ในมุมมองของทุกคนที่อยู่ตรงนั้น สวี่หยางบาดเจ็บจากการถูกโบยสิบห้าครั้งจนทำให้ผิวที่หลังของเขาแตกออกมาอย่างรุนแรงและร่างกายของเขาเหมือนคนกำลังจะตาย
สวี่หยางกระอักเลือดออกมา แล้วพูดอย่างอ่อนแรงว่า : “ฉีเติ่งเสียน แกไม่ตายดีแน่…….”
หลังจากฟังฉีเติ่งเสียนก็เอานิ้วขึ้นมาแคะหู แล้วพูดว่า : “ตอนนี้ ยังมีใครคิดว่าฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะพูดไหม?”
สวี่เซ่าเฉียงมีสีหน้าเคร่งขรึม : “ถึงแม้ว่านายจะเป็นหัวหน้าโมตูหลงเหมินสาขาย่อยก็ต้องมีสิทธิ์พูดได้อยู่แล้ว แต่นายไม่มีสิทธิ์ที่จะมายุ่งเกี่ยวกับการเลือกหัวหน้าหลงเหมินตงไห่ของพวกเราได้!”
ฉีเติ่งเสียนแค่นหัวเราะ เขามีสถานะเป็นถึงหัวหน้าโมตูหลงเหมินซึ่งถือว่าเป็นสถานะสูงสุดในที่นี้ เมื่อสวี่หยางสาปแช่งเขาและถูกเขาจัดการมันก็ไม่แปลกอะไร
“เรากําลังจะขับไล่หม่าหงจุนออกจากการเป็นนายหางเสือ แม้ว่านายจะพูดในนามของโมตูหลงเหมิน มันก็เป็นได้แค่ความคิดเห็นของนายเท่านั้น!” สวี่เซ่าเฉียงพูดอย่างเสียงดัง
เขาค่อยๆเริ่มมีสิทธิ์พูดถึงฉีเติ่งเสียนเป็นเพียงแค่หัวหน้าโมตูหลงเหมินก็เท่านั้น
สมาชิกของหลงเหมินหลายคนในที่นั่นก็พยักหน้าตามด้วยสีหน้าที่มืดมน
คราวนี้พวกเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมประธานถึงไม่หาเรื่องฉีเติ่งเสียนหลังจากที่สวี่อานถูกฆ่าตาย ก็เพราะว่าฉีเติ่งเสียนได้เข้าร่วมมาเป็นสมาชิกของหลงเหมินตั้งนานแล้ว แล้วเขายังมีสถานะเป็นถึงหัวหน้าโมตูหลงเหมินอีกด้วย
วันนี้ตราบใดที่หม่าหงจุนถูกไล่ออกจากนายหางเสือ พวกเขาก็จะเป็นฝ่ายชนะ!
ฉีเติ่งเสียนส่ายหัวแล้วพูดว่า : “ฉันพูดแล้วว่าจะสนับสนุนให้หม่าหงจุนขึ้น มันไม่ใช่แค่ความคิดของฉันคนเดียว แต่มันเป็นความคิดของประธานสมาคมหลงเหมินเช่นกัน!”
สวี่เซ่าเฉียงหัวเราะเย็นแล้วพูดว่า : “นายคงจะไม่ได้เตรียมเอาป้ายหยกประจำตำแหน่งประธานออกมาใช่ไหม? ถ้านายเอามาให้ดูได้ พวกเราถึงจะยอมรับมัน!”
ฉีเติ่งเสียนพูด : “เรื่องป้ายนั้น ฉันไม่มี”
“ไม่มีแล้วนายยังมีหน้ามาพูดอะไร? พูดโดยไม่มีหลักฐาน คิดว่าแค่นายพูดเพียงคำเดียวแล้วพวกเราจะเชื่อว่านายเป็นประธานงั้นเหรอ?”ใบหน้าของสวี่เซ่าเฉียงเต็มไปด้วยความดูถูก
ฉีเติ่งเสียนยักไหล่ : “ฉันไม่มีป้ายหยกตำแหน่งประธานสมาคมก็จริง แต่ฉันสามารถเชิญประธานสมาคมหลี่เหอถูของพวกนายออกมาได้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ประธานหลี่เหอถูท่านใช้ชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายและไม่สนใจเรื่องทางโลก นายบอกว่านายจะเรียกเขามางั้นเหรอ?”
