สรุปตอน บทที่670 เตรียมลงมือปฏิบัติการ – จากเรื่อง มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู
ตอน บทที่670 เตรียมลงมือปฏิบัติการ ของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองเรื่องดัง มังกรผู้ทรงพลัง โดยนักเขียน จาง หลงหู เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
"คุณฉี สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?"
หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนขึ้นรถ ฉินถังอวี้ก็ถามขึ้นอย่างสงสัย
"จ้าวมั่นเอ๋อร์อยู่ในบ้านตระกูลเจิ้งตั้งตนเป็นใหญ่ แม้แต่เจิ้งซานหมิงก็กลัวเธอมากๆ" ฉีเติ่งเสียนส่ายหัวแล้วพูด
"งั้นก็สามารถร่วมมือกับตระกูลเจิ้งแล้วกําจัดจ้าวมั่นเอ๋อร์ได้เลยใช่ไหม" ฉินถางอวี้พูดขึ้น
ฉีเติ่งเสียนหัวเราะและพูดว่า "คุณคิดมากเกินไปละ ตระกูลเจิ้งยังไม่กล้าทําแบบนี้เลย จ้าวมั่นเอ๋อร์นั้นน่าเกรงขามมากในใจของพวกเขา"
"ถ้าผมจัดการจ้าวมั่นเอ๋อร์ไป ก็จะมีปัญหาตามมาอีก"
"รอดูเถอะ พวกเขาจะติดต่อผมเอง ตราบใดที่พวกเขาไม่อยากนั่งรอความตาย"
ฉินถางอวี้ขับรถพาฉีเติ่งเสียนมาส่งที่บ้านของหยางกวนกวน ก่อนจากลาพูดขึ้นว่า "คุณฉี โมตูหลงเหมินควรมีผู้นำ ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป คงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ คุณควรออกมารับหน้าที่นี้ให้ทันเวลา"
ฉีเติ่งเสียนพูดว่า "โอเค ผมรู้แล้ว คุณไปจัดการเรื่องของตระกูลเหวินได้อย่างสบายใจเลย เหวินหย่งฟูตายแล้ว ในฐานะลูกศิษย์ของเขา อย่าปล่อยให้ตระกูลนี้ล่มสลายเลยนะ"
ฉินถางอวี้ตอบว่า "ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ต้องขอความช่วยเหลือจากคุณฉี ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
ฉีเติ่งเสียนตอบว่า "รู้แล้วล่ะ"
ฉินถางอวี้เห็นว่าเขาเริ่มรำคาญ ก็ยกมือขึ้นทำความความเคารพ แล้วถอยออกไป
ฉีเติ่งเสียนช่วยตระกูลเหวินย่อมมีเจตนาของเขา เพื่อที่จะได้รับกระทรวงเก่าของเหวินหย่งฟู เพราะในตอนที่เขาเพิ่งมาถึง จู่ๆหลี่เหอถูก็ได้ขึ้นเป็นนายหางเสือ เหล่าลูกน้องก็เลยบูลลี่กันเป็นกลุ่มๆ
เมื่อเทียบกับการเผยธาตุแท้ที่โง่เขลาออกมาหลังจากเสแสร้งแล้ว วิธีนี้จะปลอดภัยกว่าเยอะ
ฉินถางอวี้เพิ่งจากไป ฉีเติ่งเสียนก็เห็นหยางกวนกวนกลับมาบ้านด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า พอเห็นเขาก็โมโหทันที
"คุณต่างหากที่เป็นซีอีโอของกั่วเชี่ยวกรุ๊ป แค่เดินไปมาในบริษัทสองสามทีก็เริ่มโยนภาระให้คนอื่นเลยนะ เกินไปหรือเปล่า?" หยางกวนกวนถาม
"เอ่อ" ฉีเติ่งเสียนแบมือ "ฉันบาดเจ็บไง ก็เลยต้องพักฟื้นและพักผ่อนหน่อยไม่ใช่เหรอ?"
หยางกวนกวนยิ้มอย่างเย็นชา "ไม่เห็นว่าคุณจะบาดเจ็บตรงไหนเลยนิ ที่บริษัทยังมีเอกสารอีกกองหนึ่ง คุณไปจัดการเองละกัน"
ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างจนใจ "นี่คุณไปเจอเรื่องอะไรมา ถึงได้มาลงที่ฉันฉันไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ?"
หยางกวนกวนเหอะเสียงหนึ่งแล้วพูดว่า "คุณโยนภาระให้คนอื่นอย่างสะใจ พองานของบริษัทก้าวหน้าช้า ก็ทําให้ประธานเซี่ยงโมโห แล้วฉันก็ต้องมาเป็นแพะรับบาป คุณว่าฉันโกรธไหมล่ะ?"
ฉีเติ่งเสียนพูดว่า "ก็ฉันเป็นเจ้านาย! มีงานก็ให้เลขาทํา ไม่มีงานก็ทําเลขาแทน ก็ต้องเป็นเธอแหละที่รับบาป!"
"บีบคอให้ตายเลย!"
หยางกวนกวนแยกเขี้ยว ท่าทางจะฆ่าเขา
ฉีเติ่งเสียนเป็นคนทำอาหารเย็น ถือเป็นการชดเชยให้เลขาหยางที่ยุ่งวุ่นวายในบริษัททุกวันนี้ และเรียกปีศาจราตรี คนฆ่าสัตว์และผีพยาบาททั้งสามคนมาทานด้วยกัน หลังจากกินเสร็จ ก็ให้ทั้งสามคนฝึกซ้อมกับหยางกวนกวน
ถูกตีไปสามครั้ง หยางกวนกวนก็อารมณ์ดีขึ้นบ้างเล็กน้อย และพบว่าตัวเองสามารถสู้กับคนเหล่านี้ได้ถึงสิบกว่าท่าแล้ว จึงรู้สึกมีความสุขมาก!
ซึ่งทําให้ฉีเติ่งเสียนมที่อยู่ข้างแปลกใจมาก และคิดในใจว่าเลขาหยางคนนี้ชอบการถูกกระทำเหรอเนี่ย?
"จะว่าไปแล้ว ทางตระกูลหยาง เธอคิดจะทํายังไง" ฉีเติ่งเสียนถาม
ผ่านไประยะหนึ่งแล้วตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่มีปัญหาในงานเลี้ยงหมั้นของหยางจิ้ง หลังจากที่ตระกูลหยางใส่ร้ายป้ายสีหยางกวนกวน ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย
หยางจิ้งตั้งหน้าตั้งตารอรอเยี่ยเฟยหลิวและคนอื่นเตะฉีเติ่งเสียนออกจากการประเมิน ใครจะไปคิดได้ว่ากรรมการทั้งสี่ต่างถูกล้ม และกลายเป็นพิการไปเลย แต่กลับทําให้ตระกูลจ้าวเจ็บปวดใจมาก
หยางกวนกวนพูดว่า "เมื่อวานฉันไปเยี่ยมคุณปู่ เขาจําฉันไม่ได้แล้ว และมักจะอยู่ในอาการโคม่า คาดว่าคงจะไปในสองสามวันนี้แล้ว"
"โอ๊ะ คุณฉีก็อยู่ด้วย!" หลังจากเสวี่ยเจินเห็นฉีเติ่งเสียน ก็รีบยกมือขึ้น
"สวัสดี" ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าเล็กน้อย
เสวี่ยเจินยิ้มแล้วพูดว่า "ที่จริงผมมาก็ไม่ได้มีธุระอะไร แค่มาขอโทษสําหรับความเข้าใจผิดครั้งที่แล้ว ถือโอกาสทําความรู้จักกันสักหน่อย"
ต้องรู้ว่าในเมืองโมตูนั่น เสวี่ยเจินก็เป็นบุคคลชั้นนําที่มีชื่อเสียงลำดับต้นๆของเมือง เขาไม่ไปเยี่ยมเยือนใครง่ายๆแบบนี้ ส่วนใหญ่แล้วมักจเป็นคนอื่นมาเยี่ยมเยือนเขา
เสวี่ยเจินดูเหมือนจะมาแค่ทำความรู้จักกันจริงๆ คุยกันสองสามคํา ก็แลกเปลี่ยนนามบัตรกับฉีเติ่งเสียน แล้วลุกขึ้นขอตัวลา
"คนนี้นี้แปลกจริงๆ รู้สึกเหมือนจะมีอะไรแน่ๆ" หยางกวนกวนพูดขึ้น
"ในเมื่อเขามาดี เราก็แค่รับไว้ก็พอ! ตระกูลเสวี่ยไมถูกกับตระกูลหยางอยู่แล้ว อาจเป็นเพราะรู้สึกว่าการมาถึงของเธอสามารถสั่นคลอนสถานะของตระกูลหยางได้ เลยอยากคบเป็นเพื่อนกัน" ฉีเติ่งเสียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด
หยางกวนกวนพยักหน้าเล็กน้อยและไม่ได้คิดอะไรมาก สําหรับเธอแล้ว ในเมืองโมตู การรู้จักคนอย่างเสวี่ยเจินบ้าง ก็ไม่มีอะไรเสียหาย
กําลังพูดคุยกับหยางกวนกวน ฉีเติ่งเสียนก็ได้รับโทรศัพท์จากอวี้เสี่ยวหลง
"เตรียมลงมือปฏิบัติการ เจอกันที่เอ้อร์อวี๋จุ่ย" อวี้เสี่ยวหลงพูดเสียงต่ำ
"เดี๋ยวฉันรีบไป" ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างจริงจัง
หยางกวนกวนพูดว่า "มีเรื่องอันตรายอะไรงั้นเหรอ?"
ฉีเติ่งเสียนตอบว่า "คนที่อันตรายไม่ใช่ฉัน แต่เป็นคนอื่น"
หยางกวนกวนได้แต่ถอนหายใจว่า "ระวังหน่อยนะ ฉันจะรอคุณกลับมา"
ฉีเติ่งเสียนยิ้มและเข้าบ้านเปลี่ยนชุดกีฬา แล้วไปที่เอ้อร์อวี๋จุ่ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...