มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 828

สรุปบท บทที่ 828 การระลึกถึง: มังกรผู้ทรงพลัง

บทที่ 828 การระลึกถึง – ตอนที่ต้องอ่านของ มังกรผู้ทรงพลัง

ตอนนี้ของ มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 828 การระลึกถึง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เฉิน หยูได้ทำการตัดสินใจแล้ว เป็นสิ่งที่ทำให้ ฉี เติ่งเสียน รู้สึกว่าเกินความควาดหมายไปมากทีเดียว

ผู้หญิงคนนี้หรือว่าเป็นไปได้มั้ย ที่นางจะมีเบาะแสเกี่ยวกับลู่ หลิงหลิงอยู่แล้วและเก็บเป็นความลับจนกว่าเขาจะหนีออกนอกประเทศจีนไปได้ ก่อนข่าวจะถูกปล่อยออกไป?

เฉินกรุ๊ปจิวเวลรี่ แม้ว่าจะไม่ใช่ธุรกิจหลักของหนานหยางเฉินกรุ๊ปแต่โดยพื้นฐานแล้วธุรกิจจิวเวลรี่ก็มีกำไรมหาศาลทีเดียว

สิ่งนี้ทำให้เขาสงสัยว่า เฉิน หยู ต้องการใช้มือของเขาเพื่อกำจัดผู้ไม่เห็นด้วยในตระกูลเฉิน

ตระกูลเฉินคุมหนานหยางมาหลายปีและได้แผ่กิ่งก้านสาขาออกไป ยิ่งมีคนมากเท่าใด การปลุกระดมความคิดก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น

และมันก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากว่าจะบางคนรู้สึกว่าการให้ความร่วมมือกับตระกูล จ้าวเป็นหนทางสู่ความก้าวหน้า หากว่าไปต่อแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ การมีพันธมิตรหลายๆคนอาจจะเป็นหนทางเดียว

เฉิน หยู ขอให้พ่อครัวในคฤหาสน์เตรียมอาหารสุดหรูสำหรับ ฉี เติ่งเสียน เขาอยู่แต่ในทะเลเมื่อไม่กี่วันมานี้ อาหารทั้งหมดก็คงจะเป็นอาหารทะเล คงเอียนหมดแล้ว

หลังทานอาหารเย็น เฉิน หยูเชิญฉี เติ่งเสียน ออกมาเดินเล่นนอกคฤหาสน์

“ คุณเคยคิดบ้างไหมว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะเอา ลู่ หลิงหลิง ออกจาก เอนท์กรุ๊ป”

“ฉันไม่ได้พูดถึงคนอื่นหรือปัจจัยภายนอกใดๆ แต่หมายถึงตัวเขาเอง”

เฉิน หยูถอดแว่นออก หยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดออก แล้วพูดอย่างใจเย็น

ฉี เติ่งเสียนกล่าวว่า: "ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้ ฉันคิดว่าเนื่องจากเธอมีพี่ชายอย่างลู่ จ้านหลง ตัวตนของเธอไม่น่าจะเปลี่ยนไปจากเดิมมากนะ ออกมาจากคนพวกนั้นได้น่าจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเธอไม่ใช่เหรอ"

เฉิน หยูส่ายหัวแล้วกล่าวว่า "เธอเปลี่ยนชื่อเป็นโอวโม่"

ฉี เติ่งเสียนกล่าว: "มันสำคัญอะไรล่ะ?"

“ยูเมนิเดสเป็นหนึ่งในสามเทพธิดาผู้พยาบาทในตำนานโบราณของยุโรป คุณคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นจริงๆ สำหรับเธอที่จะเปลี่ยนชื่อของเธอเป็น โอวโม่ อีกทั้งเปลี่ยนยังนิสัยครั้งใหญ่ คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ทำกันง่ายๆเหรอ?” เฉิน หยูยิ้มและพูด

“นอกเสียจากว่า ฉันเพิ่งขอให้ใครสักคนไปสือบข้อมูลเพิ่มเติม”

“เอนท์กรุ๊ป ทำความผิดที่พูดไปก็ไม่หมด พวกเขามุ่งเป้าไปที่ชาวจีนโดยเฉพาะ หลอกให้พวกเขาเข้ามาในพื้นที่ในนามของเพื่อนร่วมชาติ แล้วขู่กรรโชกพวกเขาด้วยวิธีต่างๆ”

“และหนึ่งในนั้น โอวโม่คนนี้ลงทออย่างโหดเหี้ยมกับเพื่อนร่วมชาติของเขา”

ใบหน้าของ ฉี เติ่งเสียน ลำตัวแข็งทื่อ และสีหน้าของเขาก็มืดลง

เฉิน หยูสวมแว่นตา พลิกผมเบา ๆ แล้วกล่าวว่า: "เห็นได้ชัดว่านางถูกลักพาตัวและขายให้กับจั่วฉิน จากนั้นเอนท์กรุ๊ปก็ซื้อไป และเธอก็ค่อยๆปีนขึ้นมาจากด้านล่างทีละขั้น มันไม่ง่ายเลย ”

“ในใจของนาง นางคงรู้สึกโกรธมากกับความอยุติธรรมที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานที่นางเจอ ถึงจุดที่ต่ำที่สุด”

“ไม่เช่นนั้น ในเมื่อนางกลายเป็นสมาชิกระดับสูงของเอนท์กรุ๊ปแล้ว นางก็น่าจะผ่อนหนักเป็นเบาได้มากขึ้นแล้วแต่ทำไมนางถึงยังโหดเหี้ยมกับเพื่อนร่วมชาติมากขึ้นกันนะ?”

“นางไม่แยแสกับประเทศจีนที่ให้กำเนิดนางเลย แถมยังเกลียดชังเพื่อนร่วมชาติของนางด้วย”

“พวกที่ทำร้ายนาง ก็คือพวกเพื่อนร่วมชาติของนางนั่นแหละ”

ฉี เติ่งเสียน เม้มริมฝีปากหลังจากได้ยินสิ่งนี้ ครอบครัวของลู่ จ้านหลงได้รับความอยุติธรรมดังกล่าวได้ และมันสามารถทำให้ผู้คนที่ได้รับฟังร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกได้เลย

คนๆนึง จะเปลี่ยนอุปนิสัยหลังจากการทนทุกข์ทรมานจากการถูกโจมตีอย่างหนักเช่นนี้ ก็ไม่แปลกหรอก

ฉี เติ่งเสียน กล่าวขึ้น: "มีสถานที่ในโลกที่แสงไม่สามารถส่องแสงได้เสมอ... อย่างไรก็ตาม ข้าไม่ต้องการช่วยฉุดนางขึ้นมาจากพื้นหรอกนางเปลี่ยนไปแล้ว และนั่นก็เป็นความผิดของนางเอง"

“แต่ไม่ว่านางจะตกนรกแบบไหน ข้าก็มีหน้าที่ดึงนางขึ้นมาให้ได้”

“นี่คือสัญญาระหว่างเพื่อน!”

ฉี เติ่งเสียน รู้ว่าคนอย่าง ลู่ จ้านหลง จะไม่ฆ่าตัวตายง่ายๆ เห็นได้ชัดว่าคนในตระกูล จ้าว เองที่บังคับให้เขาปลิดชีวิตน้องสาวของตนเองและในที่สุดเขาก็เลือกที่จะยุติโศกนาฏกรรมครั้งนี้ด้วยวิธีนี้

“อักษรอะไร?”

“ขอให้ความยุติธรรมเป็นเหมือนน้ำที่ไหลตามลำธาร และความชอบธรรมเหมือนแม่น้ำอันยิ่งใหญ่”

เฉิน หยู กล่าวว่า: "ใครก็ตามที่สามารถพูดสิ่งนี้ได้ก็ควรค่าแก่การเคารพอยู่แล้ว หากตระกูลจ้าว บังคับคนเช่นนี้ให้ตาย ไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องอยู่บนเส้นทางแห่งการทำลายล้าง!"

ฉี เติ่งเสียนกล่าว: "สักวันหนึ่งอุดมคติของเขาก็จะเป็นจริง"

เฉินหยูยังกล่าวอีกว่า: "ฉันก็ปรารถนาเช่นนั้น"

ฉี เติ่งเสียน ถอนหายใจเล็กน้อย กำหมัดของเขาและทำความเคารพไปในระยะไกล และพูดช้าๆ: "จงหลับให้สบายเถิด!"

เฉินหยู มองไปที่ ฉี เติ่งเสียน และถอนหายใจ คนซื่อตรงเช่น ลู่ จ้านหลง ได้รับการข่มเหงเช่นนี้ เพื่อช่วยเขา ฉี เติ่งเสียน จึงถูกกล่าวหาว่าเขาได้ถูกตำหนิจนถึงแก่ความตาย

พวกเขาต่างก็คือคนที่ต้องการทำให้ดินแดนนั้นดีขึ้น แต่ตอนนี้ดินแดนนั้นไม่อนุญาตให้พวกเขาได้ทำเลย

แต่พวกเขายังเต็มไปด้วยความตั้งใจจริงลและต้องการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง

โลกใบนี้หากว่ามีพวกคนเหล่านี้อยู่ อาจจะเพิ่มเติมสีสันขึ้นมาได้บ้าง

สัมผัสที่เขาได้รับยังทำให้เขามีความคิดใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย ภายในจิตใจของเขา

บางทีตระกูล เฉินอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปหนานหยาง อาจจะมีคนอย่าง ฉี เติ่งเสียนและลู่ จ้านหลง ปรากฏตัวออกมา

เมื่อคลื่นแห่งความโหยหาความยุติธรรมและความยุติธรรมท่วมท้นเรา สิทธิพิเศษก็เป็นเพียงเรือที่แตกเป็นเสี่ยงและมีรูรั่วเข้าไปถึงข้างใน

วันสองวันรุ่งขึ้น ฉี เติ่งเสียน และ เฉิน หยู ออกเดินทางไปทางตอนเหนือของอวี้สือกั๋ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง