มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 79

เซี่ยงตงฉิงเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์เป็นอันดับแรกมาโดยตลอด นี่เป็นสาเหตุที่ใครๆ ก็กล่าวว่าเธอเลือดเย็น

หวังหู่หันไปพูดกับฉีเติ่งเสียน: “นายต้องการให้เป็นเรื่องภายในหรือเป็นเรื่องของทางการดีล่ะ?”

ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างใจเย็น: “อะไรคือเรียกภายใน? และอะไรคือเรียกทางการล่ะ?”

“เรื่องภายในก็คือนายต้องชดเชยให้คนละหนึ่งล้าน รวมเป็นเก้าล้านหยวน เรื่องจะจบ หากเปิดเผยต่อทางการเราจะรายงานให้เจ้าหน้าที่ทราบซึ่งจะมีคนเข้ามาไต่สวนเรื่องนี้ประเมินอาการคนที่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเราจะฟ้องร้องและจับนายเข้าคุก” หวังหู่พูดอย่างใจเย็น

เนื่องจากฉีเติ่งเสียนเป็นผู้ที่สามารถเอาชนะเฉินหย่งเหยียนได้ การใช้กำลังคงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะพึ่งพาอำนาจของทางการ

คราวนี้ฉีเติ่งเสียนทำร้ายร่างกายคนอื่นและถูกจับได้ในที่เกิดเหตุ เพราะฉะนั้นเขาจะไม่มีวันปล่อยโอกาสแก้แค้นนี้หลุดไป

หากฉีเติ่งเสียนไม่เข้าไปแทรกแซงเหตุการณ์เรื่องแผ่นดินแห่งยุคใหม่เมื่อครั้งที่แล้ว ตอนนี้เรื่องนั้นก็คงจะอยู่ในมือของเขา เพราะแบบนี้เขาจึงเกลียดไอ้บัดซบนี้มากจริงๆ

“เก็บเรื่องนี้เอาไว้ พวกคุณแต่ละคนจะต้องจ่ายเงินให้ฉันหนึ่งล้าน ไม่จำเป็นต้องกินอาหารบนโต๊ะ แล้วจะปล่อยเรื่องนี้ไป” ฉีเติ่งเสียนพูดเบา ๆ

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ผู้คนในหู่เหมินกรุ๊ปก็ตกตะลึง

“ไอ้เด็กคนนี้ป่วยเหรอ? นายไม่เข้าใจสิ่งที่คุณหวังพูดหรือไง? แต่กลับมาเรียกเงินหนึ่งล้านจากพวกเรา!”

“มันคิดว่าตัวเองเป็นใคร เป็นลูกของผู้นำประเทศ? มาทำร้ายร่างกายพวกเรา แถมยังขอเงินพวกเราอีก!”

“ให้ตายเถอะ นั่นมันจะอวดดีเกินไป คุณหวัง ห้ามปล่อยเขาไปเด็ดขาด แจ้งความแล้วเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมดีกว่า!”

ทุกคนในหู่เหมินกรุ๊ปเสียงดังคิดว่าเติ่งเสียนอวดดีเกินไป หากไม่ลงโทษเขาให้เป็นแบบอย่าง ต่อไปใครจะนับถือหู่เหมินกรุ๊ปอีก!

หวังหู่อดไม่ได้ที่จะส่งสายตาพร้อมพูดอย่างเย็นชา: “ฉันกำลังพูดจริงจังกับนาย นายควรเปลี่ยนความคิดของนายดีกว่า! ฉันอุตส่าห์ให้โอกาสเก็บเรื่องไว้ภายใน เพื่อไว้หน้าคุณเซี่ยง”

เซี่ยงตงฉิงตีตัวออกห่างทันทีและพูดว่า “คุณหวังอยากทำอะไรก็ทำได้เลย นี่เป็นเรื่องความไม่พอใจส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าฉัน”

ฉีเติ่งเสียนยกมือขึ้นแล้วพูดกับหวังหู่: “เริ่มการแสดงของคุณได้!”

หลี่อวิ๋นหว่านที่อยู่ด้านข้างมองดูรูปร่างหน้าตาของฉีเติ่งเสียนและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แต่ถึงอย่างนั้นในสถานการณ์นี้ มันไม่เหมาะที่จะหัวเราะ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงเม้มริมฝีปากแล้วเหยียบหลังเท้าเขาเบา ๆ

ฉีเติ่งเสียนถูกหลี่อวิ๋นหว่านเหยียบหลังเท้าและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขัดใจ เขาขมวดคิ้วและก้าวถอยหลัง

หลี่อวิ๋นหว่านไม่คาดคิดมาก่อนว่าผู้ชายคนนี้จะไม่เป็นสุภาพบุรุษขนาดนี้ เขาทำร้ายเธอ เท้าใหญ่ของเขาเหยียบลงหลังเท้าของเธอ เธอโกรธมากจนเอื้อมมือไปบีบเอวของเขา

ฉีเติ่งเสียนไม่ใช่คนที่ต้องยอมแพ้ ด้วยความโกรธเขาจึงบีบหลี่อวิ๋นหว่านกลับ

ทั้งสองคนดูเหมือนไม่ได้ให้ความสนใจกับหวังหู่จึงได้หยอกล้อกัน จึงทำให้เซี่ยงตงฉิงอยากจะหัวเราะออก

หวังหู่โกรธมาก เขาไม่คิดว่าฉีเติ่งเสียนจะอวดดีขนาดนี้ ในเวลานี้เขายังกล้าที่จะจีบผู้หญิงต่อหน้าเขาแทนที่จะกังวลกับสถานการณ์ของตัวเอง!

“เอาล่ะ ตกลง ในเมื่อนายยังอวดดี งั้นก็ให้กระบวนการยุติธรรมจัดการแล้วกัน!”

“ฉันล่ะอยากเห็น นายเก่งเรื่องการต่อสู้ แต่คงเก่งสู้ปืนของเจ้าหน้าที่ไม่ได้ !”

หลังจากที่หวังหู่พูดเช่นนี้ เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา กดหมายเลขโทรออกก่อนจะกรอกเสียงไปตามสาย: “ผู้บัญชาการจ้าว โปรดนำกำลังพลมาที่โรงแรมเทียนหยวน มีคนกำลังก่อเหตุฆาตกรรมคนของหู่เหมินกรุ๊ป ฉันขอให้คุณนำกำลังพลมาจับกุมผู้กระทำผิดด้วยครับ!”

หลังจากได้ยินสิ่งที่หวังหู่พูด หัวหน้าตำรวจจ้าวเทียนลู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงในเมืองจงไห่ ก็พูดทันที: “เหิมเกริมมาก กล้าทำร้ายคนจากหู่เหมินกรุ๊ปหรือ? ฉันจะนำกำลังพลไปเดี๋ยวนี้!"

หลังจากพูดสิ่งนี้จ้าวเทียนลู่ก็วางสายโทรศัพท์แล้วโทรหาเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในสำนักงานทันที แบ่งรถออกไปสี่คัน และนายตำรวจมากกว่าสิบนายตรงมาที่โรงแรม เทียนหยวน

“หยุดวุ่นวายได้แล้ว หวังหู่แจ้งทางการแล้วเห็นไหม!” หลี่อวิ๋นหว่านพูดเสียงเบา

“รายงานต่อทางการแล้วไงล่ะ? ทางการบริหารโดยครอบครัวของเขาหรือ ? เจ้าหน้าที่รัฐต้องมีความเป็นธรรมไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเย็นชา

หลังจากที่สวีเสี่ยวอวี้ได้ยินสิ่งนี้ก็เยาะเย้ยและพูดว่า “ความยุติธรรม นายเป็นคนกระจอกที่ไม่มีอำนาจ นายจะมีความยุติธรรมนั้นได้ยังไง?”

“หู่เหมินกรุ๊ปของเรายุติธรรม นายกล้าทำร้ายคนของเรา ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด มันเป็นความผิดของนายทั้งหมด!”

“นายทำให้หู่เหมินกรุ๊ปของเราโกรธ นายยังมาเรียกร้องหาความยุติธรรมอีกเหรอ?ช่างเป็นเรื่องน่าขำสิ้นดี!”

ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างใจเย็น: “ฉันเชื่อมาโดยตลอดว่าความยุติธรรมมีอยู่จริง ไม่เช่นนั้น ฉันคงเป็นผู้คุมเรือนจำมาหลายปีไม่ได้”

หวังหู่เหล่มองเยาะเย้ย ส่ายหัวเล็กน้อยแล้วพูดว่า: “ความยุติธรรมก็คือหากนายทำร้ายใครซักคน นายจะถูกตำรวจนำตัวไป สุดท้ายต้องยอมรับการพิจารณาคดีของศาล! เข้าใจแล้วยัง?”

“ไม่ ไม่ ไม่...ความยุติธรรมก็คือพวกเธอแต่ละคนชดใช้ให้ฉันคนละหนึ่งล้านหยวนสำหรับความเสียหาย และต้องกินอาหารทุกจานที่เปื้อนน้ำลายนั้นด้วย!” ฉีเติ่งเสียนตอบด้วยรอยยิ้ม

“เอาล่ะ แล้วเรามาดูกันว่าความยุติธรรมจะอยู่ข้างใคร” หวังหู่พูดอย่างเย็นชา

เซี่ยงตงฉิงขมวดคิ้วอยู่ที่ด้านหนึ่ง หวังหู่รายงานต่อเจ้าหน้าที่ แต่ฉีเติ่งเสียนยังคงมั่นใจ ไม่รู้ว่าเขาคิดจริง ๆ ว่าความจริงอยู่ข้างเขาหรือมีเบื้องหลังที่ใหญ่กว่าที่สามารถขัดขวางทางการได้?

หากฉีเติ่งเสียนถูกคนจากสถานีตำรวจพาตัวไปจริงๆ เธอเองก็คงไม่สามารถนิ่งเฉย ได้

ทั้งอารมณ์และเหตุผล ไม่สามารถทำได้

แม้ว่าเธอจะเลือดเย็นไปหน่อยก็ตาม

“นายควรคิดคำพูดไว้ตั้งแต่ตอนนี้ แม้ว่าผู้บัญชาการจ้าว จะไม่ฟังคำพูดของนายเลยก็ตาม” สวีเสี่ยวอวี้ยิ้มพูดอย่างสะใจ

ฉีเติ่งเสียนขี้เกียจจะใส่ใจหันพูดกับหลี่อวิ๋นหว่านว่า: “เธอสั่งอาหารเพิ่มให้ฉันหน่อยได้ไหม ฉันยังกินไม่อิ่ม และฉันหิวมาก......”

เมื่อเห็นว่าฉีเติ่งเสียนเพิกเฉยต่อเธอสวีเสี่ยวอวี้ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าแข็งกระด้างแล้วพูดด้วยความโกรธ: “กินซะ อิ่มแล้ว นายจะได้ไปต่อ! นี่อาจเป็นมื้อสุดท้ายของนายก็ได้!”

หลี่อวิ๋นหว่านรู้สึกว่าจิตใจของฉีเติ่งเสียนนั้นแปลกประหลาด เรื่องมาถึงจุดนี้แล้วและเขายังห่วงเรื่องกินไม่อิ่มอีกเหรอ? !

“นายระวังตัวเองหน่อยได้ไหม....” หลี่อวิ๋นหว่านกระซิบ “คนที่จะมาคือ จ้าวเทียนลู่ ผู้บัญชาการตำรวจเมืองจงไห่”

เมื่อฉีเติ่งเสียนเห็นว่าหลี่อวิ๋นหว่านเพิกเฉยต่อคำขอของเขา เขาก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงฮึดฮัดในลำคออย่างเย็นชาด้วยสีหน้าไม่แยแส

“นี่นายหมายความว่ายังไง? นี่ฉันเตือนนายด้วยความหวังดีอยู่นะ.....” หลี่อวิ๋นหว่านรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย

“ผู้หญิง,ส่งผลต่อความเร็วตอนฉันชักดาบเท่านั้น!” ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความอวดดีบนใบหน้า

“นาย......” หลี่อวิ๋นหว่านถึงกับพูดไม่ออก

ในเวลานี้เสียงไซเรนดังกระหึ่มขึ้นที่ถนนด้านนอก

รถตำรวจหลายคันมาจอดที่ประตู ตำรวจชุดสีน้ำเงินรีบลงจากรถ นำโดยตำรวจวัยกลางคนในชุดขาวบนบ่าประดับยศใหญ่เดินตรงเข้าไปด้านในโรงแรม

สวีเสี่ยวอวี้หัวเราะเยาะ: “ดูเหมือนว่านายจะไม่มีโอกาสได้กินอาหารมื้อสุดท้ายนี้แล้วล่ะ.....”

“ยัยผู้หญิงปากมาก อีกหน่อยก็ช่วยกินอาหารที่มีน้ำลายเยอะนี่ให้เกลี้ยงด้วยนะ!” ฉีเติ่งเสียนเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะพูดอย่างเย็นชา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง