโสมาจากเมืองหลวง ถึงหวงเหวินหลั่งจะเป็นเพียงนายกของเขตนี้แต่เขาก็มีเบื้องหลังอยู่ ดังนั้นจําเป็นต้องคบหาสมาคมเอาไว้ เธอจึงไปสหรัฐอเมริกาเพื่อจ้างผู้เชี่ยวชาญมา
“ปรมาจารย์ฉี คุณก็มาด้วย……” หวงเหวินหลั่งเห็นฉีเติ่งเสียนที่อยู่ด้านหลัง ก็เข้าไปจับมือต้อนรับ
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า ก่อนจะพูดขึ้นว่า : “ผมอยากจะขอบคุณนายกหวงเรื่องครั้งที่แล้ว วันนี้ที่คุณโทรหา ผมก็เลยรีบมาทันทีครับ!”
ตอนแรกหวงเหวินหลั่งคิดว่าฉีเติ่งเสียนเป็นคนที่หยิ่งผยองมาก แต่หลังจากได้ฟังคําพูดของเขาแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้รู้จักกาลเทศะและเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจึงปรากฏขึ้นเพิ่มขึ้น
“พ่อ หาคนอายุน้อยขนาดนี้มารักษาฉิงเกอเหรอ?” หวงฉีปินลูกชายคนโตของหวงเหวินหลั่งพูดพร้อมกับขวมดคิ้ว
“ใช่ นี่คือปรมาจารย์ฉีที่พ่อพูดถึง” หวงเหวินหลั่งพยักหน้า “แล้วยังไม่รีบเข้ามาทักทายอีก?”
“ปรมาจารย์ฉี? ทำไมเด็กขนาดนี้? ใช่เขา? สิบแปดมงกุฎหรือเปล่า!” หวงฉีปินตกตะลึง ก่อนที่แค่นหัวเราะพร้อมกับส่ายหัว
สวีเอ้าเสวี่ยตกตะลึงหลังจากได้ยินคําพูดของหวงเหวินหลั่ง และถามขึ้นว่า: “นายกหวงมีอะไรเข้าใจผิดกันหรือเปล่า? ฉันรู้จักคนนี้ เขาเป็นเพียงแค่ผู้คุมเรือนจำ จะไปเป็นปรมาจารย์ฉีได้อย่างไร?”
แจ็คซุน ผู้เชี่ยวชาญเชื้อสายจีนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ พร้อมกับส่ายหัวและพูดว่า: “เป็นไปได้ไหมที่ในประเทศจีน แวดวงวิชาการจะปะปนกันได้ง่ายมาก จนทำให้ผู้คุมเรือนจําคนใดก็ได้สามารถแสร้งทําเป็นปรมาจารย์ต่อหน้านายก”
หวงฉีปินเดินเข้ามา ก่อนจะหัวเราะเยาะและพูดว่า: “เจ้าหนุ่มน้อย ฉันไม่สนหรอกว่านายจะโกหกพ่อฉันด้วยวิธีใด แต่ฉันขอเตือนนายให้รู้จักสำรวมไว้บ้าง ถ้าน้องสาวของฉันเป็นอะไรขึ้นมา……”
หวงเหวินหลั่งดูสีหน้าไม่ค่อยดี ก่อนจะพูดด้วยเสียงต่ําว่า : “อาปิน อย่าเสียมารยาทกับปรมาจารย์ฉี!”
หวงฉีปินจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก แต่เขายังคงเม้มริมฝีปากอย่างดูถูกเหยียดหยาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่สวีเอ้าเสวี่ยเปิดเผยตัวตนของฉีเติ่งเสียน เขายิ่งดูถูกเข้าไปอีก!
ก็แค่ผู้คุมเรือนจํา จะมามีความสามารถเปรียบเทียบกับนักจิตวิทยาชาวอเมริกันที่ได้รับเชิญโดยสวีเอ้าเสวี่ยได้ยังไง? เขาต้องใช้วิธีการบางอย่างเพื่อหลอกลวงพ่อของเขาให้เชื่อแน่นอน!
“ฮีโร่ไม่ต้องถามว่าเขามาจากไหน แม้ว่าปรมาจารย์ฉีจะเป็นแค่ผู้คุมเรือนจํา แต่เขาเป็นคนมีความสามารถ” หวงเหวินหลั่งพูดอย่างจริงจัง
สวีเอ้าเสวี่ยมองไปที่ฉีเติ่งเสียนแล้วหัวเราะหึหึ สองครั้ง ก่อนจะไม่พูดอะไรอีก
ฉีเติ่งเสียนกําลังมองไปที่สวีเอ้าเสวี่ยอย่างพิจารณา ผู้หญิงคนนี้มีผิวขาวเรียบเนียนเหมือนหิมะตามชื่อของเธอ ใบหน้าที่ประณีต
“หวงฉิงเกอลูกสาวของผมป่วยทางจิตอย่างรุนแรงตั้งแต่แม่ของเธอเสียชีวิตไป เธอได้รับการรักษามาตั้งมากมายแต่ก็ไม่เป็นผล ช่วงนี้อาการป่วยทางจิตของเธอรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เธอตื่นขึ้นกลางดึกหลายครั้งและคิดจะฆ่าตัวตาย...…โชคดีที่มาช่วยเธอได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่รอด”
“ดังนั้น ผมหวังว่าคุณซุนและปรมาจารย์ฉีจะรักษาเธอให้หายเป็นปกติ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ขอแค่เธอสามารถสงบลงได้บ้างก็พอ……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...