มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 653

สรุปบท บทที่653 มังกรกล้าหาญเย่เฟยหลิว: มังกรผู้ทรงพลัง

สรุปตอน บทที่653 มังกรกล้าหาญเย่เฟยหลิว – จากเรื่อง มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู

ตอน บทที่653 มังกรกล้าหาญเย่เฟยหลิว ของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองเรื่องดัง มังกรผู้ทรงพลัง โดยนักเขียน จาง หลงหู เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ผู้คนมากมายในสนาม มีเพียงเย่เฉิงเท่านั้นที่สามารถมองเห็นทางเข้าประตูได้มากที่สุด

ต่อให้เป็นหยางกวนกวนและหลงย่าหนานสองคนนี้ ก็มีความรู้สึกที่มองไม่เห็นทะลุปรุโปร่ง ท่าของทั้งสองคนเร็วมากจริงๆ สายตามตาไม่ทันเลย

จานซิงถูกหมัดฉีเติ่งเสียนต่อยเข้าที่แขนตรงหน้าอก รู้สึกเหมือนทั้งสองแขนกำลังจะแยกออกจากกันอย่างงั้น

“ชายคนนี้ แม้จะสู้ติดต่อกันสองรอบ เมื่อกี๊ที่ไล่ตามฉันก็ผลาญพลังไปเยอะมาก นึกไม่ถึงว่าพลังหมัด ยังแข็งแกร่งขนาดนี้อยู่?”จานซิงรู้สึกฟันเริ่มโยก เหมือนกับจะหลุดออกมา

เมื่อกี๊ที่เขาอยากจะเคลื่อนไหว ก็ได้เห็นฉีเติ่งเสียนฟาดหมัดลงไปอย่างรวดเร็วราวกับฟ้าแลบ!

อย่างไรก็ตาม ทำได้แค่รับมัน!

หมัดนี้ถูกบล็อกอีกครั้ง แต่เขารู้สึกว่า หมัดที่ทุบลงมานั้น กระทบตามแขนของเขาแล้วไหลเข้าสู่ร่างกาย หลังจากนั้นรู้สึกเหมือนโดนเข็มฉีดยายังไงอย่างงั้น พุ่งชนเข้าที่สองขาของเขา!

ท่าผ่าหมัดฝึกถึงระดับสูง หนึ่งหมัดออกไป สามารถตีจนคนยืนหยุดนิ่งได้ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ชั่วขณะ

พลังผ่าหมัดของฉีเติ่งเสียน ไม่นานก็บรรลุถึงระดับนี้แล้ว อีกทั้งสถานภาพยังเกินระดับอีก

จานซิงรู้ในทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกคิ รู้สึกเหมือนสองขาของตัวเองปักไปด้วยตะกั่ว แค่อยากจะเคลื่อนที่ก็ยากมาก

“คุณก็ตามไปเป็นเพื่อนพวกนั้นเถอะ!”ฉีเติ่งเสียนพูดขรึมๆ ขาขวายกขึ้น ราวกลับขวานใหญ่ที่กวาดออกไป

จานซิงอยากจะยกขากันไว้แต่มันไม่มีแรง ถูกฉีเติ่งเสียนเตะไปที่เข่า ทั้งตัวคนเปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่ที่โดนหัวขวานสับอย่างงั้น ล้มไปเลยข้างหนึ่ง!

ร่างกายพึ่งจะล้มไปครึ่งนึง ฉีเติ่งเสียนยกขาซ้าย และเตะกวาดมาอีกกระบวนท่า!

เข่าขาขวาของจานซิงถูกตีเข้าไปทันที ร่างกายล้มไปทางซ้ายอีกครั้ง!

“ปัง!”

ร่ายกายของเขาหนักอึ้งล้มไปที่พื้น ขาของเขาทั้งสองข้างบิดเบี้ยวจนโค้งเพราะถูกท่าเตะกวาดขาถึงสองครั้ง เจ็บจนร้องออกมา เสียงดังออกมาจากปากเขา

ฉีเติ่งเสียนเก็บขาของตัวเองด้วยความที่ไร้อารมณ์ เขย่าๆเบาๆ หัวเราะแล้วพูดขรึมๆ:“ให้หมาของตระกูลจ้าวมาจัดการฉัน ก็สามารถเป็นได้อย่างแค่ในสนามนี้ ชีวิตที่เหลือ คุณก็เป็นได้แค่คนไร้ค่าแล้วกัน!”

จานซิงทรุดอยู่ที่พื้น ปิดไปที่ขาของตัวเอง เจ็บจนชักไปทั้งตัว

เขารู้สึกถึง มีของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากกระดูกแล้ว

นั่นคือไขกระดูก

ฉีเติ่งเสียนสองขานี้ เตะเข้าไปที่โครงกระดูกของเขาโดยตรง เส้นเอ็นใหญ่ก็ถูกบดทำลายจนละเอียด ไม่ว่าใครก็ตามก็ไม่สามารถต่อสองขานี้ได้แล้ว

เย่เฉิงเห็นฉากนี้ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบาๆ ฉีเติ่งเสียนลงมือโหดร้ายเกินไป ไม่ได้ปราณีอะไรเลย

ก่อนอื่นเขาควักดวงตาของไป๋หลิ่ว ต่อมาทำให้ปอดของเขาเจ็บหนัก ตอนนี้ เตะขาทั้งคู่ของจานซิงจนเละยับแล้ว……

ทหารพวกนี้ของเขา แทนที่จะกลายเป็นขยะพวกนี้ ไม่สู้กับตายไปอย่างมีความสุขดีกว่า

“ไม่รู้ว่าเย่เฟยหลิวจะจัดการเขาได้ไหม พลังร่างกายของเขาตอนนี้ ควรจะถูกผลาญไปไม่น้อยแล้ว อีกอย่าง เย่เฟยหลิวเป็นหนึ่งในสี่คนของพวกเรา ที่มีพลังสูงที่สุด ”เย่เฉิงคิดในใจ

จานซิงเจ็บปวดรวดร้าวมองไปที่ฉีเติ่งเสียน พูด:“คุณลงมืออย่างไม่ปราณี ไม่ช้าก็เร็วกรรมก็จะตามสนอง!”

ฉีเติ่งเสียนเอ่ยอย่างเย็นชา:“พวกคุณฟังคำสั่งของตระกูลจ้าวมาจัดการฉัน ฉันต้องเป็นพระแม่ล้มเหลวอีก?ไม่ฆ่าพวกคุณ นับว่าฉันมีจิตใจเมตากรุณาพอแล้ว!”

ฉีเติ่งเสียนก็ไม่อยากให้ตัวเองมีชื่อเสียงฉาวโฉ่เสียหาย ไป๋หลิ่ว เย่เฉิง จานซิงสามคนนี้ไม่ว่าจะพูดยังไงทั้งหมดก็เป็นผู้คุมสอบ เขาเอาคนมาให้ฉันฆ่า อย่างงั้นผลกระทบจะใหญ่มากเกินไป

ขยะก็ดีมากแล้ว หลังจากที่พวกเขากลายเป็นขยะ ก็ไม่มีทางที่จะไปเป็นตัวแทนตระกูลจ้าวสร้างเรื่องอีก เป็นเสือที่ขวางทางไม่ได้อีกแล้ว

“คุณสู้ในรอบที่สามต่อ มันใช้พลังกายที่นี่ไปเยอะมากแล้ว รอบที่สี่คุณต้องตายแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย!”จานซิงสาปแช่งอย่างดุเดือด

“เย่เฟยหลิวใช่มั้ย? เขาทำตัวย่อหลบเหมือนหนูเป็นคนสุดท้ายก็ไม่เป็นไร ฉันเคยพูดไปแล้ว ฉันจะตีให้ฟันทั้งปากร่วงเลย ”ฉีเติ่งเสียนพูดนิ่งๆ จริงๆไม่ได้สนใจกับเรื่องนี้

หลงย่าหนานในใจอดไม่ได้ที่จะเคารพฉีเติ่งเสียนขึ้นมา ตระกูลจ้าวใช้เล่ห์เหลี่ยม เปลี่ยนคนที่มีพลังมากมาเป็นผู้คุมสอบอย่างเงียบๆ แต่ฉีเติ่งเสียนผ่านการทดสอบราวกับสับแตงและผักอย่างงั้น

หลังจากผ่านประตู ร่างสูงของใหญ่ของเย่เฟ่หลิวคือสิ่งที่เห็น

เขายืนอยู่ข้างในนั้น มีปืนขนาดใหญ่ยาวกว่าสองเมตรอยู่ข้างๆ ปลายปืนสะท้อนแสงอันเยือกเย็น และลำกล้องนั้นเพราะว่าการเช็ดถูหลายปืนทำให้มันผิวเรียบเนียนอย่างไม่ปกติ

เขาเพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น มันทำให้คนรู้สึกถึงความแข็งแกร่งและน่ากลัว!

“คิดไม่ถึงว่าคุณจะเก่งขนาดนี้ ถึงกับชนะติดต่อกันสามรอบ”หลังจากที่เย่เฟยหลิวเห็นฉีเติ่งเสียน ก็อดไม่ได้ที่จะพูดนิ่งๆ

“ไม่อยากพูดจาไร้สาระกับคุณ ฉันแค่อยากจะตีคุณจนฟันร่วงหมดปากแค่นั้น!”ฉีเติ่งเสียนแสยะปากทันที สายตามองลงไปที่ปืนกระบอกใหญ่ของเย่เฟยหลิว

“ครั้งก่อนมีคนนึงชื่อว่าสวีอวี้เจียนั่นก็ใช้ปืนใหญ่ ไม่รู้ว่าคุณเก่งกว่าเขายังไง?”

“หวังว่าคุณจะแข็งแกร่งกว่าเขานิดหน่อย!”

สวีอวี้เจียนั่นคือคนของตระกูลสวีในเมืองหลวง ปกป้องตระกูลสวีมาหลายปี หนึ่งร่างฝีมือสูงมาก แต่สุดท้าย ยังไม่ใช่ถูกฉีเติ่งเสียนทุบตีจนเป็นขยะหรอกหรอ?

เย่เฟยหลิวพูดขรึมๆ:“คุณสู้ติดต่อกันสามรอบ ถ้าฉันใช้ปืนอีก สำหรับคุณ ก็ไม่ยุติธรรมเลย วันนี้ ฉันมือเปล่าสู้กับคุณ!”

ฉีเติ่งเสียนเดินสบายๆเข้าไปที่สนาม เอ่ย:“ไร้สาระไม่ต้องพูดเยอะ รีบๆเริ่มเถอะ ฉันเหนื่อยนิดหน่อยแล้ว!”

เย่เฟิยหลิวโค้งคำนับ พูด:“เชิญ!”

ฉีเติ่งเสียนพูดเฉื่อยๆ:“เชิญ!”

ผู้ชมที่อยู่ที่นี่ทั้งหมดอดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจ พวกเขาจ้องมองทั้งสองคนบนสนามอย่าง

ใกล้ชิด

การต่อสู้นี้ นี่แหละถึงจะเป็นไฮไลท์ที่แท้จริง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง