มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 87

“ไม่เป็นไร ไอ้ขยะพวกนี้ทำอะไรผมไม่ได้หรอก”

ฉีเติ่งเสียนพูดหัวเราะให้กับเฉียวชิวเมิ่ง พร้อมกับวางมือเบาๆ

ซางจวินเป็นลมสลบคาโต๊ะไปแล้ว จากแรงต่อยเมื่อกี้ทำให้แก้มของเขาบิดเบี้ยวและน่าจะมีกระดูกเคลื่อนด้วย

เฉียวชิวเมิ่งเบิกตากว้างมองไปยังฉีเติ่งเสียน ซางจวินเป็นถึงหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของเซี่ยงกรุ๊ป ยิ่งไปกว่านั้นเขาเคยเป็นทหารรับใช้ในกองกําลังพิเศษอีกด้วย!

ฝีมือระดับนี้ กลับถูกฉีเติ่งเสียนต่อยเบาๆที่ปากทำไมถึงได้ปลิวไปได้ขนาดนั้น? เป็นไปได้อย่างไง!

เจิ้งกวงหมิงนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความตกใจจนปากสั่นตัวสั่น เวลานี้เขารู้แล้วว่าฉีเติ่งเสียนั้นมีพลังรุนแรงมากจริงๆ!

พนักงานในแผนกความปลอดภัยแต่ละคนก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา ต่างพากันอ้าปากค้าง พร้อมกับหันไปมองซางจวินที่สลบอยู่บนโต๊ะ

“หัวหน้าเจิ้งกวงหมิง ตอนนี้ถึงตาที่พวกเราต้องคุยกันแล้ว คุณอยากจะล้อเล่นกับผมต่อไหม? หรือว่า……” ฉีเติ่งเสียนพูด

ไม่ต้องรอให้ฉีเติ่งเสียนพูดบ เจิ้งกวงหมิงก็รีบหยิบเอกสารออกมาจากซองแล้วรีบเซ็นทันที ก่อนจะพูดขึ้นว่า: “รองหัวหน้าฉี ผมคิดว่าเฉียวกรุ๊ปมีคุณสมบัติเหมาะกับโครงการนี้ของพวกเรามาก!”

“ผมเซ็นเอกสารเรียบร้อยแล้ว เฉียวกรุ๊ปสามารถรับโครงงานนี้และร่วมมือกับพวกเราได้เลย!”

“คุณลองดูก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง?!”

ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าเจิ้งกวงหมิงจะเสียขวัญได้เร็วขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากก่อนจะเดินเข้าไปรับเอกสารมาให้เฉียวชิวเมิ่งโดยตรง

เฉียวชิวเมิ่งก็รู้สึกประหลาดใจอย่างน่ายินดี ไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วจะได้โครงการนี้มา!

“คุณรู้ว่าต้องทำอย่างไรตั้งแรกก็จบแล้วไหม?” ฉีเติ่งเสียนถาม ก่อนที่จะเอามือโบกไปมาที่หน้าของเจิ้งกวงหมิง

ในแววตาของเจิ้งกวงหมิงมีแต่ความเกลียดชัง แต่ใบหน้ากลับยิ้มแย้ม พร้อมพูดอย่างประจบสอพลอว่า: “รองหัวหน้าฉีพูดถูก ต่อไปนี้ถ้าเป็นเรื่องของเฉียวกรุ๊ป ผมจะไฟเขียวให้ทุกเรื่อง!”

เฉียวชิวเมิ่งเป็นกังวลว่าฉีเติ่งเสียนจะก่อเรื่องอีก เธอจึงรีบดึงเขาไว้แล้วพูดว่า: “ในเมื่อหัวหน้าเจิ้งตกลงแล้ว เรื่องนี้ก็จบแค่นี้แล้วกัน พวกเราก็ไม่ได้สูญเสียอะไร มันไม่คุ้มที่จะไปสร้างศัตรูเพิ่มอีก”

ฉีเติ่งเสียนถูกเฉียวชิวเมิ่งลากตัวออกไป

เจิ้งกวงหมิงชำเลืองมองเหล่าพนักงานในแผนกความปลอดภัย แล้วพูดด้วยความโกรธว่า: “มัวยืนบื้ออยู่ทำไม รีบไปเรียกรถพยาบาลมาสิ!”

เมื่อรถพยาบาลมาถึง เจิ้งกวงหมิงก็หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาท่านผู้เฒ่าเฉียว

“ท่านผู้เฒ่าเฉียว ลูกเขยท่านแน่มากนะ พาเฉียวชิวเมิ่งมาขอโครงการและบีบบังคับให้ผมเซ็นตกลง แล้วยังมาทำร้ายผมอีกด้วย!”

“ถ้าพวกคุณไม่ให้นายฉีพาเฉียวชิวเมิ่งมาขอโทษผม เฉียวกรุ๊ปของพวกคุณรอล้มละลายได้เลย!”

ท่านผู้เฒ่าเฉียวกำลังจะพูดบางอย่าง แต่อีกฝ่ายก็ตัดสายทิ้งไปแล้ว

เฉียวชิวเมิ่งขับรถพาฉีเติ่งเสียนกลับบ้าน

ฉีเติ่งเสียนที่นั่งอย่างสบายๆอยู่ข้างคนขับ ก็หยิบการ์ดใบหนึ่งขึ้นมาเล่น มันเป็นการ์ดวีไอพีของโรงแรมเทียนตี้ที่ฉู่อู๋เต้าให้เขาไว้ก่อนที่จะออกจากเรือนจำ

“วันนี้ต้องขอบใจนายที่ช่วยฉันไว้ แต่นายก็ใจร้อนไปหน่อย” เฉียวชิวเมิ่งพูดอย่างจริงจังขณะที่มองไปบนถนนข้างหน้า

“กับไอ้พวกโง่แบบนั้น มันต้องใช้วิธีแบบนี้แหละ ถ้าคุณไม่ได้อยู่ตรงนั้น ผมคงขี้เกียจคุยกับพวกมันแน่!” ฉีเติ่งเสียนยักไหล่ ก่อนจะพูดแบบไม่รู้สึกอะไร

เฉียวชิวเมิ่งเม้มปากก่อนจะพูดว่า : “ฉีเติ่งเสียน ถ้านายอยากเป็นคนที่เหนือกว่า ก่อนจะพูดหรือจะทำอะไรต้องคิดซะก่อน! อย่าเอาแต่ปากเสียแล้วก็ลงไม้ลงมือแบบนั้น”

“ฮ่า……อะไรที่เรียกว่าเหนือกว่า? ทุกคนมีสิทธิ์เท่ากัน และผมคิดว่ามันไม่มีความแตกต่างอะไร ยิ่งกว่านั้นถ้าคุณไม่สามารถทำสิ่งต่างๆได้อย่างตามใจ ไม่เป็นไปตามที่ตัวเองหวังแล้วชีวิตมันจะไม่มีความสนุกอะไร?” ฉีเติ่งเสียนโต้แย้งและไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเฉียวชิวเมิ่งเลย

เฉียวชิวเมิ่งอดไม่ได้ที่จะพึมพําในใจของเธอว่า: “มีแต่โคลนติดอยู่ในใจจริงๆ! เขาเป็นผู้คุมเรือนจำมาจากที่เล็กๆ วิสัยทัศน์ของเขาน่าจะกว้างพอๆกับแค่ในเรือนจำเท่านั้น!”

“ถ้าเขาไม่เปลี่ยนแปลง เขาก็คงไม่มีวันได้คู่กับฉัน!”

เฉียวชิวเมิ่งไม่พบว่าความคิดของตัวเองนั้นเปลี่ยนไปแล้ว แต่ก่อนมักจะคิดอยู่เสมอว่าฉีเติ่งเสียนนั้นไม่มีอะไรคู่ควรกับเธอได้เลย แต่ตอนนี้เธอคิดว่าถ้าฉีเติ่งเสียนไม่เปลี่ยนตัวเอง เขาก็จะไม่สามารถคู่ควรกับเธอได้

ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมองใบหน้าสวยงามของเฉียวชิวเมิ่ง สัดส่วนรูปร่างชัดเจน โดยเฉพาะหน้าอกที่คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ เขามองจนอยากจะเอาลูกตายัดเข้าไปมองในเสื้อผ้า

“ทำไมตอนนี้ฉันถึงชอบมองผู้หญิงขึ้นเรื่อยๆ? ไม่ได้ มันส่งผลให้ตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย ถ้าวันนี้เธอไม่ได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ เจิ้งกวงหมิงและซางจวินทั้งสองคนนั้นคงไม่มีโอกาสได้ส่งเสียงน่ารำคาญต่อหน้าฉันนานขนาดนั้นหรอก!” ฉีเติ่งเสียนแอบคิดและรีบดึงสายตากลับทันที

ภายในเรือนจำนั้น ไม่มีนักโทษคนไหนกล้าพูดไร้สาระต่อหน้าฉีเติ่งเสียน?

เฉียวชิวเมิ่งสังเกตได้ว่าฉีเติ่งเสียนรีบละสายตาจากเธอไป ก่อนจะยิ้มและคิดในใจว่า: “นายคงรู้ว่าตัวเองไม่คู่ควรกับฉันใช่ไหม?”

เมื่อเฉียวชิวเมิ่งจอดรถภายในโรงรถเรียบร้อย เธอก็หยิบสัญญาและเตรียมรายงานข่าวดีให้พ่อแม่ของเธอทราบ

ยังไม่ทันจะได้เดินเข้าประตูบ้าน ก็มีรถอีกคันเข้ามาจอด ท่านผู้เฒ่าเฉียวลงจากรถลงมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“คุณปู่ หนูได้โครงการของเซี่ยงกรุ๊ปมาแล้ว……” เฉียวชิวเมิ่งกล่าวอย่างภาคภูมิใจและทักทายชายชรา

ท่านผู้เฒ่าเฉียวยกมือขึ้นตบหน้าเฉียวชิวเมิ่งและพูดอย่างโกรธเคืองว่า: “เธอมันไร้ประโยชน์!”

“ฉันให้เธอไปจัดการเรื่องโครงการให้สำเร็จ แต่เธอกลับพาฉีเติ่งเสียนไปข่มขู่หัวหน้าเจิ้ง? แล้วยังไปทำร้ายเขาอีก?”

“ฉันไม่คิดว่าเธอจะทำตัวไร้ยางอายแบบนี้เพื่อรักษาตําแหน่งของเธอไว้? ฉันจะบอกอะไรให้นะ ตอนนี้หัวหน้าเจิ้งโกรธแค้นมาก!”

“ถ้าเธอไม่ได้รับการให้อภัยจากหัวหน้าเจิ้ง อย่าพูดถึงถอนตำแหน่งประธานบริษัทเลย ฉันนี่แหละจะไล่เธอออกจากวงศ์ตระกูลเอง!”

เฉียวชิวเมิ่งถึงกับตกตะลึง จู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่สามารถกลั้นไว้ได้

ฉีเติ่งเสียนเลิกคิ้วอย่างไม่พอใจเล็กน้อย

“พาไอ้ขยะฉีเติ่งเสียนไปขอโทษหัวหน้าเจิ้งเดี๋ยวนี้ จะต้องแลกด้วยอะไรก็ได้เพื่อให้เขาให้อภัย มิฉะนั้นฉันจะไล่เธอออกจากวงศ์ตระกูล!” ท่านผู้เฒ่าเฉียวพูดด้วยความโมโหอย่างมาก

คําพูดของท่านผู้เฒ่าเฉียวนั้นชัดเจน คือต้องการให้เฉียวชิวเมิ่งยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้เขาให้อภัย

โดยธรรมชาติแล้ว ร่างกายของเธอก็เป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายเช่นกัน

เสียงดังจนทำให้พั่งซิ่วอวิ๋นและเฉียวกั๋วเทาตกใจ หลังจากที่พวกเขาออกมาก็ตกตะลึงตาค้างเมื่อเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเย็นชาว่า: “ท่านผู้เฒ่า ท่านทำแบบนี้มันไม่ค่อยเหมาะเลยนะครับ? ถึงยังไงชิวเมิ่งก็เป็นหลานสาวของคุณ เจิ้งกวงหมิงรังแกเธอก็เลยโดนผมต่อย ที่ท่านพูดถึงเจิ้งกวงหมิงมันแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?”

“เหอะ ถ้านายมีอำนาจเหมือนกับเจิ้งกวงหมิง นายอยากพูดอะไรก็ได้ที่นายต้องการ! แต่นายมันแค่ไอ้ตัวไร้ประโยชน์ ฉันต้องอธิบายอะไรให้นายฟัง?”

“ถ้านายมีความสามารถแทนที่เจิ้งกวงหมิงได้ และฉันจะพยายามทําให้ดีที่สุดเพื่อเอาใจนายเลย!”

“หายนะครั้งนี้นายกับเฉียวชิวเมิ่งเป็นคนสร้างขึ้นมา พวกแกต้องจัดการทุกอย่างให้ฉันและต้องเอาโครงการนี้มาให้ได้!”

“ถ้าความต้องการของฉันขาดหายไปแม้แต่นิดเดียว พวกแกก็ออกไปจากตระกูลเฉียวได้เลย!”

หลังจากพูดแบบนี้ ท่านผู้เฒ่าเฉียวก็กลับไปขึ้นรถด้วยความโกรธ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง