“คุณฉี ตอนนี้เราจะทำยังไงดี”
ฉินถางหู่ได้เงินแล้วและมีความคิดที่จะถอย ไม่อยากต่อสู้กับจ้าวมั่นเอ๋อร์อีกต่อไป
ฉีเติ่งเสียนโบกมือและหันไปทางจ้าวมั่นเอ๋อร์ เขายิ้มและเอ่ยว่า “คุณกับตระกูลจ้าวแห่งเมืองหลวงมีความสัมพันธ์กันยังไงเหรอ”
จ้าวมั่นเอ๋อร์มีสีหน้าเย็นชาและเอ่ยว่า “เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับคุณ คุณคู่ควรแล้วหรือที่จะมาถามประวัติของฉัน”
ฉีเติ่งเสียนส่ายหน้าและเอ่ยว่า “ผมก็แค่สงสัย ว่าผู้หญิงจากตระกูลจ้าวแห่งเมืองหลวง ทำไมถึงยอมมารับใช้ตระกูลกระจ้อยร่อยอย่างตระกูลเจิ้งถึงโมตู”
ตระกูลเจิ้งกระจ้อยร่อย?!
คนที่อยู่ตรงนี้อดตกใจและอดรู้สึกตลกไม่ได้เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูด
ตระกูลเจิ้งเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ผู้สง่าผ่าเผยแห่งโมตู แต่ฉีเติ่งเสียนกลับบรรยายด้วยคำว่า “กระจ้อยร่อย” งั้นเหรอ?
ทว่าความจริงก็เป็นเช่นนั้น ไม่ว่าตระกูลเจิ้งจะสุดยอดมากแค่ไหน เมื่อเทียบกับตระกูลแห่งเมืองหลวงแล้วก็ยังนับว่าห่างชั้นกันอยู่ดี
“คุณจ้าว คุณโทรมาได้ถูกเวลาจริงๆ” เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเงาของใครบางคน เป็นคนที่ฉีเติ่งเสียนคุ้นเคยมาก
ทันทีที่เขาตรงเข้ามา บรรยากาศทั่วทั้งห้องโถงก็คล้ายจะเย็นลง!
แววตาของฉีเติ่งเสียนเปลี่ยนไปเป็นเยือกเย็น เขาเอ่ยช้าๆ ว่า “พบกันอีกแล้วนะ หงเทียนตู!"
ทันทีที่เห็นฉีเติ่งเสียน แววความตกตะลึงก็ฉายวาบขึ้นมาบนใบของหงเทียนตูเช่นกัน จากนั้นเขาจึงก้มศีรษะพร้อมประสานมือและเอ่ยว่า “อาจารย์ฉี!"
คนที่จ้าวมั่นเอ๋อร์เชิญมาคือหงเทียนตูจริงๆ!
ฉินถางหู่ไม่เคยพบหงเทียนตูมาก่อน แต่เมื่อได้พบเป็นครั้งแรกก็รู้สึกขนลุกขนพอง ขนทั่วร่างกายลูกชูขึ้นมา หนังศีรษะรู้สึกชาไปหมด ร่างกายก็สั่นสะท้านขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
“คะ... คนคนนี้ดูน่ากลัวมาก ดูเป็นคนที่น่ากลัวที่สุดตั้งแต่ที่ฉันเคยเจอ! เขาเป็นใคร? จ้าวมั่นเอ๋อร์เชิญคนแบบนี้มาได้จริงๆ หรือ!” ฉินถางหู่รู้สึกสั่นไหวอยู่ภายในใจ
จ้าวมั่นเอ๋อร์เอ่ยอย่างเย็นชาว่า “คุณหงรู้จักคนคนนี้ด้วย!"
หงเทียนตูยิ้มน้อยๆ และเอ่ยว่า “อาจารย์ฉีเป็นคนแข็งแกร่งคนหนึ่ง คราวก่อนเกือบจะร่วมมือกันกับมังกรแห่งตระกูลอวี้หยุดผมไว้ น่าเสียดายที่ผมมีโอกาสแล้วคว้าไว้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นตอนนี้กระดูกของเขาคงจะเน่าเปื่อยไปหมดแล้ว!”
คราวก่อนหงเทียนตูใช้โอกาสตอนที่ร่างกายของฉีเติ่งเสียนไร้พลังมาสังหาร แต่สุดท้ายกลับถูกนักแม่นปืนจากกองทัพราตรีนิรันดร์ซุ่มโจมตี เขาจึงทำการไม่สำเร็จ
เมื่ออยู่ต่อหน้านักแม่นปืนระดับนั้นถึงสามคน ต่อให้ฝีมือการต่อสู้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า การฆ่าฉีเติ่งเสียนก็ยังเป็นเรื่องที่ยากมากอยู่ดี
หลังจากได้ยินคำบอกเล่าของหงเทียนตู สีหน้าของจ้าวมั่นเอ๋อร์ก็เคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย
มังกรแห่งตระกูลอวี้จะเป็นใครไปได้นอกจากอวี้เสี่ยวหลง เทพธิดาแห่งสงครามผู้โด่งดัง
เธอคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่ฉินถางหู่พามา จะมีความเกี่ยวข้องกับอวี้เสี่ยวหลง เธอมองผิดไปจริงๆ!
ในเวลาเดียวกันนี้ ฉีเติ่งเสียนเองก็ยอมรับเหมือนกันว่าเขามองผิดไป เขาเองก็ไม่คิดว่าจ้าวมั่นเอ๋อร์จะเชิญคนฝีมือดีอย่างหงเทียนตูมาได้
สำหรับหงเทียนตู อาจเรียกได้ว่าเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดที่ฉีเติ่งเสียนเคยพบ เคยได้ชื่อว่าเป็น “อรหันต์ประจำชาติ”
“ผมควรเรียกคุณว่าคุณนายสามหรือว่าคุณจ้าวดีล่ะ? แล้วก็นะ ผมควรจะบอกคุณไหม ว่าหงเทียนตูเป็นอาชญากรคนสำคัญในประเทศผม การที่คุณไปเกี่ยวข้องกับเขา มีสิบชีวิตก็อาจจะไม่เพียงพอ” ฉีเติ่งเสียนเอ่ยพลางยิ้มเล็กน้อย
“ใครชื่อหงเทียนตู ฉันไม่ได้ชื่อหงเทียนตู” หงเทียนตูเอ่ยด้วยรอยยิ้มน้อยๆ
ตอนนี้ฉีเติ่งเสียนแน่ใจแล้วว่าหงเทียนตูเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับอิทธิพลของตระกูลจ้าว หากไม่ใช่สุนัขรับใช้ก็เป็นพันธมิตรหุ้นส่วนที่สำคัญ
ฉีเติ่งเสียนยิ้มแยกเขี้ยวและเอ่ยว่า “พอรู้ว่านายยังอยู่ในโมตูฉันก็ค่อยโล่งใจ! คราวก่อนนายคิดจะฆ่าฉัน คราวนี้ฉันควรจะเป็นฝ่ายตามล่านายบ้างแล้วใช่ไหม”
หงเทียนตูมองฉีเติ่งเสียนและบอกว่า “กลิ่นยาจีนแรงจริงๆ ดูเหมือนอาการบาดเจ็บของอาจารย์ฉีจะยังไม่หายดี? อยากให้ช่วยออกแรงไหม”
ฉีเติ่งเสียนตอบทันทีว่า “ดีเลย มาสิ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...