หงเทียนตูถอนหายใจยาวหลังจากได้ยินคำพูดของฉีเติ่งเสียน
“หากคุณทำร้ายผู้อื่น ก็เท่ากับคุณทำร้ายตัวเอง หากฉันไม่ได้ต้องการแก้แค้นเหอเล่ย บางทีคุณอาจจะไม่พบฉัน!”
ฉีเติ่งเสียนได้แต่ยิ้มและพูดว่า "หากคุณไม่ต้องการฆ่าผม บางทีผมอาจจะไม่หมกมุ่นกับการตามล่าคุณมากนัก!"
หงเทียนตูก็ไม่ลดละเขาพูดตอบกลับมาอีกว่า: "แม้ว่าวันนี้ฉันจะตาย ฉันก็จะเอาชีวิตคุณไปด้วย"
เขารู้ดีว่าการที่ฉีเติ่งเสียนมาปรากฏตัวที่นี้นั้นหมายความว่าอย่างไร
เพราะฉีเติ่งเสียนเองก็รู้ความสามารถในการหลบหนีของเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน
เเละเพื่อป้องกันไม่ให้เขาหลบหนีได้อีกตลอดชีวิต ทุกอย่างจึงถูกจัดเตรียมเอาไว้แล้ว
ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเป็นกันเองว่า: "คุณคิดผิดแล้วล่ะ ผมต่างหากที่จะเอาชีวิตคุณไป"
หงเทียนตูยิ้มและพูดว่า: "หากทักษะการชกมวยของฉันไม่ดีเท่าคุณ ก็ฆ่าฉันให้ตายไปเลยเถอะ ให้ฉันตกไปอยู่ในเงื้อมมือของปรมาจารย์ที่ฉันรู้จัก ดีกว่าต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของคนน่ารังเกียจพวกนั้น "
ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างใจเย็น: "นั่นคือสิ่งที่ผมคิดว่า ปรมาจารย์มวยอย่างคุณควรตายด้วยหมัด ไม่ใช่ด้วยน้ำมือของพวกนักการเมือง"
หงเทียนตูหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ และตอนนี้เขารู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก
“อวี้เสี่ยวหลงเห็นด้วยที่คุณท้าดวลกับฉันงั้นหรอ?” หงเทียนตูถาม
ไม่จำเป็นต้องมองหน้าฉีเติ่งเสียน เขาก็รับรู้ได้ทันทีว่าฉีเติ่งเสียนติดต่ออวี้เสี่ยวหลงเพื่อป้องกันไม่ให้เขาหลบหนี
ฉีเติ่งเสียนพูดขึ้นอย่างใจเย็น: "เดิมทีเธอก็ไม่ได้เห็นด้วย แต่เผอิญว่าที่ด้านหลังของเธอมีปืนจ่อเข้าตรงหัวใจ เธอเลยเห็นด้วย"
หงเทียนตูหัวเราะขึ้นมาเสียงดังและพูดว่า: "ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! เอาล่ะ เอาล่ะ คุณนี่มั่นใจเกินร้อยจริงๆเลยนะ! ฉันชอบคนแบบนี้ น่าเสียดายที่เราพบกันแบบนี้ ไม่อย่างนั้นเราคงเป็นเพื่อนกันได้”
ฉีเติ่งเสียนพูดขึ้นว่า: "ผมชื่นชมคุณมาก แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าผมจะชอบคุณ คุณน่ารังเกียจเกินไป เราเป็นเพื่อนกันไม่ได้หรอก"
ขณะนี้ลิฟต์มาถึงชั้นหนึ่งแล้ว ซึ่งหมายความว่าความกลมกลืนของทั้งสองได้สิ้นสุดลงแล้ว
ทันทีที่เขาเดินออกจากอาคารชุมชน หงเทียนตูก็เห็นเหล่าอาจารย์ยอดฝีมือที่ซ่อนตัวอยู่ทุกหนทุกแห่ง เขาอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมา: "นั้นอาจารย์หง!"
ฉีเติ่งเสียนเดินนำทางไปด้านหน้าและพูดขึ้นว่า: "มีสวนสาธารณะอยู่ข้างหน้า ทำเลไม่เลวเลย เหมาะกับการประลองเป็นที่สุด"
หงเทียนตูพูดว่า: "พูดตามตรง ฉันไม่ค่อยได้ต่อสู้กับปรมาจารย์ที่ฝีมือเท่าเทียมกันสักเท่าไหร่ วันนี้ที่ได้พบคุณ ฉันจึงตื่นเต้นมาก!"
ฉีเติ่งเสียนยิ้มออกมา แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร
หากหมาป่าโลภอยู่ที่นี้ เขาคงจะตัวสั่น เพราะอารมณ์ของฉีเติ่งเสียนในตอนนี้ ไม่ต่างอะไรกับฉีปู้อวี่ก่อนที่จะต่อสู้กับจ้าวหางเปีย
ทั้งสองเดินไม่นานก็ถึงพื้นที่โล่งในสวนสาธารณะ
ในสวนสาธารณะแห่งนี้ แทบจะไม่มีคนอยู่เลย และบริเวณโดยรอบก็ถูกปิดกั้นโดยคนของอวี้เสี่ยวหลง ดังนั้นจึงไม่สามารถมีผ่านไปผ่านมาได้
คนฆ่าสัตว์ ปีศาจราตรี ผีพยาบาท และอวี้เสี่ยวหลงปรากฏตัวและยืนอยู่ประจำทิศทั้งสี่ของสวนธารณะ
ลูกศิษย์ของหงเทียนตูทั้งหมดอดไม่ได้ที่จะหดตัวเล็กน้อยและพูดขึ้นมาว่า : "สุดยอดไปเลย…พวกเขาล้วนเป็นยอดฝีมือ คุณแน่ใจใช่ไหมว่านี้คือการประลองตัวต่อตัวไม่ใช่ประลองกลุ่ม?"
ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างใจเย็น: "ครั้งที่แล้วฉันเป็นคนให้พวกเขาตีไม้เท้าโคกูรยอ เพราะว่าฉันไม่ละอายกับนิสัยของพวกเขา แต่ครั้งนี้เราจะสู้กันตัวต่อตัวและจะไม่มีใครเข้ามายุ่ง"
หลังจากพูดจบ เขาก็ถอดเสื้อคลุมและเสื้อเชิ้ตออก
ตัวเขาดูผอม เเต่จริงๆแล้ว ร่างกายของเขาแข็งแกร่งมาก เมื่อลอยขึ้นไปในอากาศ เส้นกล้ามเนื้อที่โผล่ออกมาไม่ได้ดูเกินจริงแต่อย่างใด กล้ามเป็นมัด รอยเส้นสวยงามเป็นพิเศษ
หงเทียนตูก็โยนเสื้อคลุมของเขาออกและเริ่มขยับร่างกายตนเอง
อวี้เสี่ยวหลงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ: "มั่นใจได้ว่าจะไม่มีใครมารบกวนการต่อสู้ของพวกคุณ และหงเทียนตู อย่าคิดที่จะหลบหนี เพราะครั้งนี้คุณไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้อีกแล้ว!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...