เฉิน หยูได้ทำการตัดสินใจแล้ว เป็นสิ่งที่ทำให้ ฉี เติ่งเสียน รู้สึกว่าเกินความควาดหมายไปมากทีเดียว
ผู้หญิงคนนี้หรือว่าเป็นไปได้มั้ย ที่นางจะมีเบาะแสเกี่ยวกับลู่ หลิงหลิงอยู่แล้วและเก็บเป็นความลับจนกว่าเขาจะหนีออกนอกประเทศจีนไปได้ ก่อนข่าวจะถูกปล่อยออกไป?
เฉินกรุ๊ปจิวเวลรี่ แม้ว่าจะไม่ใช่ธุรกิจหลักของหนานหยางเฉินกรุ๊ปแต่โดยพื้นฐานแล้วธุรกิจจิวเวลรี่ก็มีกำไรมหาศาลทีเดียว
สิ่งนี้ทำให้เขาสงสัยว่า เฉิน หยู ต้องการใช้มือของเขาเพื่อกำจัดผู้ไม่เห็นด้วยในตระกูลเฉิน
ตระกูลเฉินคุมหนานหยางมาหลายปีและได้แผ่กิ่งก้านสาขาออกไป ยิ่งมีคนมากเท่าใด การปลุกระดมความคิดก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
และมันก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากว่าจะบางคนรู้สึกว่าการให้ความร่วมมือกับตระกูล จ้าวเป็นหนทางสู่ความก้าวหน้า หากว่าไปต่อแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ การมีพันธมิตรหลายๆคนอาจจะเป็นหนทางเดียว
เฉิน หยู ขอให้พ่อครัวในคฤหาสน์เตรียมอาหารสุดหรูสำหรับ ฉี เติ่งเสียน เขาอยู่แต่ในทะเลเมื่อไม่กี่วันมานี้ อาหารทั้งหมดก็คงจะเป็นอาหารทะเล คงเอียนหมดแล้ว
หลังทานอาหารเย็น เฉิน หยูเชิญฉี เติ่งเสียน ออกมาเดินเล่นนอกคฤหาสน์
“ คุณเคยคิดบ้างไหมว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะเอา ลู่ หลิงหลิง ออกจาก เอนท์กรุ๊ป”
“ฉันไม่ได้พูดถึงคนอื่นหรือปัจจัยภายนอกใดๆ แต่หมายถึงตัวเขาเอง”
เฉิน หยูถอดแว่นออก หยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดออก แล้วพูดอย่างใจเย็น
ฉี เติ่งเสียนกล่าวว่า: "ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้ ฉันคิดว่าเนื่องจากเธอมีพี่ชายอย่างลู่ จ้านหลง ตัวตนของเธอไม่น่าจะเปลี่ยนไปจากเดิมมากนะ ออกมาจากคนพวกนั้นได้น่าจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเธอไม่ใช่เหรอ"
เฉิน หยูส่ายหัวแล้วกล่าวว่า "เธอเปลี่ยนชื่อเป็นโอวโม่"
ฉี เติ่งเสียนกล่าว: "มันสำคัญอะไรล่ะ?"
“ยูเมนิเดสเป็นหนึ่งในสามเทพธิดาผู้พยาบาทในตำนานโบราณของยุโรป คุณคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นจริงๆ สำหรับเธอที่จะเปลี่ยนชื่อของเธอเป็น โอวโม่ อีกทั้งเปลี่ยนยังนิสัยครั้งใหญ่ คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ทำกันง่ายๆเหรอ?” เฉิน หยูยิ้มและพูด
“นอกเสียจากว่า ฉันเพิ่งขอให้ใครสักคนไปสือบข้อมูลเพิ่มเติม”
“เอนท์กรุ๊ป ทำความผิดที่พูดไปก็ไม่หมด พวกเขามุ่งเป้าไปที่ชาวจีนโดยเฉพาะ หลอกให้พวกเขาเข้ามาในพื้นที่ในนามของเพื่อนร่วมชาติ แล้วขู่กรรโชกพวกเขาด้วยวิธีต่างๆ”
“และหนึ่งในนั้น โอวโม่คนนี้ลงทออย่างโหดเหี้ยมกับเพื่อนร่วมชาติของเขา”
ใบหน้าของ ฉี เติ่งเสียน ลำตัวแข็งทื่อ และสีหน้าของเขาก็มืดลง
เฉิน หยูสวมแว่นตา พลิกผมเบา ๆ แล้วกล่าวว่า: "เห็นได้ชัดว่านางถูกลักพาตัวและขายให้กับจั่วฉิน จากนั้นเอนท์กรุ๊ปก็ซื้อไป และเธอก็ค่อยๆปีนขึ้นมาจากด้านล่างทีละขั้น มันไม่ง่ายเลย ”
“ในใจของนาง นางคงรู้สึกโกรธมากกับความอยุติธรรมที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานที่นางเจอ ถึงจุดที่ต่ำที่สุด”
“ไม่เช่นนั้น ในเมื่อนางกลายเป็นสมาชิกระดับสูงของเอนท์กรุ๊ปแล้ว นางก็น่าจะผ่อนหนักเป็นเบาได้มากขึ้นแล้วแต่ทำไมนางถึงยังโหดเหี้ยมกับเพื่อนร่วมชาติมากขึ้นกันนะ?”
“นางไม่แยแสกับประเทศจีนที่ให้กำเนิดนางเลย แถมยังเกลียดชังเพื่อนร่วมชาติของนางด้วย”
“พวกที่ทำร้ายนาง ก็คือพวกเพื่อนร่วมชาติของนางนั่นแหละ”
ฉี เติ่งเสียน เม้มริมฝีปากหลังจากได้ยินสิ่งนี้ ครอบครัวของลู่ จ้านหลงได้รับความอยุติธรรมดังกล่าวได้ และมันสามารถทำให้ผู้คนที่ได้รับฟังร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกได้เลย
คนๆนึง จะเปลี่ยนอุปนิสัยหลังจากการทนทุกข์ทรมานจากการถูกโจมตีอย่างหนักเช่นนี้ ก็ไม่แปลกหรอก
ฉี เติ่งเสียน กล่าวขึ้น: "มีสถานที่ในโลกที่แสงไม่สามารถส่องแสงได้เสมอ... อย่างไรก็ตาม ข้าไม่ต้องการช่วยฉุดนางขึ้นมาจากพื้นหรอกนางเปลี่ยนไปแล้ว และนั่นก็เป็นความผิดของนางเอง"
“แต่ไม่ว่านางจะตกนรกแบบไหน ข้าก็มีหน้าที่ดึงนางขึ้นมาให้ได้”
“นี่คือสัญญาระหว่างเพื่อน!”
ฉี เติ่งเสียน รู้ว่าคนอย่าง ลู่ จ้านหลง จะไม่ฆ่าตัวตายง่ายๆ เห็นได้ชัดว่าคนในตระกูล จ้าว เองที่บังคับให้เขาปลิดชีวิตน้องสาวของตนเองและในที่สุดเขาก็เลือกที่จะยุติโศกนาฏกรรมครั้งนี้ด้วยวิธีนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...