มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 623

ได้ยินว่าวันนี้เจอกับฉีเติ่งเสียนหรอ เป็นยังไงบ้าง？”

ชายหนุ่มอายยุยังน้อยนั่งอยู่ข้างหน้าเยี่ยเฟยหลิว พูดขรึมๆถาม ข้างมือทั้งสอง มีดาบจิ่วกงวางอยู่

เยี่ยเฟวหลิวพูด：“นามสกุลเดียวกันกับพ่อของเขา กลิ่นอายนักฆ่าสงบมาก ฝีมือไม่ธรรมดา ใจอดีตเอาชนะแชมป์สามสัยที่อยู่โซนเสือขาวได้อย่างง่ายดายหม่าซีหลง”

เยี่ยเฉิงตกใจตอบ：หม่าซีหลงฉันรู้จักคนนี้ ฝึกวิชาไทเก๊ก หนึ่งฝ่ามือที่ผ่าออกมาทั้งห้านั้นร้ายกาจมาก สามารถพูดได้ว่าโหดถึงขั้นสุด！นึกไม่ถึงว่าจะแพ้อย่างง่ายดาย？”

เยี่ยเฟยหลิวพูด：“ฉีเติ่งเสียนคนนี้ พลังเหนือมนุษย์โดยกำเนิด พลังหมัดแข็งแกร่งน่าเกรงขาม หม่าซีหลงคิดว่าเขาเดินสายหยินที่อ่อนโยนของฝ่ามือแปดทิศ ถูกชักจูงให้ดึงพลังทั้งหมดออกมา จะรู้ได้ยังไงว่าจริงๆแล้วอีกฝ่ายฝึกด้วยการเปลี่ยนสองมือ เดินในทางหลอมรวม เขาถูกหยุดพลังหมัดไว้ในทันที สุดท้ายแพ้ราบคาบก็เป็นปกติแล้ว”

เยี่ยเฉิงพูด：“พูดมาถึงขนาดนี้ ฉีเติ่งเสียนคนนี้มีพละกำลังและความกล้าหาญเกินมนุษย์ และยังเป็นคนที่ฉลาดอีกด้วยเถอะ？”

เยี่ยเฟยหลิวพยักหัวเบาๆ

“ครั้งก่อนลูกศิษย์ของฉัน เหลยควงก็เคยเจอกับเขาหนึ่งครั้ง เกิดการปะทะกัน สุดท้ายได้ยินมาว่าแม้แต่ดาบก็ยังไม่ได้ชักออกมา ”เยี่ยเฉิงพูด

เลยควง เมื่อก่อนที่เป็นบอดี้การ์ดให้กับเซี่ยงตงฉิง ฝึกดาบจิ่วกงเหมือนกัน อาจารย์ของเขา คือก็เยี่ยเฉิง

การพ่ายแพ้ครั้งนั้น พูดได้ว่าจิตใจของเหลยควงตายไปหมดแล้ว ฝึกดาบจิ่วกงมาหลายปีขนาดนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าคนนั้น แม้แต่ความสามารถในการชักดาบออกมายังไม่มี ทำให้เขาผิดหวังมาก！

“พลังเหนือมนุษย์โดยกำเนิด？ ฉันชอบที่จะประมือกับคนที่ฝีมือแข็งแกร่ง”ในเวลานี้ มีผู้หญิงหนึ่งคนเดินออกมา ลักษณะธรรมดา เขามีผมสั้น แต่ทางด้านร่างกายก็มีจิตวิญญาณที่กล้าหาญ

เยี่ยเฉิงพูด：“ไป๋หลิ่ว ไทเก๊กพลังอ่อนโยนของคุณถ้าหากบอกว่าเป็นรอง ก็ไม่มีใครจะเป็นที่หนึ่งแล้ว ยกเอาความยืดหยุ่นมา ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ได้ซะทีเดียว เพียงแต่ว่า ฉีเติ่งเสียนคนนี้ ไม่เพียงแต่เล่นไปกับการเส้นทางที่รุนแรง”

เยี่ยเฟยหลิวพยักหน้าตอบ：“ใช่แล้ว พลังของเขาเปลี่ยนรูปร่าง ไม่มีความล่าช้าเลย บอกได้ว่าเป็นระดับปรมาจารย์ฝีมือสูงแล้ว หนึ่งกระบวนลิ้นวัวล้อมหญ้า ก็โยนหม่าซีหลงทิ้งออกไปโดยตรง”

หลังจากพูดคุยกันเสร็จ มีชายใส่สูตรเข้ามา นำแฟลช์ไดร์ฟมาส่ง

“นี่คือวีดีโอที่ให้พนักงานของโรงแรมต้าตี้ส่งมาโดยเฉพาะ ทุกคนมาดู มาศึกษาวิเคราะห์กัน ”เยี่ยเฟยหลิวพูดด้วยความจริงจัง

ไป๋หลิ่วขมวดคิ้วขมวดอีก พูด：“ จานซิงทำไมยังไม่มา ？ไอ้คนนี้เขาสร้างภาพหรอกหรอ？”

“ฉันมาถึงแล้วแล้ว！”

มีเสียงหนึ่งดังมาจากบนหลังคา

ไป๋หลิ่วแหงนศรีษะ เห็นผู้ชายคนหนึ่งห้อยแขวนคอลงมากจากข้างบน นี่ทำให้เขาตกใจเล็กน้อย

“รู้ว่าวิชาตัวเบาแข็งแกร่ง ก็ไม่ต้องแสดงถึงขนาดนี้มั้ย？”เย่เฉิงขำนิ่งๆพูด

“เทพดาบเยี่ย ฉันเคยบอกคุณแล้ว ให้ฉันเป็นาจารย์ เรียนวิชานกนางแอ่น ผสมรวมกับจิตวิญญานดาบของคุณ เมื่อบรรลุ ทั่วหล้าไร้ผู้ต่อต้าน” จานซิงเตะเท้าของเขาหนึ่งที ทั้งตัวคนกระโดษออกมาทันที จับเสารับน้ำหนักราวกลับตุ๊กแก

หัวอยู่ล่างเท้าอยู่บน ปีนลงมาจากเสารับน้ำหนักด้วยท่าทางที่แปลกมาก เมื่อลงถึงพื้น จังหวะเท้าอ่อนช้อย กระโจนทีเดียว ก็ถึงหน้าโต๊ะแล้ว

เยี่ยเฟยหลิวเป็นผู้คุมสอบ โดยธรรมชาติแล้วต้องมีนิสัยเฉพาะตัวออกมา เขาไอหนึ่งที ทุกคนหยุดทำเรื่องตลกทันที

“ดูวีดีโอเถอะ ถึงแม้ว่าฉันจะเคยเห็นมันแล้วก็ตาม แต่ยังไงก็ควรจะดูมันกับทุกคน ฉีเติ่งเสียนคนนี้ น่าศึกษาจริงๆเลย พวกคุณก็อย่าประมาทศัตรู！”เยี่ยเฟยหลิวพูดด้วยความจริงจัง

“ดี ให้ฉันดูหน่อย ！”ไป๋หลิ่วพูดแบบที่รอไม่ไหวแล้ว

แฟลชไดรฟ์เสียบอยู่ที่โน๊ตบุ๊ค แล้วมันก็ฉายขึ้นที่จอใหญ่

เยี่ยเฉิงพูด：“ฉันเป็นคนที่สอง ฉันใช้ดาบ ในมือมีอาวุธสงคราม ความสามารถในการทำให้บาดเจ็บมีมาก ไม่แน่ว่าอาจจะไม่ต้องถึงมือพวกคุณ”

เยี่ยเฟยหลิวพูด：“ได้”

“งั้นฉันคือคนที่สามละกัน ถ้าหากเทพดาบแพ้แล้ว ถ้าอย่างงั้นฉันก็สู้ไม่ได้ แต่ทว่า วิถีร่างกายฉันดี วิ่งเล่นกับเขา แน่นอนว่าเผลาผลาญกำลังกายของเขาได้มากแน่นอน ！”จานซิงหัวเราะแล้วพูด

เยี่ยเฟยหลิวพูด：“อย่างงั้นฉันเป็นคนคุมสุดท้าย”

ทุกคนไม่มีใครคัดค้านแผนการนี้ เยี่ยเฟยหลิวคือคนที่ฝีมือแข็งแกร่งและลึกซึ้งที่สุด มีเขาในการอยู่ทัพคนสุดท้ายฉีเติ่งเสียนที่ถูกผลาญกำลัง ชัยชนะยิ่งเพิ่มขึ้นอีก

“การทดสอบครั้งนี้ ทุกคนแสดงพลังออกมาเถอะ ไม่ต้องซ่อนพลังเอาไว้ สู้ไม่ได้ ก็ผลาญพลัง สู้ได้ ก็ได้รับชัยชนะจากเขา！”เยี่ยเฟยหลิวพูดขรึมๆ

“ รับทราบ！”ทั้งสามคนยืนตรงขึ้นมา จิตวิญญานดุดันและพยักหัว

เยี่ยเฟยหลิวพูด：ในความเป็นจริง เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะถูกคัดออก ตระกูลหยางถึงกับส่งผู้อาวุโสจ้าวมาด้วย”

ทั้งสามคนงงงัน พูด：ผู้อาวุโสคนนั้นน่ะ？”

“ถูกพ่อของเขาทำให้เจ็บสาหัส กลับเมืองหลวงไปรักษาบาดแผล ”เยี่ยเฟยหลิวไร้สีหน้าตอบ

“ฉีปู้อวู่ไอ้บ้าคนนี้……”

ทั้งสามคนอดไม่ได้ที่จะตกใจหวาดกลัว นึกถึงถึงวันที่นองเลือดในเมืองหลวงคืนนั้น อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อย