“ฉันอยากจะเห็นจริงๆ หลี่เหอถูที่นายหามาอยู่ที่ไหน!”
ในขณะนั้นเอง ก็มีชายชราอายุราวๆ 70 ปี ปรากฏตัวขึ้นอยู่ที่หน้าประตู สวมชุดจีนโบราณสีขาวพระจันทร์ รูปร่างผอมแต่เดินเข้ามาอย่างกระฉับกระเฉงและดูทรงพลังอย่างมาก
หลังจากที่หยางกวนกวนเห็นชายชรา เธอก็รู้สึกถึงความตื่นตัวในใจทันที เป็นชายชราที่ทรงพลังมาก!
หลังจากที่สวี่เซ่าเฉียงได้เห็นชายชราผู้นั้น ใบหน้าของเขาก็ดูผ่อนคลายลงทันที เขาโค้งมือเล็กน้อยและพูดด้วยเสียงต่ำ: “ผู้อาวุโสหลิน ท่านมาแล้ว!”
ฉีเติ่งเสียนหันศีรษะและเห็นผู้อาวุโสหลิน เขาก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมอง ชายชราคนนี้ซึ่งเป็นคนของตระกูลหลินแห่งเมืองหลวง ซึ่งเป็นคนในตระกูลเดียวกับหลินชงหลงที่มาสร้างความเดือดร้อนในกองพลที่แปดสิบเอ็ดครั้งที่แล้ว
หลินเสวี่ยซง เป็นคนตระกูลหลินแห่งเมืองหลวงและยังเป็นผู้อาวุโสของหลงเหมินอีกด้วย ซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็นผู้มีอำนาจมาก!
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสวี่เซ่าเฉียงคนนี้ถึงได้พูดอย่างแข็งกร้าวแบบนี้ ที่แท้ก็มีคนคอยหนุนหลังอยู่นี่เอง” แววตาของฉีเติ่งเสียนที่ดูเหมือนยิ้มแย้ม แต่มันแฝงไปด้วยเจตนาที่อยากฆ่า
ในตอนแรกเขาและพ่อถูกบีบบังคับโดยตระกูลจ้าว และตระกูลหลินก็เป็นคนที่กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขที่สุดและคอยสนับสนุนตระกูลจ้าวอย่างเต็มที่เพื่อฆ่าพวกเขาสองพ่อลูก
ในท้ายที่สุด ชายชราของตระกูลฉีก็ได้ยืนขึ้นเพื่อพูดคุยประนีประนอม ขอให้ตระกูลจ้าวปล่อยพ่อและเขาไป พวกเขาเลยถูกขับไล่ออกจากเมืองหลวง
เมื่อพูดถึงตระกูลหลินแล้วพวกเขามีความสัมพันธ์เป็นญาติของตระกูลฉี แต่ในขณะนั้นพวกเขาดูเหมือนจะเป็นสุนัขเลียที่คอยตระกูลจ้าวอยู่ ซึ่งทําให้ฉีเติ่งเสียนน่าจดจำได้อย่างลึกซึ้ง
ครั้งที่แล้วได้จัดการหลินชงหลงไปแล้ว ครั้งนี้จะได้จัดการกับรุ่นใหญ่มากขึ้น มันน่าสนใจจริงๆ!
“ไม่น่าแปลกใจที่หลี่เหอถูและฟู่เฟิงหยุนต้องการให้ฉันเข้าร่วมเป็นสมาชิกของหลงเหมิน ดูเหมือนว่าภายในหลงเหมินจะมีพวกของตระกูลจ้าวดูแลอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว”ฉีเติ่งเสียนหัวเราะเยาะในใจของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...