มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 622

สรุปบท บทที่ 622 กระบวนทับที่แข็งแกร่ง: มังกรผู้ทรงพลัง

สรุปตอน บทที่ 622 กระบวนทับที่แข็งแกร่ง – จากเรื่อง มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู

ตอน บทที่ 622 กระบวนทับที่แข็งแกร่ง ของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองเรื่องดัง มังกรผู้ทรงพลัง โดยนักเขียน จาง หลงหู เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ฉีเติ่งเสียนสุดท้ายแล้วยอมรับปากสวีเอ้าเสี่ย เพราะว่าเขารู้ดีว่าสวีเอ้าเสวี่ยคือมนุษย์หมาป่า

บางที ในอนคตเมื่อถึงเวาเวลาที่ต้องแข่งขันกันอีกครั้ง มันยากมากที่จะต้องจัดการเขาทิ้ง แต่การที่เธอแทงข้างหลังตระกูลจ้าวจะต้องเป็นอัตรายถึงชีวิตแน่นอน

และนอกจากนี้ เขาเชื่อในความสามารถของเฉินหยูในการควบคุมหนานหยาง ตระกูลเฉินยังไงก็ฝังรากลึกลงไป แล้วถ้าเราปล่อยให้สวีเอ้าเสียไปผสมกับน้ำ มันจะเป็นยังไงล่ะ

อีกอย่าง ความเชื่อที่เขามีต่อความสามารถศิลปะการต่อสู้ของตัวเองมันแข็งเกร่ง

“คุณก็เป็นคนที่เข้าใจง่ายจริงๆ ”สวีเอ้าเสี่ยพูดไปยิ้มไป

“ฉันแนะนำให้คุณเลิกมีความคิดที่จะเป็นศัตรูกับฉัน เพราะว่า คุณไม่ใช่คู่มือของฉัน ”ฉีเติ่งเสียนหัวเราะแล้วตอบ

สวีเอ้าเสียตอบ “ถ้ายังไงก็ไม่เข้าใจเถอะ ไม่แน่ว่าสองสามปีหลังจากนี้ คุณต้องมาคุกเข่าอยู่ตรงเท้าฉัน ขอรองให้ฉันยกโทษให้ และขอให้คุณไว้ชีวิต”

ฉีเติ่งเสียนหน้ามืดตอบ:“ขาไม่ได้ควบคุมฉัน ฉันควบคุมขา”

การแสดงออกของสวีเอ้าเสี่ยหน้าแข็งทื่อ อยากจะให้ผู้ชายคนนี้มีสองปากจริงๆ มันเป็นปากหมาที่บริสุทธิ์ที่คายออกจากปากไม่ได้

กลุ่มสามคนไปที่บ้านของหยางกวนกวนโดยตรง หลังจากนั้น ฉีเติ่งเสียนโทรศัพท์ติดต่อเฉินหยู พูดคุยกับเขาเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง

หวังว่าเฉินหยูตอนนี้ยิ่งคลุกเคล้ากับหนานหยางมันก็จะดีขึ้นอีก ส่วนการที่ปล่อยให้สวีเอ้าเสียบุคคุลที่ไม่มีความสามารถในการฆ่าเข้ามาในเวลานี้ แสดงถึงไม่มีความไม่เห็นด้วย

ตระกูลจ้าวจะอาศัยที่ตระกูลเฉินซื้อเหมืองแร่มาพอประมาณผ่านหนานหยาง นี่เป็นเรื่องที่ฉีเติ่งเสียนกับเฉินหยูและคนอื่นเป็นเอกฉันท์ในเรื่องนี้แล้ว

แต่ทว่าสวีเอ้าเสี่ย ต้องการจะทำ คือเป็นตัวแทนของตระกูลจ้าวในหนานหยาง

ความสามารถของเขาโดนเด่นเป็นธรรมชาติตริงๆ จะนำมาซึ่งอันตรายในเวลาเดียวกัน และรับปากแล้วว่าเมื่อถึงเวลาจะแทงข้างหลังตระกูลจ้าว

สวีเอ้าเสียเหมือนกับกำลังหายใจเข้าลึกๆ พูด:“ดี เรื่องนี้ ฉันต้องขอบคุณคุณ”

ช่องว่างการพัฒนาของเขาในประเทศมันมาถึงขีดจำกัดแล้ว เพราะว่า สวีกรุ๊ปพ่ายแพ้ยับ ทรัพยากรถูกเขาใช้จนไม่เหลือ เมื่อประกอบกับสิ่งที่ตระกูลหยางก่อเรื่องวุ่นวายนี้ อาจกล่าวได้ชื่อเสียงของเธอถูกลบล้างไปแล้ว

อยากที่จะพัฒนาต่อไปในประเทศจีนที่เหมือนเมื่อก่อน พูดได้ว่าเป็นเรื่องเหลวไหลไม่น่าเชื่อถือ

ดังนั้น เอาสายตาเปลี่ยนไปนอกประเทศ ไปยังหนานหยางที่วุ่นวาย ไม่ต้องสัยสัยว่ามันคือหนึ่งทางเลือกที่ดีที่สุด

“คุณมาขอบคุณฉันทำไม?”ฉันเติ่งเสียนกลับตอบ้ด้วยรอยยิ้มเย็นชา

“หรือไม่อย่างงั้นวันนี้ฉันไม่ล็อคประตูล่ะ?”สวีเอ้าเสียพูดไปขำไป

ฉีเติ่งเสียนได้ยินคำแล้วอยากตะตีเขาสักที ถ้าต้องการทำแบบนี้แล้ว ถ้าอย่างงั้นต่อไปก็อย่าคิดที่จะได้เห็นหน้าดีๆของหยางกวนกวนอีกแล้ว

มีเรื่องบางอย่าง ทุกคนรู้สิ่งที่ควรรู้ แต่ไม่สามารถวางต่อหน้าได้

หลังจากชั่วขณะ ฉีเติ่งเสียนไม่พอใจตอบ:“สวีเอ้าเสีย คุณนี่มันเป็นหญิงเลวจริงๆ เด็กน่ารังเกียจ!”

สวีเอ้าเสียตอบ:“ถ้าหากฉันเลว จะสามารถพูดคำพูดพวกนั้นในงานหมั้นได้ยังไงล่ะ?ฉันจะไปยุ่งกับคุณในห้องแต่งตัวก่อนงานหมั้นได้ยังไง?ใช่แล้ว:ฉันมันไม่ได้เลว บางทีเราอาจจะใช้วิธีนี้เพื่อแลกทรัพยากรกันเพิ่มเติมในอนาคต

ฉีเติ่งเสียนยิ่งหน้ามืด เอ่ย:“ถ้าเธอกล้าที่จะให้ผู้ชายคนอื่นแตะต้องอีก ครั้งหน้าเธอจะต้องแพ้จะอยู่ในกำมือฉัน ฉันจะจัดการเธอแน่!”

สวีเอ้าเสียตอบด้วยความรู้สึกแปลกๆ:“โอ้โอ้โอ้ ความคิดที่อยากจะได้น่ากลัวจริงๆ ฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงของคุณ จะมีความสัมพันธ์กับใคร แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณ?”

ฉีเติ่งเสียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุย ยังไงซะคำพูดก็อธิบายชัดเจนกับสวีเอ้าเสียแล้ว

สำหรับพฤติกรรมของสวีเอ้าเสียที่นี่ ฉีเติ่งเสียนแสดงออกถึงความรู้สึกน่าขยะแขยง

เรื่องราวกระจ่ฃายออกไปแล้ว อาจกล่าวได้ว่าตอนนี้ชื่อเสียงของตระกูลหยางเสียหายอย่างมาก พวกนี้ คือสิ่งที่หยางเฟยเฟยทำไปด้วยความโง่เขลา

“พี่ใหญ่ คุณต้องแก้แค้ให้ฉันนะ…...ฮือฮือฮือ......ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว!”หยางเฟยเฟยร้องให้ด้วยความเจ็บปวด

หยางจิ้งถอนหายใจ ตอบ:“คุณวางใจเถอะ หลังจากจัดการเตะฉีเติ่งเสียนออกไปก่อน หยางกวนกวนก็ทำอะไรไม่ได้ ฉันจะทำให้เขาตายอยู่ที่หน้าคุณ ฉันรับประกัน!”

หยางกวนกวนกัดฟันตอบ:“ฉีเติ่งเสียนก็ต้องตายเหมือกัน!”

หยางจิ้งตอบขรึมๆ:“การพิจารณาของเขาไม่มีทางที่จะผ่าน สิ่งที่รอเขาอยู่ ก็เป็นหนทางสู่ความตายเช่นกัน”

“ผู้รับผิดชอบการสอบเยี่ยเฟยหลิว เป็นหนึ่งในผู้มีฝีมือสูงที่สุดที่ฉันเคยเจอ

“อีกอย่างรองผู้คุมสอบ มี เยี่ยเฉิง ไป๋หลิ่ว จานซิง สามคนนี้ ยังเป็นผู้มีฝีมือสูงผู้ยิ่งใหญ่ที่มีเพียงหยิบมือเหมือนกัน

“ตระกูลจ้าวเลือกกำลังพลของผู้คุมสอบนี้มาโดยเฉพาะ เพียงเพื่อหยุดฉีเติ่งเสียนจากประตูของสำนักกรมยุทธทางการเมือง

หยางกวนกวนตกใจเอ่ย:เยี่ยเฉิง ใช่คนนั้นที่ฝึกดาบจิ่วกงไหม?ในอดีตมีคนนึง หนึ่งดาบข้ามตะวันออก เจียเพิง เทพดาบ ได้รับชัยชนะ26ครั้งและแพ้หนึ่งครั้ง!”

หยางจิ้งตอบ:“ไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใคร ไป๋หลิ่วและจางซิงอีกอย่างทั้งสองคน ชื่อเสียงไม่ดังเท่าเขา แต่ความสามารถ ก็ไม่ด้อยกว่าเลยด้วย”

“ส่วนเรือง มังกรกล้าหาญเยี่ยเฟยหลิว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแล้ว”

“มังกรกล้าหาญ”คือฉายาของเยี่ยหลิวเฟย เพราะว่านมือของเขามีดาบยาวเล่มนั้น“มังกรกล้าหาญ”

ตระกูลหยางครั้งนี้ มีความตั้งใจที่จะรับมือกับเรื่องนี้จริงๆ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง