เป็นที่ทราบกันดีว่า สำนักงานทางการเมืองเป็นสถาบันที่มีความอ่อนไหวอย่างยิ่งที่ฝ่ายรัฐบาลตั้งขึ้น
พวกเขารับผิดชอบดูแลกรมยุทธการ และในขณะเดียวกันก็รับผิดชอบความมั่นคงของชาติโดยตรง
มีคนจากสำนักงานทางการเมืองเข้ามาจับจ้าวมั่นเอ๋อร์ นี่คือสัญญาณสำคัญมากในสายตาคนนอก
ถึงขั้นเอาหมายจับออกมา เห็นชัดเลยว่า จ้าวมั่นเอ๋อร์เข้าไปครั้งนี้ น่าจะออกมายาก
"ฉันไม่ได้ก่ออาชญากรรม พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาจับฉัน?!" จ้าวมั่นเอ๋อร์พูดด้วยความโกรธ
"คุณจ้าว หยวนเทียนเฉิงพูดทุกอย่างแล้ว รบกวนคุณอย่าต่อต้าน ไม่งั้นเราจะใช้วิธีการบังคับ" เหอเหล่ยพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
หลังจากจ้าวมั่นเอ๋อร์ได้ยิน ก็ชะงัก หยวนเทียนเฉิงพูดทุกอย่างแล้วงั้นเหรอ? นี่มันเป็นไปไม่ได้
แน่นอนว่าหยวนเทียนเฉิงไม่ใช่คนที่จะสารภาพอะไรออกไปง่ายๆ ไหนๆก็มาถึงตําแหน่งนี้แล้ว แต่หลังจากที่อวี้เสี่ยวหลงหยิบสมุดบัญชีที่บันทึกโดยหงเทียนตูออกมา จิตใจของเขาก็พังทลายลง
หลังจากฉีเติ่งเสียนรับเงินจากซ่างกวนจิงเทา อวี้เสี่ยวหลงก็เพิ่มกําลังและล้วงเจอคนมากขึ้น
ซึ่งทําให้ซ่างกวนจิงเทาโมโหจนแทบระเบิด ไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายขนาดนี้มาก่อน รับเงินไปแล้วแต่ไม่ทำอะไรเลย แถมยังเพิ่มกำลังในการสืบอีก?
สมาคมหงของตระกูลช่างกวนในประเทศมี่ ยิ่งเกลียดฉีเติ่งเสียนเข้าไปใหญ่
จ้าวมั่นเอ๋อร์ถูกเหอเหล่ยลักพาตัวไป ก่อนจากไปสีหน้าเธอขาวซีดมาก เห็นได้ชัดเลยวเธอรู้ตัวว่าครั้งนี้คงจะออกมายาก
พอเจิ้งโหยวปินเห็นถึงตรงนี้ แทบจะดีใจลั้ลลาออกหน้าออกตาซะแล้ว!
หลังจากส่งจ้าวมั่นเอ๋อร์ที่ใจเลวทรามคนนี้เข้าไปในคุกแล้ว ตระกูลเจิ้งก็ไม่ต้องเกรงกลัวอำนาจเผด็จการของเธออีก!
เจิ้งซานหมิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และคารวะให้กับฉีเติ่งเสียน เพื่อแสดงความขอบคุณ
ฉีเติ่งเสียนมองเสวี่ยเจินที่กําลังเดินมา หัวเราะแล้วพูดว่า "เมื่อกี้คุณเสวี่ยยังเข้าข้างเจียงซานไห่ จู่ๆก็ทรยศ คือวางแผนไว้แล้ว หรือจู่ๆก็เปลี่ยนใจ?"
เสวี่ยเจินยิ้มและพูดกับฉีเติ่งเสียนว่า "ฉันเป็นคนตรงๆ ก่อนหน้านี้ฉันได้รับพระคุณจากคุณฉู่อู๋เต้าจึงทําอาชีพได้ใหญ่โตแบบนี้ แน่นอนว่าต้องสนับสนุนรองหัวหน้าใหญ่ตั้งแต่ต้นจนจบอยู่แล้ว!"
ฉีเติ่งเสียนฟังแล้วก็ชะงัก ตกใจเล็กน้อย เสวี่ยเจิยได้รับความช่วยเหลือจากฉู่อู๋เต้างั้นเหรอ ไม่แปลกใจที่ก่อนหน้านี้คอยแสดงความปรารถนาดีต่อเขามาตลอด ตอนนี้ยังเรียกนามแฝงของเขาอีก เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่การหลอกลวง
การประชุมครั้งนี้ถือว่าสิ้นสุดลงแล้ว แต่บุคคลอื่นๆที่มารวมตัวกันที่นี่ ถือเป็นโอกาสที่หายากในการขยายเส้นสาย
ดังนั้น แขกอื่นๆก็เลือกที่จะอยู่ต่อ ชิมไวน์ไปพลาง ดึงเพื่อนสามสี่ห้าคนมารวมตัวกัน ต่างแนะนําเส้นสายของกันและกัน
จนกระทั่งตะวันลับฟ้า ทุกคนจึงจากไปอย่างอาลัยอาวรณ์
การประชุมหลงเหมินที่เมืองโมตูในวันนี้ สําหรับแขกอื่นๆแล้วถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ มีเรื่องผกผันครั้งใหญ่ เจียงซานไห่ที่ได้ใจในตอนแรก สุดท้ายกลับกลายเป็นคนบ้า
"คุณน้าซ่ง เรื่องต่างๆของหลงเหมินโมตูก็มอบให้ท่านดูแลนะ ท่านวางใจได้ ผมจะไม่ถามอะไรที่เกินไป" ฉีเติ่งเสียนพูดกับซ่งจือเหมย
"ฮ่าฮ่า นายเป็นนายหางเสือ ถ้านายจะถามอะไรที่เกินไปก็เป็นเรื่องปกติ! ส่วนฉันแค่ช่วยลูกเขยจัดการทรัพย์สินเท่านั้นเอง" ซ่งจือเหมยพูดด้วยรอยยิ้ม รู้สึกภาคภูมิใจมาก
เหวยฮว่าเหมยที่เป็นที่ปรึกษาของซ่งจือเหมยก็ยิ้มจนหน้าบาน ตอนแรกเธอยังดูถูกฉีเติ่งเสียนมากๆ ตอนนี้คิดดูแล้ว ตอนนั้นตัวเธอนั้นแหละที่โง่จริงๆ
ฉีเติ่งเสียนได้ยินคําว่า "ลูกเขย" สองคํานี้ก็ตกใจ กวาดสายตาไปมา โชคดีที่ไม่พบหยางกวนกวน
ฉินถังหู่ที่อยู่ข้างๆดูเหมือนจะรู้ใจฉีเติ่งเสียน ก็พูดเสียงต่ำว่า "ในตอนที่คุณไปพบปะสังสรรค์กับผู้ใหญ่คนโตเหล่านั้น คุณหยางก็จากไปแล้ว และบอกว่าไปจัดการธุระเกี่ยวกับตระกูลหยาง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...