มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 646

สรุปบท บทที่ 646 เทียนสิงเจี้ยน: มังกรผู้ทรงพลัง

สรุปเนื้อหา บทที่ 646 เทียนสิงเจี้ยน – มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู

บท บทที่ 646 เทียนสิงเจี้ยน ของ มังกรผู้ทรงพลัง ในหมวดนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จาง หลงหู อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ฉีเติ่งเสียนเปิดการประชุมที่กั่วเชี่ยวกรุ๊ป เนื้อหาหลักของการประชุมมีหยางกวนกวนเลขาประธานเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง

ถึงแม้สวีเอ้าเสียจะพูดตรงๆว่าความสามารถด้านธุรกิจของหยางกวนกวนโดยรวมแล้วยังขาดอ่อนหัด แต่ความสามารถในการทำงานของเขานับว่าไม่เลวเลย ยังไงก็ตาม ถ้าฉีเติ่งเสียนพอใจก็โอเคแล้ว

หลังจากเสร็จการประชุม ฉีเติ่งเสียนบอกถึงสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทให้กับเซี่ยงตงชิงผ่านทางโทรศัพท์

ช่วงนี้อารมณ์ของเซี่ยงตงชิงไม่ได้ดีเลย ตอบกลับไม่กี่คำแบบนิ่งๆแล้วก็วางโทรศัพท์ลงแล้ว

ฉีเติ่งเสียนประเมินว่าสาเหตุอาจจะเป็นเพราะลูงฟู่ล้มป่วยที่โรงพยาบาลหลายวัน ไม่รู้จริงๆว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากถ้าเขารู้ความจริง จะมีความรู้สึกแบบไหนกันนะ......

พึ่งจะวางโทรศัพท์กับเซี่ยงตงชิงไป ฉีเติ่งเสียนก็ได้รับโทรศัพท์จากอวี้เสี่ยวหลงทันที

“คุณจัดการเรื่องของบริษัทเสร็จแล้วใช่มั้ย แกล้งทำเป็นเจ๋งพอแล้วหรือยัง?ควรจะไปทดสอบแล้วใช่หรือไม่?”อวี้เสี่ยวหลงถามนิ่งๆ

“เชี่ย คุณเฝ้าระวังฉันอ่า!”ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะงง หลังจากนั้นโมโหแล้วพูด

อวี้เสี่ยวหลงเสียงเย็นชา พูด:“คุณพูดอะไรนะ?!”

ฉีเติ่งเสียนอึ้งไปครู่นึง พูด:“เวลาพูดฉันมีวรรคตอนอ่า คุณอย่าฟังผิดแล้วได้มั้ย?”

อวี้เสี่ยวหลงพูด:“รีบไปจัดการสอบให้เสร็จได้แล้ว อย่าเสียเวลา เวลาทางนี้ของฉันเร่งด่วน ไม่รู้ว่าพวกเขาจะเคลื่อนย้ายเฉินเลี่ยตอนไหน สามารถลงมือได้ทุกเวลา!”

ฉีเติ่งเสียนพูด:“เคเคเค คุณให้หลงย่าหนานมารับฉัน ฉันก็จะไป โอเคแล้วมั้ย?”

อวี้เสี่ยวหลงพูด:“คุณรออยู่ที่บริษัท”

ฉีเติ่งเสียนเรียกหยางกวนกวนมา และพูดกับเขา:“ฉันต้องไปเข้าร่วมการทดสอบแล้ว เธอไปมั้ย?”

“แน่นอนว่าต้องไป!”หยางกวนกวนแสดงออกด้วยท่าท่างตื่นเต้นดีใจ เขาไม่อยากพลาดการประลองการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมไหนเลย

“แต่ฉันไม่อยากพาเธอไป:”ฉีเติ่งเสียนส่ายหัวพูด

“มีสิทธิ์อะไร?!”หยางกวนกวนพูดด้วยความไม่พอใจ

“เพราะว่าเธอไม่ไม่น่าเชื่อถือ”ฉีเติ่งเสียนหัวเราะ

หยางกวนกวนพูดไม่ออก อดไม่ได้ที่จะแขวะด้วยคำพูด:“คนอีคิวต่ำ!”

