มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 671

สรุปบท บทที่ 671 แต่งตัวพร้อมลุย: มังกรผู้ทรงพลัง

อ่านสรุป บทที่ 671 แต่งตัวพร้อมลุย จาก มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู

บทที่ บทที่ 671 แต่งตัวพร้อมลุย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง มังกรผู้ทรงพลัง ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จาง หลงหู อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ฉีเติ่งเสียนเรียกคนฆ่าสัตว์ ปีศาจราตรีและผีพยาบาทไปที่เอ้อร์อวี๋จุ่ยเพื่อเจอกับอวี้เสี่ยวหลง

หลังจากทำตามคำแนะนำของอวี้เสี่ยวหลงและมาถึงพื้นที่ห่างไกลในเอ้อร์อวี๋จุ่ยแล้ว ฉีเติ่งเสียนก็เห็นอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

“ว่ายังไง” ฉีเติ่งเสียนก้าวไปข้างหน้าและเอ่ยปากถาม

เมื่ออวี้เสี่ยวหลงเห็นคนทั้งสามที่อยู่ข้างกายเขา เธอก็ชะงักไปก่อนจะพูดว่า “นายพาคนพวกนี้มาทำไม”

ฉีเติ่งเสียนยิ้มแยกเขี้ยวยิงฟันและพูดว่า “ผมต้องการล้างบางโอเมนหน่วยหนึ่ง ทำให้ตระกูลจ้าวต้องทุกข์ทรมาน!”

อวี้เสี่ยวหลงส่ายหน้า “ไม่ได้ ประเทศชาติทุ่มแรงกายแรงใจฝึกโอเมนหน่วยหนึ่งอย่างมาก หากเราทำแบบนั้น มันจะเป็นความเสียหายครั้งใหญ่”

ฉีเติ่งเสียนพูดว่า “ในเมื่อพวกเขาอาจจะเป็นประโยชน์กับตระกูลจ้าว งั้นก็ต้องตัดพวกเขาออก ผมไม่สนว่าใครเป็นคนฝึกพวกเขามา ถ้ามาขวางทางผม ผมก็จะฆ่า!”

คนฆ่าสัตว์ที่อยู่ข้างๆ พูดว่า “นายพลอวี้ คุณเป็นสตรีที่ไม่เป็นรองบุรุษก็จริง แต่ยังไงคุณก็ยังเป็นผู้หญิง มีจิตใจเมตตาเกินไป ถ้าคุณไม่ลงมือ พวกเราก็จะฆ่าเอง ผมแบกชีวิตนับหมื่นไว้บนหลัง ผมไม่สนถ้าต้องเพิ่มอีกไม่กี่ชีวิต”

คำพูดของคนฆ่าสัตว์ไม่ได้เกินจริงเลย เพราะอย่างไรแล้วเขาก็เคยเป็นวายร้ายที่สังหารที่นักโทษนับหมื่นคนมาก่อน

“ฉีเติ่งเสียน นายจะทำอะไรตามอำเภอใจไม่ได้!” อวี้เสี่ยวหลงเมินคนฆ่าสัตว์และพูดกับฉีเติ่งเสียนอย่างจริงจัง

ฉีเติ่งเสียนคิดอยู่แล้วว่าถ้าอวี้เสี่ยวหลงรู้ความคิดนี้ของเขา เธอจะต้องไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

ดังนั้นเขาจึงไม่ได้บอกอวี้เสี่ยวหลงล่วงหน้าและดึงตัวคนมาอย่างเงียบๆ

ผีพยาบาทพูดกับอวี้เสี่ยวหลงว่า “สวัสดีครับนายพลอวี้ การที่เราทำลายร่างกายของคนพวกนั้นเป็นเรื่องที่ดี มันจะช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากโลกมลทินห้าและไปสู่ดินแดนสุขาวดีได้เร็วขึ้น นี่เป็นการโปรดสัตว์!”

อวี้เสี่ยวหลงกระตุกมุมปาก มองผีพยาบาทแล้วพูดว่า “แล้วนี่ใครอีก!”

“เขามีฉายาว่าผีพยาบาท เคยเป็นพระที่วัดเฉ่าที่ คุณก็น่าจะพอรู้” ฉีเติ่งเสียนพูดนิ่งๆ

สีหน้าของอวี้เสี่ยวหลงมืดมนลงเล็กน้อย

ฉีเติ่งเสียนพูดว่า “โอเมนหน่วยหนึ่งต้องถูกกำจัด เพราะมันไม่ง่ายที่จะฝึกพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงต้องตาย! หากพวกเขาตายที่นี่ ตระกูลจ้าวจะเจ็บปวดและท่านฟู่เหล่าก็จะสามารถใช้โอกาสนี้สู้กลับได้”

อวี้เสี่ยวหลงสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่และพูดว่า “ฉันรู้ แต่ฉันคิดมากกว่านั้น...เวลาเราทำเรื่องพวกนี้ เราทำอย่างลับๆ มาตลอด ถ้าเราฆ่าคนแบบโจ่งแจ้งแล้วเรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นมา เราจะไม่มีโอกาสแม้แต่จะถอยกลับ นายรู้รึเปล่า”

ฉีเติ่งเสียนยิ้มและพูดว่า “แน่นอนว่าผมก็คิดเรื่องนั้น มันมีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติ แต่ยังไงผมก็ต้องทำเรื่องที่ควรทำ!”

ในตอนนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“นายพลอวี้ อะไรที่ควรฆ่าก็ฆ่าเถอะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาเมตตา” ฉีเติ่งเสียนเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาจากหลังกำแพงด้วยสภาพดูไม่จืด

ชายคนนี้หล่อเหลาเอาการและใบหน้าของเขาก็คล้ายคลึงเฉินหยูอยู่ไม่น้อย

เขาก็คือเฉินเลี่ยนั่นเอง

ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความประหลาดใจ “คุณช่วยเขาออกมาแล้วเหรอ”

อวี้เสี่ยวหลงพูดอย่างเย็นชา “ใช่ แต่เราจะส่งเขาไปอย่างปลอดภัยได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราจะทำต่อจากนี้!”

เฉินเลี่ยไอสองครั้งและมีเลือดไหลออกจากจมูก เห็นได้ชัดว่าก่อนที่อวี้เสี่ยวหลงจะช่วยออกมา เขาพบเจอกับการดูแลที่ไม่ดีเท่าไรนัก

“เหตุผลที่เรายืนหยัดร่วมกันได้ก็เพราะว่าเรามีศัตรูคนเดียวกัน ในเมื่อศัตรูยื่นโอกาสให้ทำร้ายพวกเขามาตรงหน้า แล้วทำไมเราจะไม่คว้าไว้ล่ะ” เฉินเลี่ยพูดกับอวี้เสี่ยวหลง

อวี้เสี่ยวหลงไม่ได้พูดอะไรต่อ แสดงให้เห็นว่ายอมรับความคิดของฉีเติ่งเสียนแล้ว

เธอเดินนำอยู่ด้านหน้า หลังจากเดินไปไม่กี่ก้าวเธอก็พูดว่า “นายกระหายเกินไป อย่าคิดว่าเรื่องนี้จะง่ายขนาดนั้น คนพวกนั้นเป็นที่สุดของที่สุด!”

หลังจากพูดจบ เธอเดินไปตรงหน้าตู้คอนเทนเนอร์ที่คลุมด้วยผ้าใบกันน้ำ จากนั้นก็หยิบกุญแจออกมาเปิดตู้

“เอ่อ...ฉันแต่งตัวก่อน!” ปีศาจราตรีรีบพูด จากนั้นก็เริ่มสวมเสื้อเกราะกันกระสุนและอุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ อย่างเร่งรีบ

ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความประหลาดใจ “เอ๊ะ มีแต่คนขี้ขลาดที่สวมไม่ใช่เหรอ ชายชาตรีต้องใช้เสื้อเกราะกันกระสุนที่ไหนกัน!”

ปีศาจราตรียิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “ล้อเล่น ล้อเล่นเองน่า!”

เมื่อเห็นว่าคนอย่างฉีเติ่งเสียนเตรียมพร้อมและห่อหุ้มตัวเองไว้อย่างรัดกุม เขาก็รู้ได้ทันทีว่านี่คงไม่ใช่อันตรายธรรมดา

คนฆ่าสัตว์เป็นทหาร เคยผ่านสนามรบมาแล้ว แน่นอนว่าเขารู้ดีว่าห่ากระสุนปืนมันอันตรายแค่ไหน ไม่ว่าทักษะการต่อสู้ของเขาจะสูงเพียงใด กระสุนก็เอาชีวิตเราได้อยู่ดี

“ระวังตัวให้มากเข้าไว้ โดยเฉพาะเราสองคน เราจะทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้ไม่ได้ ถ้าเลือดออก ก็ต้องกลืนลงท้องไปซะ!” อวี้เสี่ยวหลงพูดกับฉีเติ่งเสียนอย่างจริงจัง

“เข้าใจแล้ว” ฉีเติ่งเสียนตอบรับอย่างเหนื่อยหน่าย

เฉินเลี่ยที่อยู่ด้านข้างรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนี้ “ทุกคน ฝากดูแลชีวิตอันไร้ค่าชีวิตนี้ด้วย!”

ฉีเติ่งเสียนหยักหน้าให้เขาแล้วพูดว่า “คิดจะตอบแทนฉันยังไง”

เฉินเลี่ยชะงัก

ฉีเติ่งเสียนยิ้มและตบหมวกนิรภัยของเขาเบาๆ และพูดว่า “อย่าลืมขอให้เฉินหยูเซลฟี่ส่งให้ฉันทีหลังด้วย”

“...” เฉินเลี่ยพูดไม่ออก นี่เขาเป็นคนยังไงเนี่ย

คนกลุ่มนี้ติดตั้งอาวุธแล้วออกเดินทางทันที

ก่อนออกจากที่นั่น อวี้เสี่ยวหลงดึงสลักระเบิดออกแล้วโยนเข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์ แล้วทุกอย่างก็ถูกกวาดล้างด้วยเสียงระเบิดดังสองครั้งและการเผาไหม้ที่รุนแรง

ฉีเติ่งเสียนมองด้วยสายตาแปลกๆ ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะทำเรื่องแบบนี้อยู่บ่อยๆ สินะ...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง