“นั่นคือผู้บัญชาการตำรวจจ้าวเทียนลู่ ผู้นำสูงสุดของกองกำลังตำรวจเมืองจงไห่ เขาเป็นผู้นำทีมมาที่นี่ เกิดอะไรขึ้น?”
“ผู้บัญชาการตำรวจจ้าว มีชื่อเสียงในด้านความแข็งแกร่ง คราวนี้เขาเป็นผู้นำทีมด้วยตัวเอง คนที่ก่อคดีไม่รอดแน่!”
“ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เห็นผู้บัญชาการตำรวจจ้าวลงปฏิบัติหน้าที่เองแบบนี้ ไม่รู้ว่าใครแจ้งเหตุ ไม่รู้ว่าเป็นหรือตายยังไง”
เมื่อเห็นท่าทางที่น่ากลัวของจ้าวเทียนลู่ คนบริเวณนั้นบางคนลดเสียงพูดให้เบาลง
หลังจากที่เจ้าเทียนลู่เข้าไปในโรงแรม เขาก็นำทีมตรงไปที่ห้องส่วนตัว มีคนอยากรู้อยากเห็นเดินตามมาอย่างเงียบ ๆด้วยความอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“สวัสดีครับ ผู้บัญชาการตำรวจจ้าว!” หลังจากที่ได้พบกับจ้าวเทียนลู่ผู้จัดการโรงแรมก็ยิ้มและโค้งคำนับเพื่อทักทาย
“อืม...” จ้าวเทียนลู่ตอบเบาๆ
ไม่นาน เขาก็นำทีมกำลังพลไปที่ประตูห้องส่วนตัว โบกมือเตรียมพร้อมกับ เจ้าหน้าที่ที่เตรียมตั้งรับเหตุการณ์ด้านนอกทันที
“คนที่อยู่ข้างในคือหวังหู่ ผู้บริหารของหู่เหมินกรุ๊ป... เห็นคนจากหู่เหมินกรุ๊ปล้มลงกับพื้นทีละคน เป็นไปได้ไหมว่ามีคนใช้ความรุนแรงกับหู่เหมินกรุ๊ป?”
“โอ้พระเจ้า... เบื่อกับการใช้ชีวิตหรือไง ถึงกล้าใช้ความรุนแรงกับหู่เหมินกรุ๊ป? ผู้บัญชาการจ้าวคงถูกคุณหวังเรียกตัวมา ถ้าแตะต้องคนจากหู่เหมินกรุ๊ป ต้องตายแน่ๆ”
“ผู้บัญชาการจ้าว เป็นผู้นำทีมกองกำลังมาที่นี่ด้วยตัวเอง ชัดๆเลยว่าพอคุณหวังเอ่ยปาก เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่ คนก่อเหตุตายสถานเดียว”
หลังจากที่ทุกคนเข้าใจสั้น ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์แล้ว พวกเขายังคงพูดคุยกันด้วยเสียงเบา ทุกคนรู้สึกว่าฉีเติ่งเสียนจะต้องตายอย่างแน่นอน
เมื่อจ้าวเทียนลู่ก้าวเข้าไปในห้องส่วนตัว เซี่ยงตงฉิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าหวังหู่กำลังทำให้สิ่งต่าง ๆ ดูแย่ลง แม้ว่าเธอต้องการเก็บฉีเติ่งเสียนไว้ แต่มันก็มีราคาที่ต้องจ่ายสูงทีเดียว!
เมื่อหวังหู่เห็นจ้าวเทียนลู่กำลังเดินมา เขาก้าวไปข้างหน้าเพื่อจับมือกับจ้าวเทียนลู่ก่อนจะพูดว่า: “ผู้บัญชาการจ้าว คุณมาแล้ว และมีน้ำใจมาตัดสินเรื่องนี้ให้กับคนในบริษัทของเรา!”
“คือเรื่องเป็นแบบนี้ วันนี้ฉันเชิญคุณเซี่ยงตงฉิงมารับประทานอาหารเย็น แล้วจึงขอให้ลูกน้องจองห้องส่วนตัวในโรงแรมให้”
“ห้องส่วนตัวเต็ม ฉันจึงให้ลูกน้องมายังห้องนี้เพื่อเจรจากับบุคคลนั้น ส่งผลให้อีกฝ่ายไม่เต็มใจที่จะเจรจาจนกระทั่งทำร้ายร่างกายกัน”
“ดูสิ คนของฉันทุกคนได้รับบาดเจ็บจากการกระทำของคนร้ายคนนี้.....”
ในขณะที่พูดหวังหู่ชี้ไปที่ฉีเติ่งเสียน
สวีเสี่ยวอวี้พูดอย่างเร่งรีบ: “ผู้บัญชาการจ้าว ดิฉันเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้และเป็นพยานได้!”
หลังจากที่จ้าวเทียนลู่พยักหน้า เขาก็โบกมือแล้วพูดว่า “เอามันออกไป!”
“ฮะ?” ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะตกใจ
จากนั้นเขาก็หัวเราะก่อนจะพูดว่า “ผู้บัญชาการจ้าว ฉันก็เป็นคนในองค์ตำรวจ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่หน่วยเดียวกัน แต่ค่อนข้างคุ้นเคยกับกระบวนการเหล่านี้ดี”
“ไม่ใช่ว่าคุณควรฟังสิ่งที่ฝ่ายเราพูดก่อนตัดสินใจไม่ใช่หรือ?”
“หรืออีกอย่าง นำทั้งสองฝ่ายออกไปและสอบสวนร่วมกัน”
หวังหู่พูดอย่างใจเย็น: “นายคิดว่านายเป็นใคร ถ้านายทำร้ายคนของฉัน แม้ว่าเหตุผลคืออะไรก็ตาม ยังไงนายก็ผิด”
“ในจงไห่ หากหู่เหมินกรุ๊ปของเราต้องการมีเรื่องกับคนอย่างกับนาย นายทำได้แค่ยืนนิ่งๆ”
“ถ้านายกล้าสู้กลับ นั่นแสดงว่านายกำลังฝ่าฝืนกฎหมาย!”
คิ้วของเซี่ยงตงฉิงขยับด้วยความไม่ชอบใจ ฉีเติ่งเสียนก็มาจากเซี่ยงกรุ๊ปเช่นกัน หวังหู่พูดเช่นนี้ต่อหน้าเธอเห็นได้ชัดว่าเป็นการยั่วโทสะ
ดูเหมือนว่าหวังหู่แทบรอไม่ไหวที่จะต่อสู้กับเขาในท้ายที่สุด...
แต่ยิ่งอยากให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นมากเท่าไร เซี่ยงตงฉิงยิ่งนิ่งเฉยมองด้วยสายตาที่เย็นชาอยู่เสมอ
หลังจากที่จ้าวเทียนลู่ได้ยินคำพูดที่เย่อหยิ่งของหวังหู่ เขาไม่ได้รู้สึกรังเกียจเลย เขาพูดกับฉีเติ่งเสียนอย่างเฉยเมย: “ฉันจะทำอย่างไร? ฉันจำเป็นต้องให้นายมาสอนด้วยเหรอ?”
“ถ้านายเก่งกว่าฉัน ทำไมนายไม่มาเป็นผู้บัญชาการแทนสะเลยล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...