ฉิเติ่งเสียนโมโหพูด:“ระหว่างเราสองคน ใครอีคิวต่ำ ไม่มีความคิด?”

หยางกวนกวนพูด:“ฉันไม่สน ยังไงก่อนหน้านี้คุณก็รับปากว่าจะพาฉันไปดูการต่อสู้ ฉันจะต้องได้ไป คุณหลอกฉันไม่ได้”

ฉีเติ่งเสียนพูด:“ฉันไม่ได้ผลประโยชน์อีกแล้ว ก็ไม่ทำไง”

หยางกวนกวนเสียใจจนเขาเม้มริมฝีปาก กระทืบเท้า พูด:“งั้นคุณคิดอยากจะทำยังไงล่ะ?”

ฉีเติ่งเสียนเห็นเขาเป็นแบบนี้รู้สึกว่าน่ารักเป็นพิเศษ ลุกขึ้นมา เข้าไปชิดเขา เอื้อมือไปจับคางของเธอ ใช้รอยยิ้มที่ตัวเองคิดว่าแปลกประหลาดยิ้มและพูดกับเขา :“ฉันอยากทำอะไร ในใจเลขาหยางไม่รู้หรอกหรอ?”

ถ้าหากพูดว่าการเลียนแบบในสิ่งที่เกินความสามารถตน แน่นอนว่าฉีเติ่งเสียนที่หนึ่งแน่

คิดอยากทำตัวเป็นประธานที่ใช้อำนาจตลอดทั้งวัน แต่น่าเสียดายมันไม่ใช่สไตล์แบบนั้น

“อย่าลงไม้ลงมือ พวกเราไม่สนิทกัน!”หยางกวนกวนสะบัดมือเขาของทิ้ง มีเสียง ฮึฮึ

ฉีเติ่งเสียนกลับได้คืบจะเอาศอก ทั้งตัวถูกกอดไว้ และเอ่ย:“ถ้าหากว่าวันนี้ฉันผ่านการทดสอบ อย่างงั้นพวกเราควรจะไปกินอารหารดีๆ ดื่มเหล้าดีๆกัน หลังจากนั้น ค่อยเฉลิมฉลองกัน?”

หยางกวนกวนได้ยินคำนี้ รู้สึกว่าสุดท้ายก็มีการเข้าใจแจ่มแจ้งบ้างแล้ว กล่าวว่า:“ยังไม่ใช่แค่การแสดงของคุณ!”

จริงๆแล้ว ทุกครั้งที่เขาและฉีเติ่งเสียนมีการสัมผัสใกล้ชัดกัน ในหัวใจมักจะเต้นเร็วผิดปกติ ความรู้สึกแบบนี้ ยากที่จะบรรยายด้วยความพูด

ตอนนี้ฉีเติ่งเสียนมีอีคิวที่สูงในการจับอารมณ์ในดวงตาของหยางกวนกวน ด้วยเหตุนี้ ไม่รีบไม่ร้อนค่อยๆเอาหน้าเข้าไปใกล้ชิด

หยางกวนกวนหลับตาลง คล้อยตามและเปิดริมฝีปากสีแดงเบาๆ

“ได้ อีกเดี๋ยวไปด้วยกันฉับฉัน ”หลังจากแยกกัน ฉันเติ่งเสียนไอหนึ่งเสียง พูดด้วยความเคร่งขรึม

หยางกวนกวนอดไม่ได้ที่จะกลอกตาใส่เขา คาดไม่ถึงว่ายังมีความรู้สึกไม่พอใจ......มันวิเศษมาก

ผ่านไปได้ไม่นาน หลงย่าหนานโทรศัพท์เข้ามา บอกกับฉีเติ่งเสียนว่าเขาถึงกั่วเชี่ยวกรุ๊ปแล้ว

ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะหันมามองที่เขา การสืบทอดความรู้และวัฒนธรรมจากบรรพุรุษสู่ลูกหลาน มีกลิ่นอายขงจื๊อ สนามรบเลือดเหล็ก มีกลิ่นอายการฆ่าฟัน มีความรู้สึกของศิลปะการต่อสู้เป็นธรรมชาติมาก!

