เฉียวชิวเมิ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉู่อู๋เต้ามีสีหน้าซับซ้อนเล็กน้อย
“อาจารย์ สถานการณ์ในโมตูครั้งนี้ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ คุณจะออกตัวอีกครั้งทั้งๆ ที่เจ็บหนักขนาดนี้น่ะเหรอ” เฉียวชิวเมิ่งอดไม่ได้ที่จะถาม
“ใช่! จะปล่อยร่างกายที่บาดเจ็บไว้เปล่าๆ ก็ไม่มีประโยชน์ สู้ใช้เวลาที่ยังเคลื่อนไหวได้ทำเรื่องสำคัญเสียดีกว่า!” ฉู่อู๋เต้ายิ้มอย่างกล้าหาญ
เฉียวชิวเมิ่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “แล้วสุดท้ายจะเกิดอะไรขึ้น”
ฉู่อู๋เต้าส่ายหัวแล้วพูดว่า “ฉันไม่รู้!”
คำพูดนี้ทำให้เฉียวชิวเมิ่งตะลึง
ฉู่อู๋เต้าพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันไม่ได้โกหก ฉันไม่รู้จริงๆ ที่ฉันเตรียมการสิ่งเหล่านี้ล่วงหน้าก็เพราะประสบการณ์และลางสังหรณ์ที่ยอดเยี่ยม...”
เฉียวชิวเมิ่งฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “มันลึกลับขนาดนั้นเลยเหรอ”
ฉู่อู๋เต้ายิ้ม “คนที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงนักเลงมาทั้งชีวิตอย่างฉันพบเจออะไรมามากกว่าคนหนุ่มสาวอย่างพวกเธอเยอะ การต่อสู้ในโมตูมาถึงช่วงสำคัญแล้ว คนกลุ่มนั้นไม่ยอมถูกกระทำอยู่เฉยๆ และต้องเตรียมการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เป็นแน่...เมื่อคลื่นลมครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้น มันจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน”
“ตอนนี้ฉันเป็นคนพิการ ก็เหมาะแล้วที่จะลุกขึ้นมารับผิด”
“จากนี้ไป ขอมอบกองทัพราตรีนิรันดร์ให้เธอ”
“ฉันสอนทุกอย่างที่สามารถสอนได้ให้เธอหมดแล้ว หวังว่าเธอจะทำงานหนักและไปถึงสภาวะที่เธอคาดหวังได้โดยเร็วที่สุด”
เฉียวชิวเมิ่งกล่าวว่า “ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด!”
ฉู่อู๋เต้าตบบ่าเธอแล้วพูดว่า “เธอจงจำไว้ให้ดีว่ามีความยุติธรรมอยู่ในใจของเธอ แม้ในคืนที่มืดมิด เรายังคงนำพาซึ่งแสงสว่าง!”
เฉียวชิวเมิ่งทอดถอนใจ เธอมองออกว่าฉู่อู๋เต้าตั้งใจที่จะตาย
คลื่นลมที่กำลังปั่นป่วน ณ โมตูแห่งนี้ มันจะต้องเป็นภยันตรายร้ายแรงอย่างแน่นอน
“การประชุมแห่งโมตูหลงเหมินกำลังจะเปิด ฉันคิดว่ามันคงใกล้ถึงเวลาที่ภูเขาน้ำแข็งลูกนี้จะถูกเปิดเผยแล้ว” ฉู่อู๋เต้าหันไปมองหน้าต่างแล้วพึมพำเบาๆ
เฉียวชิวเมิ่งนิ่งเงียบ เธอหวังเพียงว่าเรื่องนี้จะไม่ร้ายแรงอย่างที่ฉู่อู๋เต้าจินตนาการ เพราะเธอไม่อยากให้ฉู่อู๋เต้าต้องตาย
ฉู่อู๋เต้าคิดว่าเขามีความผิดมากเกินไป เพราะอย่างไรแล้วเขาก็เคยเป็นบ้าจนถึงขั้นฆ่าพี่น้องของตัวเองไปหลายคน ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ เขาก็เจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
เขาอยากตายมานานแล้ว แต่เขาไม่เคยพบโอกาสหรือเหตุผลที่เหมาะสมเลย
ฉีเติ่งเสียนสงสัยมาตลอดว่าทำไมตระกูลเสวี่ยถึงดีกับเขาขนาดนี้
ตอนนี้คำเฉลยปริศนาได้ถูกเปิดเผยแล้ว เพียงแต่ว่าเขาก็ยังไม่ได้รับรู้เรื่องนี้
สิ่งที่เขากังวลมากที่สุดตอนนี้คือลู่หลิงหลิง น้องสาวของลู่จ้านหลง ไม่รู้ว่าหญิงสาวผู้น่าสงสารคนนี้อยู่ที่ไหน แล้วเธอกำลังทุกข์ทรมานจากศัตรูของลู่จ้านหลงอยู่หรือเปล่า
อันที่จริง ลู่จ้านหลงต้องใช้ชีวิตอย่างทรมานทุกวันหลังจากได้ดูวิดีโอนั้น
แต่ว่าหลังๆ มานี้ เขาก็ไม่ได้เห็นคนเหล่านั้นทำอะไรต่อจึงไม่รู้เลยว่าพวกนั้นคิดจะทำอะไร
หลังจากที่ซ่งจือเหมยรู้ว่าเจียงซานไห่ได้ติดต่อสามตระกูลใหญ่ในโมตูเพื่อขอความช่วยเหลือ เธอก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยและขอให้หลี่อวิ๋นหว่านโทรหาฉีเติ่งเสียนเพื่อชวนเขามาทานอาหารเย็นที่บ้าน
หลังจากที่หลี่อวิ๋นหว่านเห็นฉีเติ่งเสียน แน่นอนว่าเธอไม่ได้มองเขาดีๆ เธอยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยและพ่นลมออกจากจมูกเบาๆ
“สวัสดีครับน้าซ่ง!” ฉีเติ่งเสียนทักทายซ่งจือเหมยทันที โดยไม่สนใจหลี่อวิ่นหว่านในขณะนั้น
แน่นอนว่าเขารู้อยู่แก่ใจดีว่าหลี่อวิ๋นหว่านไม่พอใจเรื่องอะไร แต่เขาไม่สามารถพูดเรื่องนี้ออกมาแบบเปิดเผยได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นการหาเรื่องใส่ตัวไม่ใช่เหรอ
สาวสวยขายาวคือสิ่งที่ต้องการ! เลขาหน้าอกใหญ่ ฉันก็ต้องการ! เอาทั้งสองอย่างไม่ได้งั้นเหรอ ล้อกันเล่นใช่ไหม ฉันต้องการทั้งหมด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...