มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 849

กำลังของปานซือแย่กว่ามั่วคังเล็กน้อย แต่ยังไงก็ตามทั้งสองคนก็ทำงานภายใต้คนคนเดียวภายในอดีต นายพลระดับผู้บังคับบัญชาและทหารที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาที่มีมิตรภาพไม่มากก็น้อย ไม่ง่ายที่จะเริ่มการต่อสู้

ดังนั้น ปานซือได้ตัดขาดการเส้นทางการเงินของมั่วคังไป มั่วคังก็ทำได้แค่เพียงอดทนเอาไว้ ใช้วิธีการทางอ้อมในการแก้ไข

ในขณะที่มั่วคังได้พาอวี้คุน ฉีเติ่งเสียน ไปจนถึงเฉินหยูและถึงสถานที่แล้ว ปานซือได้จัดเตรียมการต่อสู้ไว้แล้ว ทหารแต่ละคนพร้อมอาวุธและกระสุนครบมือเต็มจำนวน

“ยินดีต้อนรับนายพลมั่วคัง!”

พวกทหารต่างพากันร้องเสียงดังก้อง ทำให้มั่วคังนั้นสะดุ้งตกใจ

ในเวลานี้ปานซือก็ได้เดินออกมา นี่คือวัยกลางคนที่ทั้งดำและผอม แก้มทั้งสองข้างซูบลงอย่างชัดเจน ใบหน้าที่เย็นชามองไปที่มั่วคัง พูด:“ยังไง เจอคนแล้วหรอ?”

มั่วคังเสียงเหอเหอ และเอ่ย:“ปานซือ ฉันก็แค่กลัวว่าคุณไม่อนุญาตให้สู้อ่า!ผู้มีฝีมือสูงทั้งสองคนนี้ สามารถชนะคุณจนอึไหลได้เลย”

ปานซือพูดอย่างจองหอง:“คุณจะสามารถไปหาผู้มีฝีมือสูงอะไรมาได้ เหอะ คงจะไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ใช่มั้ย?”

ผู้หญิงที่เขาพูดถึง แน่นอนว่าคือเฉินหยู

เฉินหยูแบมือออกและพูด:“มือของฉันแรงน้อย จะเอาอะไรไปสู้กับคุณล่ะ?”

มั่วคังหัวเราะกับอวี้คุณและฉีเติ่งเสียน เอ่ยพูด:“ทั้งสองคน พวกคุณใครยินยอมที่จะขึ้นไปกับเจอกับนายพลปานซือก่อน?ก็ดีจะได้สั่งสอนนายพลปานซือรู้ ว่าอะไรที่เรียกว่าภูเขาสูงมียังมีภูเขาที่สูงกว่า!”

ดวงตาของปานซือมองไปที่ทั้งสองคนและสังเกตุอย่างละเอียด มากไปกว่านั้นหยุดมองไปที่บนร่างของอวี้คุน เพราะว่า รูปร่างของฉีเติ่งเสียนนั้นไม่ได้ทำให้คนตกใจเลยแม้แต่น้อย ไม่เหมือนกับผู้มีฝีมือสูง

อวี้คุนก็ได้สังเกตุปานซืออย่างละเอียด ก็เพียงรู้สึกว่าไอ้ชายคนนี้มองไปแล้วดูเหมือนว่าผอมอ่อนแอ แต่ภายในร่างกายกลับซ่อนพลังที่ทรงพลังเอาไว้!

“ปานซือนี่ ฝึกพลังอันแข็งแกร่งของกระดูกโดยเฉพาะ เป็นผู้มีฝีมือสูงที่ร้ายกาจ”อวี้คุนครุ่นคิดภายในใจเงียบๆ

อะไรคือพลังอันแข็งแกร่งของกระดูก?

พลังอันแข็งแกร่งของกระดูก เป็นพลังที่มาพร้อมกับการเกิด

ทารกที่พึ่งคลอดนั้นเหมือนจะไม่ได้มีความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้ออะไร แต่เมื่อพวกเขาจับอะไรบางอย่างได้ คนอื่นก็ยากที่จะงัดนิ้วมือของพวกเขาออก พลังกล้ามเนื้อนี้ มันคือความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อและกระดูก

เมื่อรอจนกว่าทารกจะโตขึ้น กล้ามเนื้อเริ่มมีการเจริญเติบโต ได้ใช้งานมากขึ้น มันก็คือความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อแล้ว

มวยภายใน สิ่งที่สำคัญที่สุดในการบุกเบิกคือความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก พลังของกล้ามเนื้อ ก็เป็นสิ่งที่รองลงมา

นี่มันก็หมายถึงอะไร ปรมาจารย์มวยหลายคนในสังคมเก่า ถึงแม้จะดูเหมือนอ่อนแอจนถูกลมพลัดปลิวไปได้ แต่ในความเป็นจริงเมื่อลงมือ กลับมีพลังที่สามารถทุบทองและหินแตก

เมื่อมองฉีเติ่งเสียนก็ดูเหมือนไม่ได้แข็งแกร่งอะไร แต่เมื่อออกแรง พลังกลับน่ากลัวกว่าจอมยุทธทรงพลังพวกนั้นอีก

ปานซือที่ผอมจนเป็นแบบนี้ แต่สามารถพอที่จะทำให้มั่วคังจัดอันดับให้เป็นผู้มีฝีมือสูงที่ร้ายกาจ ใครจะจินตนาการได้ว่าการฝึกพลังอันแข็งแกร่งของกระดูกจะไปถึงระดับใด!

“มั่วคังเป็นขุนศึกในด้านหนึ่ง มีอำนาจแบบนี้ ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถหาผู้มีฝีมือสูงได้ แต่จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่ได้เจอคนที่เหมือนปานซืออย่างงั้น อย่างที่คิดและรู้กันว่าระดับของเข้านั้นน่ากลัวมาก!”

“ก่อนที่จะรู้สไตล์การต่อสู้และฝีมือของคู่ต่อสู้ การประมือกันอย่างลวกๆ สำหรับฉันแล้วมันไม่เอื้อผล”

“ให้ไอ้ขยะที่ชื่อฉีเติ่งเสียนนี้ลงไปประลองก่อน!”

ความคิดแบบขึ้นมาในใจของอวี้คุน เตรียมพร้อมคุมกำลังรบ ให้ฉีเติ่งเสียนขึ้นไปก่อนและตรวจสอบดูว่าปานซือจริงๆแล้วเป็นยังไง

ปานซือโบกมือไปที่มั่วคัง พาเขาเข้าไปที่สนามฝึก หลังจากนั้น ปานซือไปที่กลางสนามและยืนอยู่ตรงกลาง ถอดเสื้อคลุมออก มองไปทุกทิศทาง เอ่ย:“ใครจะให้ฉันส่งไปตายคนแรก?!”

อวี้คุนหันไปทางมั่วคังและพูด:“ปรมจารย์ฉีท่านนี้ไม่ใช่พูดว่าเก่งกว่าฉันหรอกหรอ? ให้เขาไปลองลองก่อนก็พอแล้ว มาดูกันว่าเขาจะยังสามารถพูดโอ้อวดแบบนี้ออกมาได้อยู่หรือไม่!”

เฉินหยูขมวดคิ้วพูด:“มีสิทธิอะไร?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง