สรุปตอน บทที่ 665 คืนเงิน – จากเรื่อง มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู
ตอน บทที่ 665 คืนเงิน ของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองเรื่องดัง มังกรผู้ทรงพลัง โดยนักเขียน จาง หลงหู เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
“แกมันรนหาที่ตาย!”
จ้าวมั่นเอ๋อร์ตะโกนอย่างรุนแรง พร้อมกับลุกขึ้นจากโซฟา
“ปล่อยหมาไปกัดพวกมันให้ตายไปเลย!”
จ้าวมั่นเอ๋อร์โบกมือของเธอและชี้ไปที่ฉีเติ่งเสียนและฉินถางหู่
ชายทั้งสามปล่อยเชือกสุนัขในมือทันที สุนัขที่ร้ายกาจทั้งสามก็รู้ว่าพวกมันต้องจัดการกับใคร ดังนั้นพวกมันจึงรีบวิ่งไปตรงไปที่ฉีเติ่งเสียนายโดยตรง
ในเวลานั้นฉินถางหู่ก็รู้สึกประหม่าขึ้น ทันทีที่เธอกำลังจะลงมือ ฉีเติ่งเสียนก็ล้วงกระเป๋าและหยิบปืนพกออกมายิง
“ปัง!ปัง!ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้นสามนัด สุนัขทั้งสามตัวก็ร่วงลงกับพื้นทันที
สิ่งนี้ทําให้ฉินถางหู่ตกตะลึง ฉีเติ่งเสียนมองไปที่สีหน้าประหลาดใจของเธอและยิ้มและพูดว่า: “สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว!”
ยังไม่ทันจะพูดจบ ลูกน้องของจ้าวมั่นเอ๋อร์ก็หยิบปืนพกออกมาจากเสื้อของแต่ละคน พร้อมกับเล็งไปที่ฉีเติ่งเสียนและฉินถางหู่ทันที
สีหน้าของฉีเติ่งเสียนแข็งทื่อ เขาไม่สามารถหัวเราะออกมาได้
ไม่ว่าศิลปะการต่อสู้กังฟูจะเก่งแค่ไหน ถ้าถูกรายล้อมไปด้วยปืนมากมายแบบนี้ ก็คงจะถูกยิงจนพรุนแน่!
“จบแล้ว สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว!” ฉินถางหู่รู้สึกหดหู่มาก ต้องตายแน่ๆ
จ้าวมั่นเอ๋อร์หัวเราะเยาะและพูดกับฉีเติ่งเสียนว่า: “สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว!”
ฉีเติ่งเสียนกระแอมอยู่สองครั้ง ก่อนจะโยนปืนในมือลงบนพื้นแล้วพูดว่า : “ฮ่าฮ่าฮ่า คุณนายสามนี่ชอบล้อเล่นนะ ทำไมถึงปล่อยให้สุนัขมากัดเราได้อย่างไร? อย่างมากที่สุดก็ไม่คืนเงินก็เท่านั้นไม่ใช่เหรอ!”
จ้าวมั่นเอ๋อร์เดินเข้ามาอย่างเฉยเมยและพูดว่า: “นายมันเป็นหมาชั้นต่ำ กล้ามายิงสุนัขของฉันต่อหน้าฉันได้อย่างไร?”
“นายรู้ไหมว่าใครเป็นคนเลี้ยงเลี้ยงบูลด็อกตัวนี้?”
“เอาชีวิตนายมาแลกก็ไม่สามารถชดใช้ได้!”
คราวนี้จ้าวมั่นเอ๋อร์โกรธมาก เพราะคุณชายคังแห่งเมืองหลวงเป็นคนมอบบูลด็อกตัวนี้มาให้เธอ
ถ้าเกิดมันตายในลานประลอง เธอก็จะไม่ได้ว่าอะไร แต่มันถูกคนอื่นยิงมันตาย…..ถ้าเกิดคุณชายคังโกรธขึ้นมา เธอจะรับมืออย่างไง
“มันก็เป็นแค่หมาไม่ใช่เหรอ? ทุกคนวางปืนลงเถอะ” ฉีเติ่งเสียนะพูดด้วยรอยยิ้ม
“ใครจะไปยิ้มหัวเราะกับนาย?ไอ้หน้าหมา!” จ้าวมั่นเอ๋อร์โกรธมาก เธอเดินตรงไปที่ฉีเติ่งเสียน พร้อมกับยกมือขึ้นเพื่อจะตบไปที่หน้าเขา
แต่ฉีเติ่งเสียนนั้นกำลังรอจังหวะของเธออยู่แล้ว เขายื่นมือออกไปดั่งสายฟ้าแลบ ป้องกันมือของจ้าวมั่นเอ๋อร์ พร้อมกับล็อกคอของเธอเอาไว้
ลูกน้องที่อยู่รอบข้างยังไม่ทันจะได้สติ จ้าวมั่นเอ๋อร์ก็ตกไปอยู่ในมือของฉีเติ่งเสียนเรียบร้อยแล้ว
ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ไม่เคยมีใครตบหน้าฉันได้ แล้วเธอคิดว่าเธอเป็นใคร?”
ใบหน้าของจ้าวมั่นเอ๋อร์ซีดลง เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าฉีเติ่งเสียนจะกล้าต่อสู้กลับโดยการจับเธอไว้เป็นตัวประกัน จากการถูกปิดล้อมด้วยปืนจำนวนมากขนาดนี้!
“ปล่อยคุณนายสามเดี๋ยวนี้!”
เหล่าบรรดาลูกน้องต่างตะโกนคำรามออกมา
ฉีเติ่งเสียนกล่าวว่า: “ไร้สาระ พวกนายคิดว่าฉันจะปล่อยเธอไหม?”
“……”
เวลานั้นทุกคนต่างพูดอะไรไม่ออก
เมื่อฉินถางหู่เห็นว่าเขาจับจ้าวมั่นเอ๋อร์ได้แล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะโล่งใจ อย่างน้อยเธอก็จับตัวประกันไว้ได้!
จ้าวมั่นเอ๋อร์ยังคงอวดดีและพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชาว่า: “นายฆ่าสุนัขของคุณชายคัง แล้วยังมากล้าอวดดีในลานประลองสุนัขของฉันอีก สิบชีวิตของนายไม่เพียงพอสําหรับที่จะชดใช้”
“อืม” ฉินถางหู่ตอบรับ ก่อนจะวางสาย
แม้ว่าเหวินซือซุ่นจะเคยขัดแย้งกับฉีเติ่งเสียนมาก่อน แถมยังเคยโดนเขาทำร้านจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ตอนนี้เขากําลังช่วยแก้ไขความต้องการเร่งด่วนของเขา เขาจึงไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไร
ฉินถางหู่กระซิบว่า : “เราควรถอนตัวได้หรือยัง?”
ฉีเติ่งเสียนพูดว่า: “การแก้ปัญหามันต้องแก้ให้ขาวสะอาด! เธออยากจะให้คนของคุณนายสามเอาปืนยาวไปจ่อหน้าบ้านเจ้านายของเธอเหรอ?”
ทันทีที่ฉินถางหู่หันหน้าไป เธอก็เห็นความขุ่นเคืองและสีหน้าที่เยาะเย้ยของจ้าวมั่นเอ๋อร์ ทันใดนั้นเธอก็ตัวสั่น
“เงิน ฉันให้เธอไปแล้ว ปืนก็โยนทิ้งไปแล้ว นายจะปล่อยฉันได้หรือยัง?” จ้าวมั่นเอ๋อร์ถามอย่างเย็นชา
ฉีเติ่งเสียนผลักเธอไปที่โซฟา จากนั้นเขาก็ก้มลงและหยิบปืนพกขึ้นมา เขายิ้มและพูดว่า : “ถ้าเธอทำอย่างนี้ตั้งแต่แรกมันก็จบแล้วไหม? ทำไมต้องทำให้มันวุ่ยวายด้วย?”
จ้าวมั่นเอ๋อรแตะที่มุมปากของเธอและรู้สึกเจ็บปวดที่ใบหน้า เธอเยาะเย้ยและพูดว่า : “รับเงินไปแล้ว แต่ฉันเกรงว่าพวกนายจะไม่ได้ใช้ชีวิตนะสิ!”
“คุณนายสาม คุณชายคังแล้วครับ!”
ในเวลานี้ ลูกน้องคนหนึ่งก็เข้ามารายงานสถานการณ์
จ้าวมั่นเอ๋อร์พูดทันทีว่า : “เชิญคุณชายคังเข้ามา!”
ฉินถางหู่มองไปยังฉีเติ่งเสียน เพื่อสื่อว่าเรารีบหนีไปให้เร็วที่สุด
ฉีเติ่งเสียนกลับหัวเราะและพูดว่า: “ไม่ต้องรีบ คุณชายคังคนนี้อาจจะเป็นคนที่ฉันคุ้ยนเคยก็ได้?”
“คุ้นเคย? นายฆ่าสุนัขของเขา วันนี้ถ้านายไม่ถูกสับเป็นอาหารเลี้ยงสุนัขในลานประลองสุนัขของเรา ก็อย่ามาเรียกว่าเป็นคนตระกูลจ้าวเลย!” จ้าวมั่นเอ๋อร์กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เคร่งขรึม
ก่อนที่เสียงจะสิ้นสุดลง ก็ได้ยินเสียงของคณชายคังดังขึ้นมา
“ใครมันยิงหมาฉัน โผล่หน้าออกมาเดี๋ยวนี้ ฉันจะฆ่ามันเอง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...