มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 843

ชาชัยได้ยินคำพูดนี้ของโอวโม่แล้วตะลึงงันไปครู่หนึ่ง จากนั้นพลันหัวเราะออกมา

เขาเป็นคนของว่านเสิ่งกรุ๊ป แต่เขาชื่นชอบโอวโม่มาก และตามจีบเธอมาโดยตลอด

ถึงแม้ว่านเสิ่งกรุ๊ปกับเอนท์กรุ๊ปจะมีปัญหากันอยู่ไม่น้อย แต่เบื้องบนของว่านเสิ่งกรุ๊ปก็เห็นด้วยกับการกระทำของชาชัย เพราะอย่างไรโอวโม่ก็เป็นหนึ่งในม้าสามตัวที่กุมอำนาจบริษัทในมือเช่นกัน

การที่จีบโอวโม่ได้สำเร็จเหมือนเป็นการโจมตีเอนท์กรุ๊ป อีกอย่างชาชัยยังจะสามารถได้ที่ดินขนาดใหญ่มาครอบครองอย่างสมเหตุสมผลอีกด้วย

โอวโม่หันศีรษะกลับไปพูดกับฉีเติ่งเสียนว่า “คุณอยากคุยกับฉันไม่ใช่เหรอ? ฉันให้โอกาสคุณ”

“ถ้าคุณจัดการกับชาชัยได้ ฉันจะยอมนั่งลงคุยกับคุณดีๆ เลย”

“แน่นอนว่า ถ้าคุณถูกเขาตีจนตายล่ะก็ ไม่ใช่ความผิดของฉันเหมือนกัน!”

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกขำขัน ตนมาเพื่อช่วยให้เธอหลุดพ้นจากทะเลแห่งความขมขื่นนี้ แต่เธอกลับมีท่าทีแบบนี้! ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นแก่ลู่จ้านหลง เขาต้องตบปากผู้หญิงคนนี้สักสองทีแน่

ชาชัยเดินมือล้วงกระเป๋ากางเกงเข้าไปหาฉีเติ่งเสียน กล่าวว่า “นี่ พ่อหนุ่ม ทำคุณโอวโม่โกรธเหรอ?”

“เอ่อ…ฉันลงมือหนักหน่อยนะ! หรือนายจะลงมือเอง?”

“เหอะๆ…”

ระหว่างที่ชาชัยพูด ลูกน้องสองสามคนที่เขาพามาด้วยต่างก็เผยสีหน้าเย้ยหยันออกมาด้วย

ชาชัยฝึกฝนวิชามวยของเมืองเซิ่งเซี่ยง และวิชาโยคะของเมืองเทียนจู๋มาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้จะเป็นตานเลี่ยที่บู๊เก่งที่สุดในเอนท์กรุ๊ป ถ้าเห็นเขาเมื่อไหร่ ก็ต้องวิ่งหนีอ้อมโลกไปเหมือนกัน!

วิชามวยของเมืองเซิ่งเซี่ยงทรมานกายมาก ตอนหนุ่มๆ ร่างกายยังแข็งแรงสามารถเตะต้นไม้หักในคราเดียวได้ แต่พอเข้าสู่วัยแก่มากขึ้น เลือดลมปราณต่างๆ ก็เริ่มเสื่อมสภาพลงเหลือแต่โรคภัยไข้เจ็บ

แต่ทว่า วิชาโยคะของเมืองเทียนจู๋กลับเป็นวิชากังฟูภายในที่ดีมากๆ วิชาหนึ่ง มันสามารถช่วยบริหารกล้ามเนื้อและกระดูก ทั้งยังสามารถปรับเลือดลมปราณได้

เมื่อรวมกันทั้งสองจึงกลายเป็นสิ่งที่เสริมซึ่งกันและกัน

เฉินหยูเห็นว่ามีคนวอนหาที่ตายจึงส่ายศีรษะอย่างอดไม่ได้ เพราะจวบจนวันนี้ ฉีเติ่งเสียนเป็นชายฉกรรจ์คนเดียวที่สู้เก่งมากที่สุดตั้งแต่ที่เธอเคยเจอมา!

หรือจะพูดอีกอย่างคือ คำว่าชายฉกรรจ์นี้ไม่เพียงพอที่จะพรรณนาถึงชายคนนี้เลยด้วยซ้ำ

“ไม่รู้เหมือนกันว่า คนสมัยก่อนที่ทิ้งตำนานเอาไว้พวกนั้น อย่างจางซานเฟิงกับตั๊กม้อพวกนั้น ถ้าฟื้นคืนชีพขึ้นมาจะสามารถสู้เขาได้หรือเปล่า?” ในใจของเฉินหยูไม่คิดถึงเรื่องนี้ไม่ได้เลย

เธอมีความรู้สึกแปลกๆ ที่อัตวิสัยมากอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ ทักษะด้านมวยของฉีเติ่งเสียนอยู่ในระดับที่หนึ่งในคนเจ็ดพันล้านคนทั่วโลกแล้ว

ฉีเติ่งเสียนกวาดสายตามองชาชัยรอบหนึ่ง กล่าวว่า “ทักษะกังฟูของนายไม่เลวเลย แต่ดีที่สุดอย่ามีเรื่องกับฉันจะดีกว่า ถ้าฉันฆ่าในตาย มันจะดูไม่ให้เกียรติเพื่อนไปหน่อย”

ชาชัยได้ยินคำพูดนี้แล้วพลันหัวเราะออกมาทันใด บริเวณข้างๆ เขามีรถกอล์ฟไฟฟ้าคันหนึ่งจอดอยู่พอดี

เขาหันตัวกลับไปแล้วยกเท้าขึ้น เท้าขวาของเขาฟาดเตะไปตรงๆ ราวกับขวานใหญ่อย่างไรอย่างนั้นทันที!

“โครม!”

รถกอล์ฟไฟฟ้าคันนั้นถูกเตะจนลอยขึ้นมา ส่วนประกอบของรถต่างๆ ระเบิดกลางอากาศ และกระเด็นห่างออกไปไกลห้าเมตรถึงจะตกลงพื้น

“เตะนี้มาจากพลังกำลังภายในยี่สิบปี นายรับไหม?” ชาชัยไม่พูดพล่ำทำเพลงอีกต่อไป หลังจากที่เก็บเท้ากลับที่เดิม เขาก็ประสานมือเข้าด้วยกัน ทำท่าทำความเคารพก่อนขึ้นชกของนักมวย

“นี่เป็นโยคะพุทธตันตรยาน มีพลังคิงคองปราบอสูร” ฉีเติ่งเสียนมอง แต่ไม่สะทกสะท้าน

โอวโม่ปริปากเอ่ยขึ้นในขณะนี้ “ไสหัวไปตอนนี้ยังทันนะ ฉันบอกให้เขาปล่อยคุณไปได้!”

เฉินหยูเอ่ยยิ้มๆ “เธอกลัวว่านายจะถูกตีตายได้เลยมีจิตสำนึกขึ้นมาน่ะ!”

ชาชัยตอบ “เขาหนีไม่พ้นแล้ว ลำพังแค่คำพูดที่เขาพูดเมื่อกี้ ฉันก็จะจัดการเขาซะ”

หลังจากเอ่ยคำนี้ออกไป เขาพลันกำหมัดที่ฝึกซ้อมจนแน่นขึ้นมาพร้อมเอ่ยขำขันกับฉีเติ่งเสียนว่า “ของฉันใหญ่มาก นายทนหน่อยนะ”

“ตูม!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง