มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 613

สรุปบท บทที่ 613 ความผิดพลาดอันใหญ่หลวงสามประการ: มังกรผู้ทรงพลัง

บทที่ 613 ความผิดพลาดอันใหญ่หลวงสามประการ – ตอนที่ต้องอ่านของ มังกรผู้ทรงพลัง

ตอนนี้ของ มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 613 ความผิดพลาดอันใหญ่หลวงสามประการ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ณ โมตู

ทำร้ายคนตระกูลหยางในงานหมั้นที่จัดขึ้นโดยตระกูลหยาง

ไม่มีการกระทำไหนที่จะอวดดีไปกว่านี้แล้ว

แต่ใบหน้าของฉีเติ่งเสียนยังคงเรียบเฉยดังเดิม เขาเดินช้าๆ ไปตรงหน้าหยางหยวนซานและพูดนิ่งๆ ว่า “จะฆ่าฉันเหรอ มาสิ”

ครั้งก่อนหยางหยวนซานถูกเล่นงานอย่างดุเดือดในจงไห่ หากเป็นที่โมตู ฉีเติ่งเสียนไม่มีทางได้อวดดีและได้โดนเขาฆ่าแน่

ตอนนี้ฉีเติ่งเสียนอยู่ในโมตูและกำลังก่อเรื่องในงานหมั้นของตระกูลหยาง

เขาเองก็อยากจะรู้ว่าตระกูลหยางจะทำอะไรเขาได้!

ตอนนั้นตระกูลจ้าวต้องการบีบคั้นให้สองพ่อลูกตาย แต่ก็ทำไม่สำเร็จ

เสวี่ยกุ้ยถึงกับตะลึงเมื่อเห็นฉากดังกล่าว หยางกวนกวนตบเขา แต่ตอนนี้ผู้ชายของหยางกวนกวนกลับตบหน้าหยางหยวนซาน?

ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักถึงเหตุผล ลูกสาวของหยางสามโง่เติบโตขึ้นแล้วและเธอก็กลับมาโมตูเพื่อคิดบัญชีกับตระกูลหยาง! แต่ว่าเขาก็ไม่ปล่อยเรื่องที่เขาโดนตบไปง่ายๆ หรอกนะ!

“เสวี่ยกัง มาที่นี่เดี๋ยวนี้!” เสวี่ยกุ้ยแสยะยิ้มขณะพูดสาย

หลังจากได้ยินว่าเสวี่ยกุ้ยเรียกใครมา คนที่รู้จักตระกูลเสวี่ยก็ลอบถอนหายใจและรู้สึกท้ายทอยชาไปตามๆ กัน

ชื่อเสียงของเสวี่ยกังดังไปทั่วโมตู!

เขาเป็นคนที่ตระกูลเสวี่ยเลี้ยงดูมาเพื่อให้ทำเรื่องเลวร้ายโดยเฉพาะ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่รู้ว่ามีคนเสียชีวิตด้วยมีดของเขาไปกี่คน

เวลาตระกูลเสวี่ยต้องจัดการกับเรื่องที่มีลับลมคมใน พวกเขาก็มักจะให้เสวี่ยกังเป็นผู้ลงมือแทบทุกครั้งซึ่งเขาก็ทำมันอย่างราบรื่นด้วยวิธีการอันโหดร้าย

“สาวน้อย ตอนนี้หนีไม่ทันแล้ว เดี๋ยวอีกไม่นานคนจากตระกูลเสวี่ยจะมาที่นี่ ฉันเกรงว่าหัวของเธอคงไม่ได้อยู่บนบ่าอีกต่อไป!” มีคนเตือนหยางกวนกวนด้วยเสียงแผ่วเบาก่อนจะรีบหลบออกไป

เสวี่ยกุ้ยกังวลว่าเขาจะไม่สามารถหาเหตุผลมาทำลายงานหมั้นนี้ได้ แต่ตอนนี้มีคนเอาเหตุผลมาประเคนให้เขา แน่นอนว่าไม่มีทางที่เขาจะไม่รับมันไว้

แต่ก่อนที่จะถึงตอนนั้น ได้ดูความขัดแย้งภายในของตระกูลหยางก็น่าสนุกไม่น้อย

เวลานี้เท้าใหญ่ของฉีเติ่งเสียนกำลังเหยียบหน้าของหยางหยวนซานอยู่ เขาพูดนิ่งๆ ว่า “หืม? ทำไมไม่เรียกคนมาฆ่าฉันสักทีล่ะ ก่อนมาโมตูฉันก็ตั้งตารอว่านายจะเซอร์ไพรส์อะไรฉัน!”

ใบหน้าของหยางหยวนซานถูกเหยียบจนบิดเบี้ยวและแนบลงกับพื้น!

นี่ไม่ใช่การตบหน้าทั่วๆ ไป แต่เป็นการเหยียบหน้า!

คนตระกูลหยางถูกเหยียบหน้าแล้วถูไปกับพื้น?

ถ้าเอาเรื่องนี้ไปพูดในเมืองหลวงจะมีใครเชื่อ!

“อวดดีจริงๆ กล้าเหยียบหน้าหยางหยวนซานแนบพื้นแบบนี้ เดี๋ยวถ้าหยางจิ้งมาเมื่อไหร่ เขาคงได้ฆ่าหมอนี่ทันทีที่มาถึง!”

“ก่อเรื่องในงานหมั้นของหยางจิ้ง แถมยังทำร้ายน้องชายของหยางจิ้งจนเป็นสภาพนี้...แค่คิดก็สั่นไปหมดแล้ว!”

“ตอนนี้ถึงพระเจ้าจะเสด็จลงมาก็คงช่วยเขาไม่ได้! ถึงเขาจะหนี เขาก็หนีได้ไม่พ้นโมตู!”

ภาพตรงหน้าทำให้ผู้คนรู้สึกระทึก หวาดกลัวและคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องจริง

แต่ไหนแต่ไรมาพวกเขาเคยเห็นแต่คนตระกูลหยางเหยียบย่ำผู้อื่น มีครั้งไหนที่มีคนเหยียบคุณชายตระกูลหยางไว้แทบเท้าแบบนี้บ้าง

หยางหยวนซานกัดฟันพูด “ไอ้ฉี ฉันบอกเลยนะ แกพลาดหลายครั้งแล้ว!”

ฉีเติ่งเสียนเหยียบหน้าของเขาและพูดว่า “โอ้? พูดให้ฉันฟังหน่อยสิ”

เธอมองหยางกวนกวนด้วยความดูถูกและเย้ยหยัน ราวกับกำลังมองสัตว์เลื้อยคลานที่แกว่งเท้าหาเสี้ยนไปยั่วยุช้างเข้า

อย่างที่เรียกกันว่า เมื่อศัตรูมาพบกัน ความเกลียดชังและความโกรธจะสูงมาก!

หยางเฟยเฟยปล่อยให้คนอื่นมาวุ่นวายกับบ้านของหยางกวนกวน ปล่อยให้คนมามั่วสุมเสพยากันในบ้าน ทั้งยังปล่อยให้คนขุดหลุมศพและทำให้ศพของหยางจื้อกลายเป็นกระดูกและโปรยเล่น นี่มันไร้จิตใจอย่างยิ่ง!

ทันทีที่เห็นหยางเฟยเฟย ไฟในหัวใจของหยางกวนกวนก็เริ่มลุกโชน

เธอสาวเท้าพรวดพราดเข้าไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ!

แต่ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างกายหยางเฟยเฟยเป็นยอดฝีมือ เมื่อเผชิญหน้ากับหมัดของหยางกวนกวน เขาก็หัวเราะเยาะ “สาวน้อย ยังไม่ทันจะเรียนวิชาให้ครบถ้วนก็อวดดีขนาดนี้ ไม่กลัวตายก่อนวัยอันควรเรอะ!”

เขายกแขนขึ้นในแนวขวางแล้วแกว่งแขวนอย่างแรง และแรงสั่นสะเทือนก็ทำให้ชุดสูทยืดออก!

หมัดของหยางกวนกวนชกเข้าไปที่แขนของคู่ต่อสู้จนเกิดเสียงดัง ยังไม่ทันที่จะได้เปลี่ยนกระบวนท่า เธอก็เห็นอีกฝ่ายงอแขน ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้และปล่อยแรงปะทะกลับมาที่แขนของเธอ!

“บูม!”

เสียงดังขึ้นอีกครั้ง สีหน้าของหยางกวนกวนเปลี่ยนไปอย่างมาก เธอรู้สึกเจ็บแขนส่วนบนราวกับมีเข็มทิ่มแทงจนเธอเซถอยไปด้านหลังอย่างไม่ทันตั้งตัว

ในขณะที่เกิดการปะทะกัน เธอสัมผัสได้ถึงการสั่นของไขกระดูกของอีกฝ่าย จากนั้นแรงก็ออกมาจากไขกระดูกของอีกฝ่าย สะเทือนไปถึงแขนส่วนบนของเธอและทำให้เธอรู้สึกเหมือนแขนกำลังจะหัก

“คนพวกนี้อย่างน้อยก็เป็นยอดฝีมือด้านพลัง ฉันสู้เขาไม่ได้!” หยางกวนกวนตกใจและถอยกลับไปสองก้าว

แม้บางครั้งเธอจะหุนหันพลันแล่น แต่เธอก็ไม่ใช่คนบ้าบิ่นไร้สมอง ยิ่งไปกว่านั้นเวลาต่อสู้บางครั้ง เธอก็ใช้สมองสู้ด้วยซ้ำ

คนที่มีหัวคิดปราดเปรื่องมักจะเก่งเรื่องการต่อสู้และรู้จักใช้ข้อได้เปรียบต่างๆ

หยางเฟยเฟยหัวเราะเยาะ “มีฝีมือแค่นี้ แต่อยากจะล้างแค้นให้พ่อเนี่ยนะ เธอจากโมตูไปตั้งหลายปี พอกลับมาก็ยังเป็นสวะอยู่ดี!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง