สรุปเนื้อหา บทที่ 667 การพบกันของสองบุรุษ – มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู
บท บทที่ 667 การพบกันของสองบุรุษ ของ มังกรผู้ทรงพลัง ในหมวดนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จาง หลงหู อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
“คุณฉี ตอนนี้เราจะทำยังไงดี”
ฉินถางหู่ได้เงินแล้วและมีความคิดที่จะถอย ไม่อยากต่อสู้กับจ้าวมั่นเอ๋อร์อีกต่อไป
ฉีเติ่งเสียนโบกมือและหันไปทางจ้าวมั่นเอ๋อร์ เขายิ้มและเอ่ยว่า “คุณกับตระกูลจ้าวแห่งเมืองหลวงมีความสัมพันธ์กันยังไงเหรอ”
จ้าวมั่นเอ๋อร์มีสีหน้าเย็นชาและเอ่ยว่า “เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับคุณ คุณคู่ควรแล้วหรือที่จะมาถามประวัติของฉัน”
ฉีเติ่งเสียนส่ายหน้าและเอ่ยว่า “ผมก็แค่สงสัย ว่าผู้หญิงจากตระกูลจ้าวแห่งเมืองหลวง ทำไมถึงยอมมารับใช้ตระกูลกระจ้อยร่อยอย่างตระกูลเจิ้งถึงโมตู”
ตระกูลเจิ้งกระจ้อยร่อย?!
คนที่อยู่ตรงนี้อดตกใจและอดรู้สึกตลกไม่ได้เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูด
ตระกูลเจิ้งเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ผู้สง่าผ่าเผยแห่งโมตู แต่ฉีเติ่งเสียนกลับบรรยายด้วยคำว่า “กระจ้อยร่อย” งั้นเหรอ?
ทว่าความจริงก็เป็นเช่นนั้น ไม่ว่าตระกูลเจิ้งจะสุดยอดมากแค่ไหน เมื่อเทียบกับตระกูลแห่งเมืองหลวงแล้วก็ยังนับว่าห่างชั้นกันอยู่ดี
“คุณจ้าว คุณโทรมาได้ถูกเวลาจริงๆ” เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเงาของใครบางคน เป็นคนที่ฉีเติ่งเสียนคุ้นเคยมาก
ทันทีที่เขาตรงเข้ามา บรรยากาศทั่วทั้งห้องโถงก็คล้ายจะเย็นลง!
แววตาของฉีเติ่งเสียนเปลี่ยนไปเป็นเยือกเย็น เขาเอ่ยช้าๆ ว่า “พบกันอีกแล้วนะ หงเทียนตู!"
ทันทีที่เห็นฉีเติ่งเสียน แววความตกตะลึงก็ฉายวาบขึ้นมาบนใบของหงเทียนตูเช่นกัน จากนั้นเขาจึงก้มศีรษะพร้อมประสานมือและเอ่ยว่า “อาจารย์ฉี!"
คนที่จ้าวมั่นเอ๋อร์เชิญมาคือหงเทียนตูจริงๆ!
ฉินถางหู่ไม่เคยพบหงเทียนตูมาก่อน แต่เมื่อได้พบเป็นครั้งแรกก็รู้สึกขนลุกขนพอง ขนทั่วร่างกายลูกชูขึ้นมา หนังศีรษะรู้สึกชาไปหมด ร่างกายก็สั่นสะท้านขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
“คะ... คนคนนี้ดูน่ากลัวมาก ดูเป็นคนที่น่ากลัวที่สุดตั้งแต่ที่ฉันเคยเจอ! เขาเป็นใคร? จ้าวมั่นเอ๋อร์เชิญคนแบบนี้มาได้จริงๆ หรือ!” ฉินถางหู่รู้สึกสั่นไหวอยู่ภายในใจ
จ้าวมั่นเอ๋อร์เอ่ยอย่างเย็นชาว่า “คุณหงรู้จักคนคนนี้ด้วย!"
หงเทียนตูยิ้มน้อยๆ และเอ่ยว่า “อาจารย์ฉีเป็นคนแข็งแกร่งคนหนึ่ง คราวก่อนเกือบจะร่วมมือกันกับมังกรแห่งตระกูลอวี้หยุดผมไว้ น่าเสียดายที่ผมมีโอกาสแล้วคว้าไว้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นตอนนี้กระดูกของเขาคงจะเน่าเปื่อยไปหมดแล้ว!”
คราวก่อนหงเทียนตูใช้โอกาสตอนที่ร่างกายของฉีเติ่งเสียนไร้พลังมาสังหาร แต่สุดท้ายกลับถูกนักแม่นปืนจากกองทัพราตรีนิรันดร์ซุ่มโจมตี เขาจึงทำการไม่สำเร็จ
เมื่ออยู่ต่อหน้านักแม่นปืนระดับนั้นถึงสามคน ต่อให้ฝีมือการต่อสู้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า การฆ่าฉีเติ่งเสียนก็ยังเป็นเรื่องที่ยากมากอยู่ดี
หลังจากได้ยินคำบอกเล่าของหงเทียนตู สีหน้าของจ้าวมั่นเอ๋อร์ก็เคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย
มังกรแห่งตระกูลอวี้จะเป็นใครไปได้นอกจากอวี้เสี่ยวหลง เทพธิดาแห่งสงครามผู้โด่งดัง
เธอคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่ฉินถางหู่พามา จะมีความเกี่ยวข้องกับอวี้เสี่ยวหลง เธอมองผิดไปจริงๆ!
ในเวลาเดียวกันนี้ ฉีเติ่งเสียนเองก็ยอมรับเหมือนกันว่าเขามองผิดไป เขาเองก็ไม่คิดว่าจ้าวมั่นเอ๋อร์จะเชิญคนฝีมือดีอย่างหงเทียนตูมาได้
สำหรับหงเทียนตู อาจเรียกได้ว่าเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดที่ฉีเติ่งเสียนเคยพบ เคยได้ชื่อว่าเป็น “อรหันต์ประจำชาติ”
“ผมควรเรียกคุณว่าคุณนายสามหรือว่าคุณจ้าวดีล่ะ? แล้วก็นะ ผมควรจะบอกคุณไหม ว่าหงเทียนตูเป็นอาชญากรคนสำคัญในประเทศผม การที่คุณไปเกี่ยวข้องกับเขา มีสิบชีวิตก็อาจจะไม่เพียงพอ” ฉีเติ่งเสียนเอ่ยพลางยิ้มเล็กน้อย
“ใครชื่อหงเทียนตู ฉันไม่ได้ชื่อหงเทียนตู” หงเทียนตูเอ่ยด้วยรอยยิ้มน้อยๆ
ตอนนี้ฉีเติ่งเสียนแน่ใจแล้วว่าหงเทียนตูเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับอิทธิพลของตระกูลจ้าว หากไม่ใช่สุนัขรับใช้ก็เป็นพันธมิตรหุ้นส่วนที่สำคัญ
ฉีเติ่งเสียนยิ้มแยกเขี้ยวและเอ่ยว่า “พอรู้ว่านายยังอยู่ในโมตูฉันก็ค่อยโล่งใจ! คราวก่อนนายคิดจะฆ่าฉัน คราวนี้ฉันควรจะเป็นฝ่ายตามล่านายบ้างแล้วใช่ไหม”
หงเทียนตูมองฉีเติ่งเสียนและบอกว่า “กลิ่นยาจีนแรงจริงๆ ดูเหมือนอาการบาดเจ็บของอาจารย์ฉีจะยังไม่หายดี? อยากให้ช่วยออกแรงไหม”
ฉีเติ่งเสียนตอบทันทีว่า “ดีเลย มาสิ!"
แต่ว่าเขาแข็งแกร่งเกินไป คนเหล่านั้นจึงไม่กล้าฆ่าปิดปากเขาง่ายๆ
แต่ถ้าเขาได้รับบาดเจ็บก็ไม่แน่
“อาจารย์ฉีอย่าลงมือจะดีกว่า ต่อให้ลงมือคุณก็หยุดผมไม่ได้ ความสามารถในการหนีเอาตัวรอดของผม คุณเองก็รู้ดี” หงเทียนตูอดยิ้มไม่ได้
ฉีเติ่งเสียนหยุดฝีเท้านิดหนึ่งและคิด จากนั้นจึงคิดได้ว่าที่เขาพูดมาก็มีเหตุผล
ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่เล็กน้อย
“มาสู้กันอีกสักตั้ง!” ฉีเติ่งเสียนเอ่ยอย่างเสียดาย
“ไม่ใช่ตอนนี้... ผมเองก็อยากฆ่าคนมีฝีมือดีอย่างคุณเหมือนกัน บางทีก็อยากถูกคนฝีมือดีอย่างคุณฆ่า แต่ผมยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำ ดังนั้นเลยต้องรักษากำลังเอาไว้ก่อน” หงเทียนตูเองก็เสียดายนิดหน่อยเหมือนกัน
ฉีเติ่งเสียนเอ่ยอย่างจริงจังว่า “นายหลีกเลี่ยงการต่อสู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ ตราบใดที่นายยังอยู่ในโมตู ฉันจะตามหานาย จากนั้นก็ฆ่านายทิ้งซะ ตอนนี้ฉันเป็นผู้ล่า นายเป็นผู้ถูกล่า!"
หงเทียนตูบอกว่า “ผมรู้ แต่คุณจะลองดูก็ได้”
พูดจบแล้วเขาก็ประสานมือให้จ้าวมั่นเอ๋อร์และบอกว่า “คุณจ้าว ผมขอตัวก่อนละ”
จ้าวมั่นเอ๋อร์ตวาด “คุณหง!"
แต่หงเทียนตูกลับยิ้มเยาะและเอ่ยว่า “ทางที่ดีคุณจ้าวอย่าได้เอาตระกูลจ้าวมากคุกคามผมจะดีกว่า ตอนนี้ผมไม่มีญาติมิตร ไม่มีแผ่นดินบ้านเกิด ทุกที่คือบ้านของผม ใครกล้ามาคุกคามความปลอดภัยของผม ผมจะฆ่าล้างโคตรมันให้หมด”
สีหน้าของจ้าวมั่นเอ๋อร์เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวทันที หงเทียนตูผู้นี้เป็นเหมือนดาบสองคมที่พร้อมจะหันมาทิ่มแทงเจ้าของทุกเมื่อ
“ดูเหมือนจะไม่ใช่สุนัขรับใช้ น่าจะเป็นพันธมิตรที่ร่วมมือกัน คนอย่างหงเทียนตูมีพลังความป่าเถื่อนอยู่เหนือชาวบ้านมานานแล้ว ตราบใดที่เขาไม่เต็มใจ ไม่ว่าจะเป็นคนระดับที่มีพลังอำนาจมากแค่ไหนก็ควบคุมคนอย่างเขาไม่ได้” ฉีเติ่งเสียนคิดในใจ
“ถ้ารู้แต่แรกเอานักฆ่าหั่นแขนขากับหมาป่าโลภมาด้วยก็ดี ต่อให้ความสามารถในการหลบหนีของหงเทียนตูจะล้ำเลิศแค่ไหน ฉันก็มั่นใจว่าจะฉันฆ่าเขาได้แน่นอน!”
แววตาของฉีเติ่งเสียนฉายแววดุร้าย นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีความคิดอยากจะฆ่าคนอย่างจริงจังเช่นนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...