หยางกวนกวนมาถึงแล้วจริงๆ สำหรับการรับรู้ความคิดศิลปะ สามารถเรียกได้ว่านำหน้าวิชามวยและกังฟูแล้ว

“ไม่แน่ว่า ลักษณะเจตาหมัดของเขา จะมีสักวันหนึ่งที่สามารถฝึกจนบรรลุถึงเปลี่ยนเซียนได้ “ฉีเติ่งเสียนคิดในใจ“เกรงว่านี่คงเป็นผู้หญิงคนแรกที่สามารถบรรลุถึงระดับนี้ได้”

ฉีเติ่งเสียนทั้งสามคนเมื่อเข้ามาที่โรงฝึก มันดึงดูดความสนใจของคนมากมายภายในโรงฝึก

เทียนสิงเจี้ยนโรงฝึกศิลปะการต่อสู้มีประเทศหัวกั๋วกรมยุทธการเป็นคนสร้าง ฟู่เฟิงหยุนตั้งชื่อจารึก ในครั้งนี้ สำหรับการสอบที่ถูกเชิญโดยนายทหารระดับสูง ก็ได้มาอยู่ที่นี่ณเวลานี้

ในวันธรรมดา ที่นี่ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นในการเข้ามาบำเพ็ญ

“นั่นคือผู้พันหลงย่าหนาน คนที่ตามติดนายพลอวี้ตลอด ความสามารถของเขา นับว่าแข็งแกร่งมาก!”

“ที่แท้ก็เป็นหลงย่าหนานนี่เอง......ที่มาของความสามารถของคนนี้ ส่วนมากมาจากการเข้าร่วมการทดสอบใช่มั้ย?”

“ได้ยินว่าอาจารย์ฟู่รับคนเข้ามารับตำแหน่งนายพลจัตวาแห่งกรมการเมือง ไม่น่าว่าอาจจะเป็นเขาแล้ว”

ทุกคนกำลังซุบซิบนินทาเกี่ยวกับสถานภาพของหลงย่าหนานและฉีเติ่งเสียน หลงย่าหนานมีชื่อเสียงโดยธรรมชาติ ยังไงก็ตาม หัวหน้าของเขาคืออวี้เสี่ยวหลง

ในหัวกั๋วแผนกกรมยุทธการมีมังกรห้าตัว อวี้เสี่ยวหลงคือหนึ่งในนั้น ยังเป็นหนึ่งในคนที่โด่งดังที่สุดอีก

เพราะว่า ในฐานะผู้หญิง ได้รับความสำเร็จเช่นนี้ มันเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย

“ในการทดสอบครั้งนี้มีทั้งหมดสี่รอบ แบ่งออกเป็นผู้คุมสามท่านและอีกหนึ่งท่านคือหัวหน้าผู้คุม ต้องได้รับการรับรองจากผู้คุมก่อน ก็จะเข้ารอบต่อไป ”หลงย่าหนานพาฉีเติ่งเสียนไปข้างหน้า สีหน้าเคร่งขรึม

“หัวหน้าผู้คุมสอบคุณรู้แล้วว่าเป็นใคร มังกรกล้าหาญเย่เฟยหลิว”

“และผู้คุมสสอบอีกสามคน พวกเขาล้วนธรรมดาทั่วไป คุณไม่ต้องกังวล โฟสกัสไปที่เย่เฟยหลิวก็พอแล้ว”

ระหว่างการสนทนา ก็ได้มาถึงสนามการต่อสู้ที่หนึ่ง

ได้ยินเสียงผู้หญิงที่ร่าเริ่งดังขึ้นมา:“ฉันไป๋หลิ่ว ที่จริงๆแล้วเป็นคนทั่วไปอ่า!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง