มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 887

สรุปบท บทที่ 887 มั่งคั่งร่ำรวย: มังกรผู้ทรงพลัง

ตอน บทที่ 887 มั่งคั่งร่ำรวย จาก มังกรผู้ทรงพลัง – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 887 มั่งคั่งร่ำรวย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง มังกรผู้ทรงพลัง ที่เขียนโดย จาง หลงหู เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“ขอแสดงความยินดีกับประธานหลี่ที่ประมูลได้วิลล่าวิมานเมฆไปด้วยค่ะ ยินดีด้วยนะคะ!"

“พวกคุณแน่ใจหรือว่ากำลังแสดงความยินดีกับผม ไม่ได้เยาะเย้ยว่าผมรวยแต่โง่?” ฉีเติ่งเสียนเหลือบมองเจ้าภาพและพวกผู้นำที่อยู่ข้างๆ เขานิดหนึ่งพลางถาม

“เอ่อ...”

คนเหล่านั้นถูกจี้ตรงจุดด้วยคำพูดที่ตรงไปตรงมาของเขา พวกเขาต่างชะงักเพราะไม่รู้จะตอบอย่างไร

นั่นคือสิ่งที่พวกเขาคิดอยู่ในใจจริงๆ ใช้เงินกว่าหนึ่งพันห้าร้อยล้านเพื่อซื้อวิลล่าหลังเดียว ถ้าไม่ใช่คนรวยแต่โง่แล้วจะเป็นอะไรได้อีก?

แต่ถึงกระนั้นฉีเติ่งเสียนก็ไม่ได้สนใจ ถึงอย่างไรเงินเหล่านี้ก็ได้มาจากการหลอกลวง ชิงทรัพย์ การสังหารและทำเรื่องผิดกฎหมาย ไม่ใช่เงินที่หามาจากช่องทางปกติ ดังนั้นการใช้เงินเหล่านี้จึงไม่ใช่เรื่องน่าเสียดายเลยสักนิด!

“ขอแสดงความยินดีกับประธานหลี่ที่ได้วิลล่าวิมานเมฆไปด้วยนะคะ ไม่ทราบว่าประธานหลี่สนใจจะลงทุนกับเซี่ยงกรุ๊ปไหมคะ” เซี่ยงตงฉิงเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มและถามอย่างอ่อนโยน

มองเผินๆ เหมือนอ่อนโยน แต่ความจริงซ่อนเร้นไว้ด้วยเจตนาฆ่า โจรที่ขโมยดินสอของเธอจะต้องตายอย่างสาสม!

ฉีเติ่งเสียนกระแอมสองครั้งและกล่าวว่า “กล่าวได้ดีๆ กลับไปผมจะตรวจสอบดูว่ามีการลงทุนที่จำเป็นไหม”

หวังว่านจินกับจ้าวเฮยหลงแค่มองกิริยาท่าทางก็รู้ทันทีว่าเขาเป็นใคร ดังนั้นพวกเขาจึงออกไปทันทีที่การประมูลจบลง

หลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา

ทว่าหม่าหงจุนบังเอิญเดินออกมาและเอ่ยกับฉีเติ่งเสียนว่า “ประธานหลี่ ออกไปคุยกันหน่อยได้ไหมครับ”

ฉีเติ่งเสียนยิ้มให้เซี่ยงตงฉิงและบอกว่า “ประธานเซี่ยงกรุณารอสักครู่”

เมื่อคนที่ยังไม่ได้กลับไปไหนเห็นภาพที่เกิดขึ้นก็อดหัวเราะไม่ได้ พวกเขารู้สึกว่าช่างเป็นการชมที่สนุกจริงๆ

หม่าหงจุนพยายามประจบประแจงหวังเจี้ยนเฉิง ดังนั้นเขาจึงมาเจรจากับฉีเติ่งเสียน ถ้าฉีเติ่งเสียนยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เขาก็ต้องทนรับผลของการกระทำของเขาเอง

“ประธานหลี่ คุณคงจะไม่รู้ว่าคุณหวังเจี้ยนเฉิงชอบวิลล่าวิมานเมฆแห่งนี้มาก” หม่าหงจุนถามด้วยรอยยิ้ม

“เขาจะชอบหรือไม่ชอบแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม” ฉีเติ่งเสียนมองหม่าหงจุนและถามพลางยักไหล่

สีหน้าของหม่าหงจุนเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาบอกว่า “ถ้าเขาชอบคุณก็ไม่ควรจะยื้อแย่งกับเขา! สถานะและตำแหน่งของเขาอยู่ตั้งขนาดนั้น คุณทำให้เขาไม่พอใจก็เท่ากับว่าคุณไม่ให้เกียรติผม”

ฉีเติ่งเสียนยิ้มและบอกว่า “ที่แท้ก็ยังมีเรื่องแบบนี้อยู่อีกเหรอ? งั้นถ้าผมชอบภรรยาของคุณแล้วจะไปหาเธอที่บ้านคุณคืนนี้ ตอนคุณจะออกไปข้างนอกคุณช่วยปิดประตูให้ผมหน่อยได้ไหม”

คำพูดของฉีเติ่งเสียนทำให้สีหน้าของคนฟังเปลี่ยนไปอย่างห้ามไม่อยู่ นี่มันจะจองหองเกินไปแล้ว ถึงกับกล้าพูดกับนายหางเสือหลงเหมินแห่งจังหวัดตงไห่อย่างนี้เลยหรือ มันยังอยากมีชีวิตอยู่ไหม?

ต้องรู้ก่อนว่าหม่าหงจุนเพิ่งจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งได้ไม่นาน เวลานี้เป็นช่วงเวลาที่กำลังสุขสมหวัง มายั่วยุเขาตอนนี้ไม่ได้แปลว่าอยากจะเจอกับปากกระบอกปืนหรอกหรือ

“บอสใหญ่หนานหยาง คุณไม่ได้อยากตายใช่ไหม? คิดว่ามีเงินเยอะแล้วจะทำตัวกำเริบเสิบสานที่หัวกั๋วยังไงก็ได้งั้นเหรอ” หม่าหงจุนมองฉีเติ่งเสียนด้วยสีหน้าอึมครึม เอ่ยพลางแสยะยิ้มใส่เขา

ฉีเติ่งเสียนยื่นมือออกมาตบใบหน้าที่โรยราตามอายุของเขาเบาๆ เขายิ้มและบอกว่า “ขออภัยด้วย การมีเงินช่วยให้ทำตามอำเภอใจได้จริงๆ!"

“บอสใหญ่หนานหยาง... คิดจริงๆ หรือว่ามีเงินแล้วจะเมินใส่ใครยังไงก็ได้ ที่นี่คือหัวกั๋ว จองหองแบบนี้เดี๋ยวเดียวได้ตายแน่!” พอคนเห็นว่าฉีเติ่งเสียนจองหองอวดดีขนาดนี้ก็ส่ายหัวอย่างระอาและอดกังวลแทนไม่ได้

ผู้นำทางฝั่งเจ้าภาพเห็นดังนั้นก็มองหน้ากันไปมา จากนั้นจึงทยอยจากไปทีละคน

พวกเขาได้รับเงินจากการประมูลแล้ว ต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา ความรับผิดชอบของพวกเขาเสร็จสิ้น สุดท้ายแล้วบ้านหลังนี้จะตกอยู่ในมือใครก็ไม่สำคัญ

เมื่อหวังเจี้ยนเฉิงเห็นว่าพวกผู้จัดงานออกไปกันหมดแล้ว เขาจึงเดินเข้ามาหาช้าๆ ยิ้มให้ฉีเติ่งเสียนและเอ่ยว่า “คนบ้านนอกคอกนาจากหนานหยางก็ใช่ย่อยเหมือนกัน ค่อนข้างมีอำนาจสินะ?”

ฉีเติ่งเสียนกล่าวว่า “ขออภัยด้วยจริงๆ ที่ตบหน้าเปื่อยยุ่ยของคุณ อะไรๆ ผมก็มีไม่มากหรอก มีมากแค่เงิน”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมต้องขอตัวก่อนละครับ!”

ว่าแล้วหม่าหงจุนก็โบกมือ หันหลังพาลูกน้องของตัวเองจากไปทันที

เวลานี้ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความสับสน คนจากหนานหยางผู้นี้แท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่ แค่คำพูดประโยคเดียวก็ทำให้หม่าหงจุนตกใจกลัวได้เลยหรือ? หม่าหงจุนเป็นถึงนายหางเสือหลงเหมินแห่งจังหวัดตงไห่ นี่เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจมากๆ เลยนะ!

ทันทีที่หม่าหงจุนจากไป สีหน้าของหวังเจี้ยนเฉิงก็เปลี่ยนเป็นอึดอัดและหน้าเสียเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วมุ่นและเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ช่างไร้ประโยชน์จริงๆ!"

ฉีเติ่งเสียนยิ้มและบอกว่า “ขออภัยด้วย ดูเหมือนคนที่คุณเชิญมาจะกลัวผมจนหนีไปแล้ว”

หวังเจี้ยนเฉิงหรี่ตามองฉีเติ่งเสียนตั้งแต่หัวจรดเท้า เขายิ้มเล็กน้อยและเอ่ยว่า “หลี่ปั้นเสียนใช่ไหม ดี! ผมจะจำคุณไว้!”

ฉีเติ่งเสียนบอกว่า “ขอบพระคุณ!"

หวังเจี้ยนเฉิงหันหลังและเดินจากไป เขาค่อนข้างหงุดหงิดและขายหน้าที่เขาคว้า “วิลล่าวิมานเมฆ” มาไม่ได้

ฉีเติ่งเสียนมั่งคั่งร่ำรวยเกินไป ดังนั้นเขาจึงตะโกนเสนอราคาหนึ่งพันห้าร้อยล้านได้ทันที ซึ่งเงินนั้นเทียบเท่ากับเงินหนึ่งหมื่นล้านในหัวกั๋วเลยทีเดียว

ถ้าหวังเจี้ยนเฉิงเอาเงินหมื่นล้านมาประมูลด้วยความคิดแค้นจริงๆ สุดท้ายต่อให้ประมูลได้สำเร็จเขาก็จะกลายเป็นตัวตลกให้คนอื่นหัวเราะเยาะ

ตั้งแต่ฉีเติ่งเสียนเริ่มเสนอราคา เขาก็ตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ถ้าชนะ คนอื่นจะหัวเราะเยาะว่าเขาเป็นคนรวยแต่โง่ ต้องเสียภาษีด้วยไอคิว

ถ้าแพ้ คนอื่นจะคิดว่าตระกูลหวังก็ไม่เท่าไหร่ เทียบกับบอสใหญ่หนานหยางไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

เซี่ยงตงฉิงไม่รู้ว่ามายืนอยู่ที่ด้านหลังของฉีเติ่งเสียนตั้งแต่เมื่อไร เธอเอ่ยถามอย่างเย็นชาว่า “ดินสอของฉันล่ะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง