ไม่มีใครคาดคิดว่าความจริงแล้วจ้าวหงซิ่วกับจ้าวหงหนีเป็นคนคนเดียวกัน
เพียงแต่ว่าเธอมีสองบุคลิก
ตัวตนแรกคือ “เทียนฟา” แห่งตระกูลจ้าว และอีกตัวตนคือนักหมากล้อมสาวสวยที่แข่งในเวทีหมากล้อมมืออาชีพ
ฉีเติ่งเสียนสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่และเผชิญหน้ากับจ้าวหงหนีบนกระดานหมากล้อม แต่ความกดดันนั้นแทบไม่ต่างอะไรกับตอนเผชิญหน้ากับหงเทียนในสนามรบเลย...แถมเขาก็แทบไม่เห็นความหวังที่จะชนะได้
ซุนอิ่งซูเองก็ยืนอึ้งอยู่ข้างๆ เธอได้ยินมาว่าฝีมือหมากล้อมของจ้าวหงซิ่วแย่มาก เธอจึงคิดว่าฉีเติ่งเสียนจะชนะอย่างแน่นอน ใครจะไปรู้ว่าเธอมีสองบุคลิก แล้วอีกตัวตนของเธอยังเป็นนักหมากล้อมมืออาชีพอีกด้วย!
“ถ้าคุณแพ้ พี่สาวของฉันจะออกมา คุณพยายามหน่อยแล้วกัน!” จ้าวหงหนีพูดด้วยรอยยิ้ม
“งั้นคุณก็คงต่อสู้ไม่เก่งเท่าเธอใช่ไหม” ฉีเติ่งเสียนฉุกคิดและเอ่ยถามออกมา
“คุณจะลองดูก็ได้” จ้าวหงหนีพูดอย่างใจเย็น
ฉีเติ่งเสียนปวดหัวแทบระเบิดและตัวเขาก็กำลังจะแยกบุคลิกด้วยแล้ว เขาสงบสติอารมณ์และวางหมากสีดำลงที่มุมซ้ายบน
จ้าวหงหนีพยักหน้า หนีบหมากล้อมสีขาวด้วยสองนิ้วเรียวและวางมันลงบนจุดดาวที่มุมขวาล่าง
เวลานี้ฉีเติ่งเสียนอยากติดต่ออิเลียน่า จินวาและให้เธอชี้นำเขาจริงๆ อย่างน้อยโอกาสชนะก็ค่อนข้างสูง
หรือไม่ก็อวี้เสี่ยวหลงก็ได้...
หลังจากวางหมากไปสิบครั้ง แววตาของจ้าวหงหนีก็เริ่มดูแปลกไป
มุมปากของฉีเติ่งเสียนกระตุก เขาไม่เข้าใจรูปแบบการเคลื่อนไหวของจ้าวหงหนีในตอนนี้เลย เขาไม่ได้ศึกษาบันทึกหมากล้อมลึกซึ้งขนาดนั้น
เขาคิดอยู่ว่าเขาควรกระอักเลือดออกมาใส่กระดานหมากล้อมเพื่อดูว่าจะมีแสงสีขาวสว่างวาบขึ้นรึเปล่า แล้วจากนั้นจะมีวิญญาณของโนะซาอิโผล่ออกมาและชี้แนะว่าเขาจะชนะเกมนี้ได้ยังไง
ยิ่งจิตใจสับสน ทักษะการเล่นหมากล้อมก็จะแย่ลงไปด้วย
จ้าวหงหนีถอนหายใจ ส่ายหน้าก่อนจะหนีบหมากล้อมสีขาวและวางลงไป
หลังจากเป็นมือตามมาสักพักฉีเติ่งเสียนก็ชะงัก การวางหมากแบบนี้ เขาเคยเห็นมาก่อน...
เขาจำได้ว่ามันเป็นรูปแบบของจ้าวหงหนีในตอนที่เธอเล่นหมากล้อมในสวนสาธารณะเซินไห่ในตอนนั้น ที่หวงหลงซือยอมสวีซิงโหย่ว!
ดังนั้นฉีเติ่งเสียนจึงเล่นหมากรุกตามสูตร
จ้าวหงหนีไม่ได้เปลี่ยนท่าทีและเล่นตามสูตรทุกอย่าง
แล้วฉีเติ่งเสียนก็ค่อยๆ กลายเป็นมือนำ
หลังจากวางหมากตัวสุดท้าย เขาก็เริ่มคำนวณจุดตัดและฉีเติ่งเสียนก็ชนะไปเพียงครึ่งตา
จ้าวหงหนีกลับพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “คุณมันชั่วจริงๆ!”
ฉีเติ่งเสียนพูดว่า “ฝีมือผมยังด้อยนัก ขอบคุณ ขอบคุณ!”
เขาคารวะจ้าวหงหนีซ้ำๆ และใบหน้าของเขาก็แดงอย่างช่วยไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะจ้าวหงหนีอ่อนให้ ตอนนี้เขาคงทำไม่สำเร็จ
เป็นเพราะเขาความจำดีด้วย ก่อนหน้านี้เขาเคยอ่านรูปแบบการเดินหมากแบบนี้มาก่อน แล้วก็ได้มาเห็นจ้าวหงหนีเดินหมากแบบนี้อีกครั้ง เขาจึงจำได้อย่างชัดเจน
“เรียกคนที่เล่นหมากล้อมกับฉันเมื่อไม่นานนี้มาหน่อย ฉันอยากเล่นหมากล้อมกับเธอสักตา” จ้าวหงหนีขมวดคิ้วพูด
“ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา! ฉันจะให้เธอมาที่โมตูในอีกไม่กี่วัน” ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยรอยยิ้ม
จ้าวหงหนีมองเขาอย่างเหยียดหยาม เธอคิดว่าการเล่นหมากล้อมกับคนคนนี้เป็นการทำให้หมากล้อมอันศักดิ์สิทธิ์ต้องแปดเปื้อน และเป็นการดูถูกฝีมือหมากล้อมของตัวเธอเองด้วย
ตัวตนของจ้าวหงซิ่วไม่ได้ออกมา
ฉีเติ่งเสียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้ติดต่อกับจ้าวหงหนีอย่างเปล่าประโยชน์ แม้ว่าจะเข้าใกล้ได้ไม่มากนัก แต่อย่างน้อยก็ทำให้เธอประทับใจได้
หรือบางทีจ้าวหงหนีจะไม่ต้องการให้ฉีเติ่งเสียนตายแบบนี้ เพราะถ้าเขาตาย เธอก็จะไม่มีทางได้เจอนักหมากล้อมตัวจริงที่ซ่อนอยู่ข้างหลังเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...