คำพูดของเฉินกวงเหยาทำให้เฉินหยูเลิกคิ้วเล็กจนดูเหมือนใบต้นหลิว
จากนั้นเธอก็หันไปมองและพบกับฉีเติ่งเสียน แล้วเธอก็กลอกตาใส่ไปหนึ่งครั้ง!
ฉีเติ่งเสียนยิ้ม เดินเข้าไปแล้วพูดว่า “คุณไม่ทำตามคำพูด ไม่เห็นแต่งตัวเหมือนที่รับปากกับผมไว้ก่อนหน้านี้เลย”
เฉินหยูพูดอย่างใจเย็น “ถ้าฉันแต่งตัวแบบนั้น วันนี้จะยังมีใครถ่ายรูปพริตตี้รถอยู่ไหม”
บทสนทนาระหว่างคนทั้งสองทำให้ทุกคนในที่เกิดเหตุตกใจและอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
เฉินกวงเหยายิ่งตะลึง ผ่านไปสักพักเขาก็พูดอ้ำอึ้งว่า “คุณหนูใหญ่ คนที่ทำตัวป่าเถื่อนที่นี่ก็คือเขา...”
“ชัต อัพ” เฉินหยูหันหน้ามาและพูดสองคำนี้ด้วยท่าทางเย็นชา
เฉินกวงเหยาตัวสั่นและปิดปากแน่น ไม่กล้าพูดอะไรอีก
ฉีเติ่งเสียนคิดว่าคำพูดของเฉินหยูนั้นสมเหตุสมผลมาก ลำพังแค่เธอสวมกางเกงแสล็คและเชิ้ตขาวธรรมดาๆ ก็ชนะนางแบบที่นี่แล้ว หากสวมถุงน่องดำขึ้นมา พวกเธอจะยังมีหนทางทำมาหากินต่อไหม
“ผมโมโหนิดๆ แล้วนะ!” ฉีเติ่งเสียนพูดกับเฉินหยู
“?” เฉินหยูมองเขาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
“ผมให้คุณยืมแอสตันมาร์ติน แต่คุณกลับให้หมอนี่ใช้รถของผม แล้วก็แสดงต่อหน้าผมเหรอ!” ฉีเติ่งเสียนพูดพลางควงกุญแจรถในมือ
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของเฉินหยูก็เคร่งขรึมขึ้น “ฉันเอากุญแจรถให้เขาเพราะเขาใช้ไม้อ่อนหว่านล้อมไม่หยุด แล้วเขาก็ยังสัญญากับฉันว่าจะไม่ขับรถออกไปสุ่มสี่สุ่มห้า...”
ฉีเติ่งเสียนพูด “เขาไม่ได้ขับออกไป แต่แค่เขาแกล้งทำเป็นเจ๋งก็ไม่โอเคแล้ว แถมยังมาว่าผมเป็นคนจนด้วย!”
เฉินหยูพูดว่า “คนจน? เรียกคนที่ลงทุนเงินห้าหมื่นล้านกับเซี่ยงกรุ๊ปเพื่อทำสงครามธุรกิจว่าคนจนเนี่ยนะ? เปิดโลกของฉันจริงๆ!”
ฝูงชนแตกตื่น จากนั้นทุกคนก็เริ่มซุบซิบ
“ขะ...เขาต้องเป็นประธานฉีแห่งเมืองจงไห่แน่ๆ คนสุดเจ๋งที่ลงทุนเงินห้าหมื่นล้านกับเซี่ยงกรุ๊ป และยังช่วยเซี่ยงกรุ๊ปขับไล่กองกำลังทุนจากเมืองหลวงด้วย!”
“พระเจ้า ตาไม่มีแววเอาเสียเลย! พวกเราก็หลงเชื่อความคิดชั่วๆ ของหมอนี่ บังอาจเรียกประธานฉีว่าคนจน?”
“คนหน้าด้านมาเจอคนยิ่งใหญ่ หารอยแตกบนพื้นแล้วมุดเข้าไปเถอะ...ถ้าเขาเป็นคนจน แล้วพวกเราเป็นตัวอะไร”
หลังจากคำพูดเหล่านี้จบลง ฝูงชนก็รู้สึกอับอายจนเหงื่อตกและไม่มีหน้าไปสู้เขาแล้ว
แต่โชคดีที่ฉีเติ่งเสียนจำไม่ได้ว่าเมื่อครู่ใครร่วมวงด่าว่าเขาเป็นคนจนบ้าง
“ที่แท้หมอนี่ก็เอารถของประธานฉีมาแกล้งทำเป็นของตัวเอง แล้วยังมาจีบผู้หญิงของประธานฉีอีกเหรอ ไร้ยางอายจริงๆ!”
“ให้ตายเถอะ ความหน้าไม่อายของหมอนี่รีเฟรชโลกทัศน์ของฉันใหม่หมดเลย ทุเรศที่สุด!”
“ไสหัวกลับไปที่โคกูรยอ แล้วยังมีหน้ามาหลอกลวงที่หัวกั๋วของเราอีกเหรอ”
ทุกคนชี้หน้าฮันเหวินห่าวอีกครั้งและก่นด่าด้วยความโกรธเคืองจนบุคคลผู้ทำศัลยกรรมมาทั้งหน้าที่อยู่ข้างฮันเหวินห่าวกลัวจนตัวสั่นและไม่กล้าพูดอะไร
ฮันเหวินห่าวยืดอกและพูดว่า “คุณเฉิน นี่ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนี้นะ ผมถูกคนนอกทำร้ายที่โชว์รูมรถเตอะหลูของพวกคุณนะ!”
“ในฐานะหุ้นส่วนของบริษัทยุคใหม่ของเรา ตระกูลเฉินจะไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรหน่อยเหรอ”
“ถ้าวันนี้คุณไม่ลงโทษผู้ชายคนนี้และทำให้ความโมโหในใจของผมหายไปได้ บริษัทยุคใหม่ของเราจะยกเลิกความร่วมมือกับเตอะหลูมอเตอร์ทั้งหมด!”
เครื่องยนต์ของเตอะหลูมอเตอร์ทั้งหมดจัดหาโดยบริษัทยุคใหม่ และแน่นอนว่าฮันเหวินห่าวสามารถจัดการเรื่องนี้ได้
หากบริษัทยุคใหม่หยุดจัดหาเครื่องยนต์ให้ เตอะหลูมอเตอร์ก็จะตกที่นั่งลำบาก
เฉินหยูชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินไปตรงหน้าฮันเหวินห่าวและถามว่า “อิคซ์ กิ๊วส์ มี?”
ฮันเหวินห่าวพูดอย่างเย็นชา “ฉันต้องทวนอีกรอบงั้นเรอะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...