ฉินถางหู่บอกว่าลานประลองสุนัขของตระกูลเจิ้งทำเงินได้ทุกวัน ซึ่งเธอไม่ได้พูดเกินจริงเลย
คุณนายสามคนนี้อยู่ในอันดับต้นๆ ของตระกูลเจิ้งทั้งในด้านการวางแผนและวิธีการ เจิ้งชานหมิง ผู้นำตระกูลเจิ้งรักเธอมาก ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ยกลานประลองสุนัขที่ทำกำไรได้มากที่สุดให้เธอดูแล
คุณนายสามผู้นี้เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติดีจึงทำทุกอย่างได้ดี เธอรู้จักคนดังมากมายและสถานะของเธอก็ขึ้นสูงตามไปด้วย
ตอนนั้นคุณนายสามยืมเงินหกร้อยล้านจากเหวินหย่งฟู แต่เมื่อเหวินหย่งฟูเสียชีวิต เธอก็ไม่ยอมรับเรื่องหนี้
ตระกูลเหวินที่ไม่มีเหวินหย่งฟูก็เป็นแค่เสือกระดาษที่ไร้เขี้ยวเล็บ ยิ่งไปกว่านั้น ฉินถางหู่และเหวินซือซุ่นก็ยังปล่อยให้ฉีเติ่งเสียนหลุดมือไป
หลังจากขับรถด้วยความเร็วประมาณสี่สิบนาทีและข้ามเขตมา ในที่สุดก็ถึงลานประลองสุนัข
พวกคนระดับสูงพวกนี้มีชีวิตที่สะดวกสบายมานานเกินไปและอยากหาความตื่นเต้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะชอบรายการที่นองเลือดและโหดร้ายอย่างการประลองสุนัข
ฉีเติ่งเสียนคิดว่ามวยใต้ดินยังพอได้ แต่เขาไม่ชอบการประลองสุนัขอะไรพรรค์นี้เอาเสียเลย
มนุษย์ชอบยกตัวเองให้สูงส่ง ก็เห็นๆ กันอยู่ว่ามนุษย์ไม่ใช่เทพเจ้า แต่ก็ยังชอบบงการชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตอื่นราวกับเป็นเทพเจ้า
“ที่นี่คือลานประลองสุนัขของตระกูลเจิ้ง ถึงภายนอกจะดูเหมือนโรงงานโทรมๆ แต่การตกแต่งภายในกลับหรูหรากว่าไนต์คลับชั้นนำในโมตูเสียอีก!” ฉินถางหู่ชี้ไปที่โรงงานเก่าขนาดใหญ่ตรงหน้าและกระซิบ
“ตระกูลเจิ้งยังกลัวเรื่องนี้อีกเหรอ” ฉีเติ่งเสียนถาม
“ยังไงมันก็เป็นธุรกิจสีเทา ต้องเอาเรื่องอื่นมาบังหน้า ทำให้คนเบื้องบนเห็น!” ฉินถางหู่พูดและยิ้มอย่างจนปัญญา
“เหมือนโรงมวยที่อาจารย์ฉันเปิดนั่นแหละ บอกว่าสอนมวย แต่จริงๆ มีแข่งมวยใต้ดินทุกวัน”
“เพียงแต่ว่าตอนนี้จะจัดแข่งแต่ละครั้งก็ช่างยากเย็น มักจะมีคนมาขัดขวางอยู่เสมอจึงทำเงินไม่ได้เลย...”
ฉีเติ่งเสียนพูดนิ่งๆ “งั้นสิ่งแรกที่ผมต้องทำคือโค่นธุรกิจสีเทาพวกนี้ ในสังคมปัจจุบัน แม้ว่าธุรกิจสุจริตจะทำเงินได้ช้า แต่มันก็ไม่ทำให้อดตาย!”
ตอนที่เขายังเด็ก ฉีปู้อวี่เคยเตือนว่าคนที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงนักเลงต้องตายด้วยคมมีดไม่ช้าก็เร็ว
แล้วเขายังได้ยินเสียงความขมขื่นมากมายในเรือนจำโยวตู ดังนั้นเขาจึงระมัดระวังและอยู่ห่างจากสิ่งเหล่านี้
นี่เองก็เป็นสิ่งที่เขาชื่นชมเซี่ยงตงฉิง เธอไม่เคยเล่นสกปรกเหมือนหู่เหมินกรุ๊ป แต่ก็สามารถพาบริษัทในเครือให้ก้าวหน้าได้
“ความจริง ถึงเราไม่ทำก็มีคนอื่นทำอยู่ดี” ฉินถางหู่กล่าว
“ผมเกลียดเรื่องไร้สาระแบบนี้ที่สุด” ฉีเติ่งเสียนพูด “บนโลกนี้มีคนเป็นขโมยเป็นโจรมากมาย ทำไมคุณไม่ไปปล้นบ้างล่ะ”
ฉินถางหู่ทำให้เขาพูดไม่ออก ในความเป็นจริงแล้วสาขาย่อยของหลงเหมินส่วนใหญ่มีธุรกิจสีเทาเพราะมีรายได้มากเกินไป
ที่ทางเข้าลานประลองสุนัขมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าอยู่ เมื่อเขาเห็นฉินถางหู่ เขาก็ส่ายหัว
“คุณฉิน คุณมาอีกแล้ว...ช่วงนี้คุณนายสามของเราไม่ว่าง ไม่รับแขกครับ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เห็นได้ชัดว่ารู้จักฉินถางหู่กล่าวอย่างจนปัญญา
“ไม่เป็นไร วันนี้พวกเรามาเล่นพนัน มาเสียเงิน” ฉีเติ่งเสียนกล่าว
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองมองหน้ากันและปล่อยให้ทั้งสองเข้าไปด้านใน
หลังจากเดินผ่านทางเดินที่ทรุดโทรมและเข้าประตูไป ทัศนียภาพภายในก็ดูใหม่เอี่ยม!
โต๊ะหรูรุ่นใหม่ล่าสุด โคมไฟระย้าที่งดงาม พนักงานในชุดยูนิฟอร์มแบบเดียวกัน...
“จิ๊ๆ ไอ้ฉีคนนี้ดูบ้านนอกไปเลย!” ฉีเติ่งเสียนตะลึงเมื่อเห็นภาพนี้
การตกแต่งของที่นี่เกือบจะโอเวอร์กว่าวิลล่าของเซี่ยงตงฉิง มันหรูหรามาก โดยเฉพาะตู้เก็บไวน์ขนาดใหญ่ที่มีไวน์ชั้นดีทุกชนิด ไวน์ที่ถูกที่สุดก็ราคาหลายพันและราคาแพงที่สุดอาจจะหลายแสน
ไหนจะโซฟาหนังลูกวัวที่วางอยู่ทุกที่ งานฝีมือแบบนั้น มองแวบเดียวก็รู้ว่าแพง...
แม้แต่เครื่องแบบที่บริกรสวมใส่ก็ยังพอดีตัวอย่างสุภาพซึ่งน่าจะตัดตามบุคคล
ฉินถางหู่พูดขึ้นว่า “ยูนิฟอร์มพวกนี้ตัดเย็บโดยช่างตัดเสื้อแฮนด์เมดในอิตาลี แต่ละชุดราคาหลายหมื่นหยวน”
ฉีเติ่งเสียนถามว่า “ทำปืนใหญ่อิตาลีได้ไหม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...